บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 182
บทที่182 ความเป็นห่วงของท่านอ๋อง
”ดังนั้น ท่านจึงต้องการให้ข้านำสูตรอายุยืนยาวให้กับท่าน”
กู้อ้าวเวยเพียงดึงมือของเขาออกไป เหมือนว่าซ่านจินจื๋อคิดว่านางมาถึงตำหนักอ๋องจิ้งนั้นไม่ได้จริงใจอย่างไรอย่างนั้น นางสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าซ่านจินจื๋อไม่พ้นทำเพื่อซูพ่านเอ๋อเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นก็เพื่อตัวของเขาเอง
”พวกเราระแวงสงสัยอีกฝ่ายเสมอมา”
“เพราะว่าระหว่างพวกเราล้วนไม่มีอะไรพูดคุย ท่านอ๋อง” กู้อ้าวเวยถอยออกมาสองสามก้าว ในเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว นางแค่รู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างน่าสงสารสิ้นดี
ถึงแม้ว่าฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะจำมิตรภาพก่อนหน้านี้ได้จึงปฏิบัติต่อนางอย่างดี แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การชดเชยให้กับชีวิตบรรพบุรุษของตระกูลหยุนที่เสียไปเปล่าๆ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้องค์ฮ่องเต้เพราะรู้สึกผิดจริงๆหรือว่าต้องการสูตรยา ต้องทบทวนนอกเหนือจากนี้ด้วย
“ต้นหญ้าเลือดมังกรและถุงน้ำดีหงส์ใช้กับร่างกายของพ่านเอ๋อ” ซ่านจินจื๋อปล่อยนางพร้อมพูดออกมา
“เรื่องนี้แน่นอน ท่านอ๋อง” กู้อ้าวเวยเพียงแค่ยกมุมปากขึ้น: “อ้าวเวยจะไม่ลืมบุญคุณที่ท่านอ๋องชี้แนะในวันนี้แน่นอน ในภายภาคหน้าท่านอ๋องได้โปรดดีกับตระกูลหยุนบ้าง”
รอให้ถึงเวลานั้น นางก็สามารถถอยห่างออกมาทั้งตัวแล้ว
กู้อ้าวเวยหายไปท่ามกลางสายฝน ซ่านจินจื๋อกลับทำได้เพียงมองดูข้างหลังของนางที่เดินจากไปด้วยอาการเหม่อ ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เรียกเฉิงซานเข้ามาหา: “เรียกหยวนเอ๋อมา ให้อยู่เป็นเพื่อนพระชายา”
ทันใดนั้นนางก็รู้สึกไม่ต้องการกลับไปที่วิหารเฟิ่งหมิงอย่างโดดเดี่ยว ถึงแม้ซ่านจินจื๋อจะลงโทษแม่บ้านแล้ว แต่กลับไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้นางออกไป นึกถึงตรงนี้ แม้แต่เม็ดฝนที่ตกลงมาบนร่างกายก็ดูเหมือนจะเบากว่ามาก
”คุณหนู อย่าได้เศร้าไปเลย” ชิงต้ายใช้เพียงร่มกระดาษเพื่อปกปิดนางจากสายฝน รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำฝนบนใบหน้าและลำตัวของนางให้สะอาด
“เข้าใจข้าที่สุดยังคงเป็นเจ้านั่นเอง” กู้อ้าวเวยโน้มตัวไปโอบกอดชิงต้าย ชิงต้ายทำอะไรไม่ถูกเพียงตบเบาๆที่ไหล่ของนาง เป็นเหมือนพี่สาวของนางอย่างไรอย่างนั้น
”ใช่แล้ว เมื่อสักครู่มีคนมา บอกว่าองค์ชายสี่มาพบท่าน”
”ไม่พบ” กู้อ้าวเวยเปลี่ยนสีหน้า แล้วรีบพูดว่า: “ตอนนี้ข้าเป็นผู้นำของตระกูลหยุนแล้ว หากว่าองค์ชายมาหาในเวลานี้ เจ้าคิดว่าองค์ฮ่องเต้จะคิดว่าองค์ชายสี่ต้องการเข้าหาตระกูลหยุนหรือไม่?”
