บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 605
บทที่ 605 เรื่องการค้า
กู่เซิงยังคงต้องกลับไปจัดการกับอีกหลายเรื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมกับการก่อกบฏ
กู้อ้าวเวยก็ร่วมกันกับเขา ตั้งใจฟังตลอดทาง แต่กู้เฉิงกลับระแวดระวังลูกชายที่สนจะฉลาดคนนี้มาตลอด แต่กลับให้การสนับสนุนให้กับลูกชายและลูกสาวคนอื่นอย่างเงียบๆ แม้ว่าจะมีไฟป่าเต็มท้องฟ้าของตำบลเหยสุ่ย กู่เซิงคงจะไม่เชื่อว่าความอมตะจะถูกทำลายไปแล้ว
“เจ้ารู้วิธีจะเป็นอมตะจริงหรือ” กู่เซิงอดไม่ได้ที่จะถาม
“ถ้าเจ้าถามถึงใครคนหนึ่งที่เป็นอมตะไร้วันตาย ข้าไม่มีหรอก แต่หากถามว่าเผ่าพันธุ์ของมนุษย์จะอยู่ไปเป็นอมตะอย่างไม่มีวันตาย ก็อยากจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้” กู้อ้าวเวยเอนกายอยู่ด้านหนึ่งอย่างเกียจคร้าน ผิวซีดเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะวันนั้นที่จัดการกับซูพ่านเอ๋อนางใส่เสื้อบางไปจึงได้ป่วย ในเวลานี้ห่มผ้าขนสัตว์ อ้อมแขนของนางยังคงประคองเตาผิงขนาดเล็กที่ได้จากโรงเตี๊ยมเอาไว้ในมือ
กู้อ้าวเวยพูดความจริงครึ่งไม่จริงครึ่ง กู่เซิงไม่ซักถามอะไรอีก เปลี่ยนเรื่องสนทนา “การก่อกบฏนั้นต้องรอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิ อย่างน้อยก่อนหน้านั้นข้ายังต้องวางแผนอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้พ่อของข้ารู้เข้า”
“เพราะเหตุนี้ ข้าจึงต้องอาศัยอยู่ที่ชายแดนแคว้นชางหลานสักพัก รอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิจึงจะไปที่ล่ายเสวียน เช่นเดียวกัน หากเจ้าต้องการให้ล่ายเสวียนช่วยชีวิตเจ้า ก็ควรจะให้ความจริงใจ ไม่ใช่ไปหลอกลวงให้ฝันหวานถึงอนาคต แต่ต้องเป็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า” นางยังคงตั้งใจที่จะกดดันกู่เซิงอีก
กู่เซิงพยักหน้ารับคำ ตอนนี้เรื่องที่ล่ายเสวียนเข้ายึดเมืองในฐานะทาสนั้นได้แพร่กระจายไปหลายพันไมล์ ข้าทาสของแคว้นเจียงเยี่ยนพร้อมที่จะเคลื่อนไหวอยู่นานแล้ว แม้แต่ทาสของแคว้นซินก็ดูเหมือนจะมีปัญหาหับกฎหมายของแคว้นซิน กู้เฉิงคงจะไม่สามารถหลอกคนพวกนั้นไปได้ตลอดชีวิต อีกไม่นาน กู้เฉิงน่าจะออกกฎหมายใหม่สำหรับทาสของแคว้นซินอีกครั้ง เมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะสามารถกดดันข้าทาสให้อยู่ในควบคุมได้
และกู้อ้าวเวยก็ไม่รู้ว่าตนเองจะตั้งครรภ์ได้หรือไม่
“ข้าอยู่ที่ชายแดนแคว้นชางหลาน ไม่มีอะไรให้ทำ เจ้ายินดีที่จะตามหาสิ่งของบางอย่างให้ข้าไหม” กู้อ้าวเวยพูดอย่างกะทันหัน
“ของอะไรหรือ”
