บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 184
บทที่184 เรื่องที่มอบหมาย
ทั้งคืนที่นอนไม่หลับ รอจนเวลาที่กู้อ้าวเวยเดินตรงไปยังโถงหน้าหลังจากล้างหน้าล้างตาแล้ว
ปายเสาและพุทราก็ถูกกุ่ยเม่ยโยนลงมาจากบนกำแพง ลูกแมวสองตัวร้องเมี๊ยวออกมาด้วยความกลัว กู้อ้าวเวยก็ตกใจสะดุ้งเช่นกัน สองมือกุลีกุจอรีบรับลูกแมวทั้งสองตัวไว้ ตัวเองก็สะดุดไปหนึ่งก้าวพร้อมอุ้มเจ้าแมวทั้งสองตัวมาแล้วนั่งลงกับพื้น
สายตาประสานกัน กู้อ้าวเวยเพียงจ้องมองกุ่ยเม่ยที่อยู่ด้านบนด้วยดวงตาดุ: “เด็กแสบ”
กุ่ยเม่ยกระโดดลงจากบนกำแพงโดยเร็ว พยุงนางขึ้นมาจากพื้น
นางกำนัลที่อยู่ข้างๆเมื่อเห็นพระชายาล้มกับพื้น เพียงรีบรุดเข้ามาใกล้ทันที กู้อ้าวเวยเพียงโบกมือไปมาให้พวกนางถอยห่างก่อน เพียงนำพุทรายัดเข้าไปในอ้อมแขนของกุ่ยเม่ย: “ข้าต้องการทานเกี๊ยวน้ำหลังตลาดแล้ว”
”องค์ชายสี่จะรับผิดชอบเรื่องอาหารของท่าน” กุ่ยเม่ยพูดออกมาตรงๆ ไม่มีความรู้สึกแม้แต่เล็กน้อย
กู้อ้าวเวยจำยอมพยักหน้า กุ่ยเม่ยเพียงแค่เหลือบมองเล็กน้อยตรงถุงใต้ตาคล้ำของนาง แล้วก็อุ้มปายเสามาอีกตัว ขยับห่างออกมาเล็กน้อยแล้วเดินตามหลังของนาง: “อันที่จริง ท่านอ๋องก็ห่วงใยท่านไม่น้อย”
”ก็ไม่รู้ว่าข้างกายของเขาทำไมถึงได้มีเด็กที่ซื่อสัตย์เช่นนี้อย่างเจ้า” กู้อ้าวเวยเผยยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ซ่านจินจื๋อบอกว่าให้นางมาดูแลรักษาอาการของกู้เหยียนจือ ข้อแก้ตัวอย่างนี้ช่างแย่จริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ดีๆระหว่างนางและซ่านจินจื๋อไม่มีแล้วจริงๆ
กุ่ยเม่ยรีบตามนางไปด้วยสีหน้าอึมครึม เมื่อมาถึงห้องโถงอาหาร ซ่านเซียนหยวนและลี่วานก็เริ่มลงมือทานอาหารแล้ว นางจึงนั่งลงทานข้าว และรู้สึกว่าอาหารเช้าของตำหนักองค์ชายสี่ก็ไม่เลวเลย
ลี่วานเพียงรีบตักซุปหนึ่งถ้วยยื่นให้กับซ่านเซียนหยวน
ซ่านเซียนหยวนรับมาพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย ถึงจะบอกว่าทั้งสองคนคือสามีภรรยากัน แต่ในความเป็นจริงกลับเคารพกันและกันดังเช่นปฏิบัติต่อแขก
กู้อ้าวเวยมองทุกอย่างตรงหน้า แต่ยังคงทานอาหารของตนด้วยความรวดเร็ว เสร็จแล้วก็เช็ดที่มุมปากเล็กน้อยแล้วจึงลุกขึ้นยืน: “ในตอนเที่ยงข้าจะไปทานข้าวที่ทิงเฟิงโหล ลำบากองค์ชายสี่แล้ว”
”ไม่ได้ลำบากอะไร” ซ่านเซียนหยวนพยักหน้าพร้อมยิ้มออกมา มองเห็นเจ้าพุทราที่อยู่ในอ้อมแขนของกุ่ยเม่ย ก็รีบอุ้มมาไว้บนหน้าตักตนเอง: “เจ้าพุทราก็ยืมให้ข้าสักครู่เถอะ”
”ถ้าเช่นนั้นก็ต้องเอาเจ้าปายเสาไว้ด้วยกัน” กู้อ้าวเวยหัวเราะออกมาพร้อมกับโยนปายเสาไปไว้ในอ้อมแขนของเขา ถึงได้เดินจากไปพร้อมกุ่ยเม่ย
ลูกแมวทั้งสองตัวเมื่อชนโดนกันก็ร้องเมี๊ยวเมี๊ยว ซ่านเซียนหยวนไม่มีความโมโหแม้แต่น้อย กลับรักและเอ็นดูอย่างมาก
ลี่วานกลับรู้สึกว่าชีวิตประจำวันของเขาถูกทำลายลง แม้แต่แมวของกู้อ้าวเวย ซ่านเซียนหยวนก็ยังชื่นชอบเช่นนี้เชียวหรือ!