”ข้าเข้าใจแล้ว” ชิงต้ายพลันก็เข้าใจ นำร่มกระดาษในมือวางไว้ในมือของกู้อ้าวเวย: “คุณหนูได้โปรดกลับไปผักผ่อนดีๆ เรื่องนี้ได้โปรดมอบให้ข้าไปจัดการเถอะ”
”ลำบากเจ้าแล้ว” กู้อ้าวเวยเพียงแค่พยักหน้า กางร่มเพียงคนเดียวแล้วเดินจากไป
และสิ่งที่นางพูดออกมาเมื่อสักครู่เฉิงซานล้วนได้ยินทั้งหมด เพียงนำข่าวนี้รายงานให้องค์ชายสี่และซ่านจินจื๋อที่อยู่ในห้องหนังสือ
”ข้าจะมีความคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน นางช่างคิดมากเกินไปแล้ว” ซ่านเซียนหยวนพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
กู้อ้าวเวยเคยช่วยเหลือเขาไว้ในอดีต แต่ทุกครั้งถึงเวลาที่เขาต้องการช่วยเหลือนาง ล้วนมีอุปสรรคไม่มีหนทางแม้แต่น้อย
“สิ่งที่นางพูดไม่ได้ไร้เหตุผล เพียงแต่เรื่องระหว่างเจ้าและลี่วาน ข้าได้ตรวจสอบแล้ว เสียนเฟยได้เข้ามาแทรกแซงอย่างลับๆแล้ว แม้กระทั่งเรียกพบลี่วานเป็นการส่วนตัวหลายครั้งแล้ว เจ้าต้องระวังไว้บ้าง” ซ่านจินจื๋อพูดด้วยเสียงเบา ระหว่างทางที่อยู่นอกเมืองนั้นเขาได้รับข่าวที่คล้ายกันมากมายจากเทียนเหยียน
คราวนี้กลับเป็นซ่านเซียนหยวนที่ตกใจบ้าง: “นางไม่เคยบอกกับข้ามาก่อน”
ซ่านจินจื๋อวางลงถ้วยที่อยู่ในมือ แล้วถามต่อ: “ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้กู้เหยียนจือเพื่อปกป้องลี่วานจึงได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ดูแลรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่ตำหนักของเจ้า”
”ใช่ แต่ว่าบาดแผลของเขาไม่ได้สาหัสมาก เพียงแค่บาดเจ็บที่กระดูก……”
”ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ให้พระชายาจิ้งไปเยี่ยมดูเถอะ อย่างไรก็ตามกู้เหยียนจือก็เป็นน้องชายของนาง” ซ่านจินจื๋อเมื่อพูดประโยคนี้จบ ก็ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก: “ข้ายังต้องไปอยู่เป็นเพื่อนพ่านเอ๋อ ไม่อยู่ต่อแล้ว”
ซ่านเซียนหยวนนิ่งเหม่อไปนานถึงมีปฏิกิริยาตอบสนอง
พูดมาตั้งนาน ซ่านจินจื๋อก็คือหวังว่าเขาที่เป็นเพื่อนกันจะสามารถปลอบใจกู้อ้าวเวยได้
อย่างที่คาดไว้ เมื่อได้ยินข่าวการบาดเจ็บของกู้เหยียนจือ กู้อ้าวเวยก็ตรงไปยังตำหนักขององค์ชายสี่ทันที
กู้เหยียนจือกำลังนอนอยู่บนเตียงในเวลานี้ ขาของเขาได้รับบาดเจ็บ กระดูกตรงลำแข้งหัก กู้อ้าวเวยดวงตาแดงขึ้นมาทันที เหตุใดคนข้างกายล้วนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบนั่งลง: “เหตุใดถึงได้บาดเจ็บ?”
”เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าชายาองค์ชายสี่ไปมีเรื่องบาดหมางกับใครไว้ นึกไม่ถึงว่าจะพบเข้ากับพวกคนชั่วช้าสามานย์” กู้เหยียนจือจับจมูกไปมาด้วยความกระอักกระอ่วนใจ ยังคงเป็นคนเขินอายเหมือนเมื่อก่อน
กู้อ้าวเวยจึงได้ตรวจอย่างละเอียดให้กับเขา มั่นใจว่าบาดแผลบนร่างกายของเขาไม่ได้สาหัสมาก ถึงได้ถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งอก: “ต่อไปเจ้าต้องระวังให้มาก รู้หรือไม่?”