“ข้าได้ยินมาว่ามีภูเขาหิมะจำนวนมากอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นเจียงเยี่ยน เคยมีคนบันทึกไว้ มีหญ้าเทวดาอยู่ที่นั่น เติบโตมามีลักษณะของบัวหิมะ ชื่อว่าเช่ออี้จื่อ” กู้อ้าวเวยพูดเบาๆ ตอนนั้นนางก็เคยรู้ว่ามีวัตถุดิบตัวยาตัวนี้จริง ๆ แต่หาไม่ยากเท่าถุงน้ำดีหงส์และเลือดมังกร ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเป็นเพราะหนทางบนภูเขาหิมะนั้นยากลำบาก
“หากเจ้าต้องการ ข้าก็จะส่งคนไปค้นหามัน เพียงแค่เช่ออี้จื่อดูจะมีผลเพียงเพื่อการล้างพิษเท่านั้น” กู่เซิงมองไปยังกู้อ้าวเวยอย่างอธิบายไม่ถูก
“เป็นเช่นนั้นจริง แต่นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยาก หากว่าทำได้ ข้าหวังว่าจะหามาให้ข้าได้ภายในครึ่งปีนี้” กู้อ้าวเวยยิ้มเบาๆ
“เจ้าถูกผิดแล้วหรือ” กู่เซิงเลิกคิ้ว
กู้อ้าวเวยกลับส่ายหน้า ปิดตาลงครึ่งหนึ่ง “มีเรื่องร่ำลือว่าเช่ออี้จื่อมีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์”
เพียงแต่คนส่วนมากไม่นิยมใช้ยาราคาแพงนี้บำรุงทารกในครรภ์ กู้อ้าวเวยอดไม่ได้ที่จะพูดเสริม
คราวนี้กู่เซิงหันไปมองที่ท้องน้อยของนางด้วยสีหน้าที่งุนงง หลังจากเงียบไปสักพักเขาก็พูดขึ้น “เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้คือช่วงเวลาของสงคราม”
“ข้ารู้ ดังนั้นจึงหวังว่าเจ้าจะช่วยข้านำเช่ออี้จื่อมา ข้าช่วยให้คำแนะนำเจ้า ขอเพียงแค่เจ้าช่วยข้าตามหาวัตถุดิบยา คงไม่มากเกินไป” กู้อ้าวเวยหลับตาลงอย่างสนิท รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีช่องว่างใดให้กู่เซิงปฏิเสธ
กู่เซิงตกใจและมองดูความเฉยชาของกู้อ้าวเวย
บนสนามรบ จะมีที่ยืนให้สตรียืนหยัดที่ไหน ไม่ต้องพูดถึงความสามารถและสถานะของนาง ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีกี่คนที่เพ่งเล็งมายังนาง กลับยังต้องการที่จะตั้งครรภ์ นี่เป็นถือว่าเป็นเรื่องที่เสียง
แต่เขาไม่ได้มีหน้าที่ปราบปรามผู้คน ได้แต่นิ่งเงียบให้องครักษ์รอบด้านคอยดูแลอย่างดี และห้ามพลาด และยังส่งคนไปยังสถานที่หนึ่งในแคว้นเจียงเยี่ยนเพื่อดูว่าจะพบกับเช่ออี้จื่อหรือไม่ หากว่าไม่มี ค่อยไปหาอีกก็ยังไม่สาย
มีแต่เพียงได้เช่ออี้จื่อมา กู้อาวเวยก็มั่นใจได้ ว่าเด็กที่เกิดมาจะไม่ได้รับพิษจากตัวนางแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น นางเชื่อว่าขอเพียงนางมีชีวิตอยู่เพียงสิบเดือน นางก็สามารถจะทิ้งเด็กคนนี้ไว้ได้โดยปราศจากโรคภัยและความเจ็บปวด
แต่รากถุงน้ำดีหงส์ในร่างกายนั้น นางกลับไม่สามารถหาวิธีรักษาได้
ระหว่างทาง นางได้แยกทางกันกับกู่เซิง กู่เซิงยังคงต้องการติดต่อกับล่ายเสวียนอย่างเงียบๆ และต้องการจะรอว่าท่านซูจะทำอย่างใดต่อหลังจากกลับมา ยังมีอีกหลายสิ่ง ไม่สามารถที่จะรอคนป่วยอย่างกู้อ้าวเวยได้