แต่ช่วงเช้านี้กู้อ้าวเวยก็เพียงแค่อ่านตำราการแพทย์เป็นเพื่อนกู้เหยียนจือ แล้วอธิบายคร่าวๆถึงสิ่งต่างๆที่กู้เฉิงให้เขาไปจัดการ จากนั้นถึงได้มายังทิงเฟิงโหล
เพิ่งลงจากรถม้า กุ่ยเม่ยเมื่อเห็นนางมีอาการอ่อนเพลีย: “ต้องการกลับไปนอนพักผ่อนก่อนหรือไม่?”
”ข้าเพียงแค่อยากรู้มากเกินไป เหตุใดแม่นางหลิ่วเอ๋อถึงได้ใส่ใจเรื่องของข้าเช่นนี้” กู้อ้าวเวยเพียงส่ายหัวๆรู้สึกว่าเพียงแค่ไม่กี่วัน เพราะเรื่องนี้กลับทำให้คนรอบข้างเปิดเผยตัวตนออกมากัน
เมื่อมาถึงในทิงเฟิงโหล ดูเหมือนว่าหลิ่วเอ๋อรับรู้แต่ต้นแล้วว่านางจะมา จึงได้เชิญนางตรงไปในห้องโอ่อ่า
ที่นี่ช่างเงียบสงบ บนโต๊ะเต็มไปด้วยของว่างและน้ำชา แต่ในเวลานี้ ตรงหน้ากลับมีหญิงงามคนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าสีม่วงอ่อนนั่งอยู่แล้ว ขนคิ้วของหญิงสาวเต็มไปด้วยเสน่ห์ สีหน้าท่าทางที่แสดงออกมายิ่งทำให้หัวใจคนละลาย แต่เมื่อนางเห็นกู้อ้าวเวยดวงตากลับเป็นประกาย และหัวเราะเบาๆ: “ข้าชื่อจื่อเหมิง ท่านเรียกข้าว่าจื่อก็ได้เช่นกัน”
“เจ้าคือ……” กู้อ้าวเวยยังไม่เข้าใจ
แต่คนที่เดินตามหลังมาอย่างหลิ่วเอ๋อเพียงแค่ปิดประตูลงเบาๆ ส่วนกุ่ยเม่ยถูกกู้อ้าวเวยสั่งให้ออกไป เฝ้าระวังความปลอดภัยให้นางอยู่ห่างๆ
กู้อ้าวเวยนั่งลงบนเก้าอี้ มองไปเห็นหลิ่วเอ๋อที่ทั้งอ่อนหวานสง่างามและอ่อนน้อมถ่อมตน แต่คนข้างๆอย่างจื่อเหมิงกลับไม่อินังขังขอบ เสื้อผ้าที่สวมใส่ทั่วร่างกาย กลับเปิดเผยเนื้อหนังมังสาไม่น้อย ดูมีเสน่ห์เย้ายวน
ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกัน กลับทำให้นางยิ่งรู้สึกแปลกใจใคร่รู้: “แม่นางหลิ่วเอ๋อกับข้าก็พบกันโดยบังเอิญไม่กี่ครั้ง เหตุใดก่อนหน้านี้กลับยอมวิ่งวุ่นวายเรื่องที่ข้าหายตัวไป”
”เพียงแต่ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องที่สมควรต้องทำ” หลิ่วเอ๋อยิ้มกว้างด้วยความจริงใจ แล้วมองไปยังจื่อเหมิงที่นั่งอยู่ข้างกัน: “จื่อเหมิงคนนี้เกิดอยู่ในหอนางโลม แต่นายท่านตระกูลข้านำนางและข้าออกมาจากสถานที่อโคจรนั้น นางชื่นชอบท่านเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ก็ช่วยท่านไว้ไม่น้อย”
”ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน”
”แต่ข้ากลับได้ยินเรื่องราวไม่น้อยของท่านมานานแล้ว” จื่อเหมิงยกมุมปากเล็กน้อย แล้วนำขนมหวานป้อนเข้าปากตนเอง หลิ่วเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆทำได้เพียงแค่นำเสื้อคลุมมาคลุมให้นาง นางถึงได้พูดต่อ: “นายท่านตระกูลข้ารับสั่งข้าไว้ จะต้องดูแลท่านให้มาก นายท่านใส่ใจท่านเป็นอย่างมาก คิดอยู่เสมอว่าสามารถช่วยเหลืออะไรท่านได้บ้าง”
”และก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าผู้อาวุโสหยุนชิงหยางหัวหน้าตระกูลหยุนได้เสียชีวิตลงแล้ว นายท่านตระกูลข้าเคยได้รับการปกป้องจากท่านมาก่อน ตอนนี้จึงทำได้เพียงแค่ตอบแทนที่ท่านแล้ว” หลิ่วเอ๋อจึงได้รีบช่วยจื่อเหมิงอธิบายเพิ่มอีกเล็กน้อย
หญิงสาวทั้งสองคนสบตากันเล็กน้อย แววตากลับเต็มไปด้วยความซับซ้อน
ทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของกู้อ้าวเวย รู้สึกได้ว่าอำนาจเบื้องหลังของทิงเฟิงโหลนี้ก็ไม่ธรรมดา แต่ถึงแม้นางถามออกไป หลิ่วเอ๋อและจื่อเหมิงก็คงจะไม่มีทางบอกกับนาง
คิดได้เช่นนี้ นางเพียงแค่นั่งเท้าคางแล้วหัวเราะเบาๆ: “พวกเจ้าแน่ใจจริงๆหรือว่าสามารถช่วยข้าได้ทุกๆเรื่อง?”
”นี่เป็นเรื่องที่แน่นอน นายท่านตระกูลข้าเป็นผู้ที่แม้บุญคุณเท่าหยดน้ำ ก็จะตอบแทนดุจสายธาร” จื่อเหมิงพูดโดยวเร็ว
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าจะเชื่อพวกเจ้า” กู้อ้าวเวยไอออกมาเพียงเบาๆ ตอนนี้กลับรู้สึกเพลียแล้วจริงๆ จึงพูดด้วยเสียงเบา: “ถ้าพวกเจ้าต้องการช่วยเหลือข้าจริงๆ ก็รับปากกับข้าหนึ่งเรื่อง”
“เชิญพูด”หลิ่วเอ๋อเอ่ยออกมา
”อย่าเป็นศัตรูกับข้า หากว่าฉีหลินมาแล้ว แนะนำให้เขาสืบทอดงานของตระกูลให้ดีๆ เพียงพอแล้ว” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องโอ่อ่านี้ ตรงกลับไปยังลานของตำหนักองค์ชายสี่อย่างคาดไม่ถึง
เพียงแค่นำแมวทั้งสองตัววางลงบนหัวเตียง แล้วก็หลับลึกลงไป
ก็ไม่รู้เพราะอะไร นางกลับรู้สึกว่าตนเองฝากฝังเรื่องราวในภายหน้าไว้ไม่น้อย
……
พักอยู่ที่ตำหนักองค์ชายสี่เพียงสิบวัน กู้อ้าวเวยถึงได้กลับมายังตำหนักอ๋องจิ้ง
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับซูพ่านเอ๋อ นางต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ต้นหญ้าเลือดมังกรและถุงน้ำดีหงส์ ใบสั่งยาที่นางให้กับชิงต้ายตั้งแต่กลับมาถึงตำหนักล้วนถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ทั้งสองสิ่งล้วนถูกส่งไปอยู่ในมือของฉีหลินแล้ว
และสมุนไพรตัวอื่นนางล้วนลดปริมาณลง
ซูพ่านเอ๋อร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว สิบวันมานี้ทานยาบำรุงทุกวันก็น่าจะทำให้นางได้รับบทเรียน ทั้งนี้ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ
”เจ้าแน่ใจจริงๆหรือ สูตรยาครั้งแรกมั่นใจว่าเป็นสูตรยาของตระกูลหยุนจริงๆใช่หรือไม่?” ในใจของซ่านจินจื๋อยังคงมีความระแวง
กู้อ้าวเวยไม่เคยแม้แต่ตรวจชีพจรให้ซูพ่านเอ๋อ
“ใช่แน่นอน คำบอกของท่านปู่ไม่มีทางผิดแน่นอน” กู้อ้าวเวยไอออกมาเบาๆ
ซ่านจินจื๋อท่าทางชะงัก กลับไม่รู้จริงๆว่าสุขภาพร่างกายของกู้อ้าวเวยยิ่งอยู่ยิ่งแย่
“สิ่งของล้วนได้เตรียมพร้อมแล้วไม่น้อย ให้นางเข้ามาเถอะ แช่น้ำก่อนเพื่อทำความสะอาดร่างกาย จากนั้นข้าถึงเพิ่มสมุนไพร ใช้ไอน้ำอบดีๆสักพักก็พอ”
กู้อ้าวเวยมองไปยังซ่านจินจื๋อด้วยสีหน้าจริงจัง