”รู้แล้ว ไหนๆท่านพี่ก็มาแล้ว ก็พักอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนข้าไม่ดีกว่าหรือ ที่ฝั่งข้านี้ก็มี……”กู้เหยียนจือจับปรอยผมข้างใบหูพลันก็หาข้ออ้างที่เหมาะสมไม่ได้ ผ่านไปสักพัก ถึงได้ตะกุกตะกักพูดออกมาหนึ่งประโยค: “ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ท่านพี่ได้เก็บเด็กคนหนึ่งมาเลี้ยง……”
กู้อ้าวเวยนิ่งชะงักเล็กน้อย ถึงคิดขึ้นมาได้ว่ากู้เหยียนจือกำลังปลอบใจตนเองอยู่
คิดมาถึงตรงนี้ นางเพียงแค่ตบเบาๆที่ศีรษะของเขา: “ขอบคุณการปลอบโยนของเจ้า แต่ว่าข้าก็ไม่ค่อยชอบตำหนักอ๋องจิ้งสักเท่าไร ถ้าอย่างนั้นก็พักอยู่ที่นี่กับเจ้าสักพักก็ได้”
”ช่างดีจริงๆ” กู้เหยียนจือรีบพยักหน้าทันที
ที่นอกประตูลี่วานที่มาส่งยาตอนที่ได้ยินประโยคนี้ ขมวดคิ้วอย่างไร้ความรู้สึก หลังจากนั้นสักครู่ก็ยังคงยกมุมปากขึ้นมา นำซุปยาร้อนๆส่งถึงตรงหน้ากู้เหยียนจือ: “รีบดื่มยาสักหน่อยเถอะ หากไม่ใช่เพราะเจ้า ในเวลานั้นข้าก็คงจะเสียชีวิตลงตรงจุดนั้นแล้ว”
กู้อ้าวเวยเหลือบมองลี่วานด้วยความแปลกใจ
ตอนที่กลับมา ฉีหรัวฝากชิงต้ายให้ช่วยมาบอกแล้ว ในเวลานั้นลี่วานแสดงออกว่าจงใจปิดกั้นข้อความเพื่อไม่ให้ข้อความผ่านเข้าไปในหูขององค์ชายสี่
คิดมาถึงตรงนี้ นางก็ไม่มีความรู้สึกดีๆอะไรต่อลี่วานแล้ว
และเมื่อดูจากสถานการณ์ของลี่วานในวันนี้ ดูเหมือนว่าก็ไม่ต้องการชิดใกล้สนิทสนมกับนางมากอย่างชัดเจน
”พระชายาจิ้ง” ลี่วานย่อตัวเคารพ
”ไม่จำเป็นต้องมากพิธีรีตอง” กู้อ้าวเวยโบกมือเล็กน้อยอย่างไม่ใส่ใจ ในเมื่อลี่วานไม่ชื่นชอบตน แน่นอนว่านางก็คงไม่ชื่นชอบลี่วาน นางเพียงแค่ยืนขึ้น: “ตอนนี้เหยียนจือได้รับบาดเจ็บ เกรงว่าข้าคงต้องรบกวนสองสามวันแล้ว”
“ข้าจะให้คนไปจัดเตรียมไว้อย่างดีด้วยตนเอง” ลี่วานก็เพียงแค่ยิ้มบางๆ ก็พอรู้กู้อ้าวเวยดูเหมือนว่าคงจะได้รับข้อความจากฉีหรัวแล้ว ในเมื่อเปิดเผยแล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำเหมือนกัน: “เพียงแค่หวังว่าพระชายาจะรู้ฐานะของตนเอง ไม่ควรเข้าใกล้องค์ชายสี่มากเกินไป พระมารดาไม่ค่อยพอพระทัยความสัมพันธ์ระหว่างท่านและองค์ชายสี่”
”ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าเองก็จะระมัดระวัง เพียงแค่หวังว่าลี่วานในภายหน้าตอนที่เจ้าจะทำเรื่องต่างๆ ก็คิดทบทวนถึงองค์ชายสี่ให้มาก อย่าต้องสูญเสียใจคน” กู้อ้าวเวยเชื่อว่าประโยคของตนคือคำพูดที่ออกจากใจจริง
เพียงแต่ว่าจะมีสักกี่คนที่สามารถทนรับได้และฟังด้วยใจ มีน้อยมาก
แต่ลี่วานเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนแบบนี้: “พระชายาจิ้งบอกว่าข้าไม่ใส่ใจองค์ชายสี่หรือ?”
”เพียงแต่ว่าเจ้าควรรู้ เจ้าสมควรรับฟังคำพูดขององค์ชายสี่ให้มาก ไม่ใช่เสียนเฟย ข้าก็เพียงแค่คิดคำนึงเพื่อองค์ชายสี่ เจ้าสามารถทบทวนดูดีๆ” กู้อ้าวเวยเพียงนั่งลงอีกครั้ง ลี่วานขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมเดินจากไป