บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 377
บทที่ 377 ประนีประนอม
เฉิงซานปิดประตูเบาๆ
“นี่ไม่ใช่เพื่อเจ้าเท่านั้น แต่เป็นการทำเพื้อหน้าตาของข้าด้วย” ซ่านจินจื๋อบีบคางของนางเบาๆ “เจ้าไหมรู้ว่าคนในเมืองเทียนเหยียนมากมายล้วนคิดว่าเจ้าเป็นพวกจิตใจรวนเร และมีอีกกี่คนที่เข้าใจว่าเราเป็นสามีภรรยากัน”
“แต่เรื่องพวกนี้มันก็จริงไม่ใช่หรือ” ปลายนิ้วของกู้อ้าวเวยไต่ไปบนข้อมือของซ่านจินจื๋อ “ไม่มีใครจะเข่นฆ่าทำร้ายลูกของภรรยาแบะเพื่อนสนิท เจ้ามีความรู้สึกผิดกับข้าน้อยมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดอะไรแบบนี้ออกมา”
“เพราะข้าคิดถึงเรื่องที่ทำเอาไว้ วันนี้ข้าเลยคิดจะชดเชยให้” ซ่านจินจื๋อวางมือบนหลังมือของกู้อ้าวเวย “เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้น เป็นความผิดของข้าทั้งสิ้น จากนี้ไปข้าจะไม่ให้เจ้าต้องทนทุกข์อีก”
แต่กู้อ้าวเวยไม่อาจจะวางใจในคำพูดของซ่านจินจื๋อได้อีก แม้ว่าจะได้ฟังคำพูดเหล่านี้ ภายในใจก็ยังคงต้องการชั่งใจ
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน กู้อ้าวเวยจึงเอ่ยปาก “จริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น หากจะพูดถึงองค์ชาย ที่แต่งงานกับผู้หญิงคนเดียวถึงสองครั้ง เจ้ารู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร”
“ข้ารู้แน่นอนว่ามันหมายถึงอะไร” ซ่านจินจื๋อเริ่มจะหมดความอดทน “ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะถูกองค์ชายสามพาไปหรือไม่”
“อะไรนะ” กู้อ้าวเวยยิ่งไม่เข้าใจ
ตลอดหนึ่งเดือนมานี้ นางเก็บตัวไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้ติดต่อกับใครเลย จะไปมีเรื่องอะไรกับองค์ชายสามได้อย่างไร
“ตอนนี้องค์ชายสามได้กลายเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ไปแล้ว แต่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เขามาพบกับข้าเพียงลำพัง ถามถึงเจ้า” ซ่านจินจื๋อบีบคางนางแรงขึ้น
กู้อ้าวเวยรู้สึกเจ็บจนอุทานออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
ซ่านจินจื๋อบ้าไปแล้วหรือ
จดจ้องทุกการแสดงออกของกู้อ้าวเวยไว้ในดวงตา ซ่านจินจื๋อกลับรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ได้ยินซูพ่านเอ๋อบอกไว้ว่า เขารู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างกู้อ้าวเวยและองค์ชายสามซ่านเซิ่งหานไม่ธรรมดา แต่องค์ชายสามได้แสดงออกซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความรู้สึกที่มีต่อกู้อ้าวเวย แต่ก็ใจเย็นลงแล้วคิด ดูเหมือนว่ากู้อ้าวเวยจะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ
“เจ้าเลือกข้า หรือว่าเขา”
“ข้าไม่ใช่สิ่งของนะ ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาสัญญาอะไรกับข้า หากเทียบกับการต้องแต่งงานกับเจ้า สิ่งที่ข้าอยากทำมากที่สุดคือหลีกหนีออกไปอย่างมีความสุข” กู้อ้าวเวยมีสีหน้าเย็นชาและปัดมือเขาออกไป “ข้าและซูพ่านเอ๋อไม่เหมือนกัน ในชีวิตของข้าไม่ได้มีเจ้าแค่คนเดียว ข้าไม่สามารถให้อะไรกับเจ้าได้ เจ้าก็อย่าได้พยายามทำอะไรที่ไร้สาระเพื่อให้ข้าอภัยให้เจ้าเลย ข้ายอมรับได้เพียงจดหมายหย่าร้างจากเจ้าเท่านั้น”
พูดจบ กู้อ้าวเวยก็แทบจะออกไปอย่างตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
นางกลับไปยังวิหารเฟิ่งหมิงแล้วปิดประตูล็อคตัวเองอยู่ด้านใน คำพูดของซ่านจินจื๋อยังคงวนเวียนอยู่ในหัว
“ช่างเป็นอะไรที่เลวทรามชั่วช้า!” กู้อ้าวเวยขว้างหมอนไปยังกำแพงอย่างรุนแรง โกรธจนเอามาทาบหน้าอกอันปวดร้าวของตนเอง กลิ่นคาวคละคลุ้งอยู่ในลำคอ ได้แต่ปิดปากไว้ ร่างกายรู้สึกอ่อนแอ
จื่อที่อยู่ตรงประตูได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว อดไม่ได้ที่จะผลักประตูเข้าไป “เกิดอะไรขึ้น!”
“ไม่…ไม่มีอะไร แค่หมอนตกลงไป” กู้อ้าวเวยอดกลั้นความรู้สึกไม่ปกติของร่างกายไว้ เดินไปยังโต๊ะหนังสือ เอาผ้าปิดหน้าและอาเจียนออกมาเป็นเลือด และกินยาเม็ดอื่นลงไป
นั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือ นางเก็บตัวยาเหล่านั้นไว้อย่างดี ใบสั่งยาใบหนึ่งถูกนางซ่อนไว้อย่างระมัดระวัง
มีกุ่ยเม่ยอยู่ข้างกายนางไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงร่างกายตัวเองได้เลย แต่ตอนนี้ นางต้องการคิดหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่
ยาเหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายมากนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นหมอคนใดเข้ามารักษาให้นางก็มักจะเป็นระยะเวลาไม่นาน ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวคือจิตใจที่ไม่สามารถจะกระทบกระเทือนขึ้นๆลงๆมากได้ หากโกรธจนใจหวั่นไหวขึ้นมาจริง ๆ ทำได้เพียงทำร้ายตัวเองเท่านั้น
และในตอนนี้ นางก็ไม่รู้ว่าหวั่นไหวเพราะเรื่องเมื่อกี้นี้ หรือหวั่นไหวเพราะความโกรธ
นิ่งเงียบอยู่นาน เสียงของยู่จูก็ดังขึ้นจากด้านนอก พูดเบาๆ “พระชายาเพคะ ท่านอ๋องให้คนส่งชุดแต่งงานมาให้เลือกเพคะ”
กู้อ้าวเวยตกตะลึง ค่อยๆผลักหน้าต่างออกมา ด้านนอกประตูมีแม่บ้านและคนรับใช้หลายสิบคนยืนอยู่แล้ว
“พระชายา เนื่องจากคุณท่านถูกประหาร คนในครอบครัวของท่านก็ถูกเนรเทศ ดังนั้นท่านอ๋องจึงไม่ต้องการทำให้เอิกเกริก ต้องการให้มีเพียงสมาชิกราชวงศ์และเพื่อนที่สนิทเท่านั้น แต่ชุดแต่งงาน….”
“เรียกหมอเข้ามา ข้าไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้ และไม่สามารถจะแตกกิ่งก้านสาขาให้เขาได้” กู้อ้าวเวยโยนผ้าเปื้อนเลือดนั้นลงที่เท้าของแม่บ้าน และปิดหน้าต่างกระแทกเสียงดัง
แม่บ้านมองไปยังผ้าที่เปื้อนเลือดด้วยความตกใจ ร้องเรียกอย่างตื่นตกใจ “เร็วเข้า! ไปตามหมอมาเร็ว”
คนกลุ่มหนึ่งกำลังชุลมุนวุ่นวาย จื่อและยู่จูก็ได้ถามนางผ่านทางหน้าต่าง กู้อ้าวเวยได้แต่ทำหน้าเมินเฉย ไม่พูดไม่จา
แต่ไม่นานนัก ซ่านจินจื๋อก็ได้พาหมอเข้ามา
หมอท่านนี้ได้ทำการตรวจชีพจรให้กับกู้อ้าวเวย ทันใดนั้นหน้าเขาก็ซีดเซียว “พระชายา….ท่านเป็น….”
“เกิดอะไรขึ้นกับนาง” ซ่านจินจื๋อยืนอยู่ด้านข้าง มองยังสีหน้าของกู้อ้าวเวยก็ยังปกติดี
“ก่อนหน้านี้ตอนที่พระชายาสูญเสียพระโอรสไป ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี แต่ตอนนี้อาการของร่างกายไม่ดียิ่งกว่าเก่า…พระชายาก็ร่ำเรียนวิชาแพทย์ เหตุใดจึงปล่อยให้ร่างกาย…”
พูดถึงตรงนี้ หมอได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก
กู้อ้าวเวยโบกมือให้เขาออกไป ซ่านจินจื๋อก็ได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรเช่นกัน
ในวันที่กู้อ้าวเวยสูญเสียลูกคนแรกไปเป็นวันที่หิมะเริ่มตก ในวันนั้นเขาเอาแต่สนใจดูแลซูพ่านเอ๋อโดยไม่ได้สนใจแม้แต่จะถามอะไรนาง แต่ภายหลังเพราะเรื่องของหยุนเซ่อ สาเหตุของโรคที่แท้จริงอยู่ที่ขาของนางทั้งสองข้าง ในฤดูใบไม้ผลิตอนไปแก้ปัญหาการระบาด จึงไม่เคยได้หยุดพัก
เงียบอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง กู้อ้าวเวยก็ยิ้มขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก “ข้าคงแต่งกับเจ้าไม่ได้ ข้าดูเหมือนจะต้องตาย องค์ชายสามก็ดี องค์ชายสี่ก็ดี พวกเขาล้วนไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้า เจ้าวางใจได้”
“เจ้าจะตายไม่ได้” ซ่านจินจื๋อจับมือที่เย็นของนาง “ข้าจะรักษาเจ้าให้ได้”
“นี่เป็นเพราะความรู้สึกผิด หรือเพราะอะไรกันแน่” ไม่ได้ขัดขืนใด ๆ เพียงแต่ยิ้มให้เขาเบาๆ น้ำเสียงดูไม่ค่อยจะทนได้ไหว
เมื่อมองไปยังใบหน้าของกู้อ้าวเวย ซ่านจินจื๋อจึงได้โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน “ให้โอกาสข้าอีกสักครั้ง”
นางพิงอยู่บนไหล่ของซ่านจินจื๋อ กู้อ้าวเวยหายใจออกมาอย่างรู้ชะตากรรม แต่คำพูดต่าง ๆ เมื่อมาถึงริมฝีปาก กลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้
พวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้มานาน ไม่มีกุ่ยเม่ยอยู่ข้างกาย กู้อ้าวเวยไม่คิดมาก่อนว่าจะไม่รู้สึกสับสนใด ๆ
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง ซ่านจินจื๋อจึงจะออกไป จื่อและยู่จูคอยดูแลกู้อ้าวเวยอย่างดี
จื่อยื่นหัวตัวเองเข้าไปอย่างกล้าหาญ กู้อ้าวเวยซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้ง นั่งจ้องมองกล่องผ้าเล็ก ๆไม่ไหวติง
“พระชายา จริง ๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” จื่อถามขึ้นเบาๆ
“ไม่เป็นไร เจ้าไปช่วยแม่บ้านจัดกันเลือกสีชุดให้ข้าเถอะ” กู้อ้าวเวยถอนหายใจเบาๆ แล้วเก็บกล่องผ้าเล็ก ๆนั้นเข้าไปในลิ้นชัก
จื่อพูดโพล่งออกไป “พระชายา ท่านคิดจะแต่งงานอีกครั้งแล้วหรือ”
“ตั้งแต่เขายืนยัน ข้าก็ตกลงแล้ว” ใบหน้าของกู้อ้าวเวยไม่ได้มีการแสดงออกใด ๆ เพียงแต่เงยหน้าขึ้นมองไปยังก่อนเมฆและท้องฟ้าจึงค่อยๆตกลงในภวังค์
แม้ว่าจะเป็นความเห็นแก่ตัว แม้ว่าซ่านจินจื๋อจะไม่ยอมเขียนใบหย่าร้างหรือไม่ยอมให้จากไป นางก็ยังคงคิดหาวิธีการอื่นที่จะจากไป
แต่ องค์ชายสามต้องการนางจริง ๆหรือ