ผลเสียจากการที่เคยนอนดึก ตอนนี้ได้ส่งผลต่อสมองของนาง
นางถูกรับช่วงต่อจากคนขององค์ชายสามมาตลอด ตลอดทางมาจนถึงชายแดน นางแทบจะสับสนงุนงง ไม่สามารถกินยาได้ ในยามปวดก็ได้แต่อดกลั้นเอาไว้ ผนวกกับกระแสลมหนาว สิบกว่าวันมาแล้วจึงยังไม่ดีขึ้น เมื่อถูกคนประคองลงมาขาก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรง
โชคยังดีที่ฉีหรัวมาช่วยตั้งแต่ต้น อ้างว่าต้องการมาส่งฉีหลินและหยินเชี่ยวไปยังแคว้นเอ่อตานเพื่อดูหนทางการค้า แต่ที่จริงแล้วนางต้องการมาพบกู้อ้าวเวย
ฉีหรัวแต่งตัวอย่างหรูหรา ด้านหลังมีองครักษ์ขององค์ชายสี่คอยติดตาม ทุกคนต่างรู้ว่าระหว่างนางและองค์ชายสี่นั้นมีเพียงกระดาษหน้าต่างบาง ๆคั่นไว้ ทั้งสองสามวันมานี้ล้วนแต่ให้ความเคารพ แต่กลับน้อยครั้งที่นางจะพูดจา
ก็อ้าวเวยรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ฉีหรัวเข้ามาต้อนรับด้วยตนเอง ทักทายนางด้วยตนเอง “เจ้าอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน”
กู้อ้าวเวยพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “หากว่าเจ้าใช้ชีวิตอยู่บนรถม้ามาเกือบทั้งปี เจ้าคงจะไม่พูดแบบนี้”
ฉีหรัวได้แต่ยิ้ม แล้วตามทุกคนไป
ในขณะนี้กองทัพแนวหน้าได้บุกประชิดพรมแดน ขัดขวางชาวต่างชาติ และพรมแดนด้านที่พวกเขาอยู่นั้นเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับด้านใน และเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว แต่มีกองกำลังมากกว่านี้ และยังมีสถานที่ของทางการถึงสองแห่งที่ถูกทหารยึดเอาไว้ และจวนที่ฉีหรัวซื้อไว้ก็อยู่ด้านข้างนั้น ภายในมีห้องอยู่ประมาณเจ็ดแปดห้อง มีทางเดินที่สลับซับซ้อน
เมื่อนั่งลงเรียบร้อย กู้อ้าวเวยก็ได้ถอนหายใจออกมา ถามนางว่า “สูตรก่อนหน้านี้ตอนนี้ขายได้ราคาเท่าไร”
“หากข้าบอกว่าสามารถทำเงินได้แสนเหรียญเงิน เจ้าจะเชื่อไหม” ฉีหรัวยิ้มและรินน้ำอุ่นให้นางถ้วยหนึ่ง วางดอกไม้ที่เรียบง่ายไว้ข้างๆ เมื่อเห็นใบหน้าของกู้อ้าวเวยแสดงความตกใจ จึงพูดต่อไปว่า “ต้องขอบคุณสูตรพวกนั้นของเจ้า พวกสตรีที่มีฐานะร่ำรวยต่างก็มาตกหลุมรัก ตอนนี้พ่อยังไม่ต้องการให้ข้าแต่งงาน ฉีหลินก็ช่วยดูแลร้าน และไม่เคยรู้มาก่อนเลย หยินเชี่ยวจะเรียนรู้การปฏิบัติตัวมาจากเจ้า จนเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ ทำให้ซื้อขายได้เงินเป็นจำนวนมาก”
หลายปีมานี้ กู้อ้าวเวยได้ส่งใบสั่งยานั้นอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องที่จะได้รับเงินถึงแสนตำลึงนี่ กลับคิดไม่ถึงจริง ๆ
“เงินพวกนี้เจ้าคิดจะใช้มันทำอะไรล่ะ” กู้อ้าวเวยอดไม่ได้ที่จะถาม
“ยังมีเงินอีกกว่าสองหมื่นตำลึงที่ยังไม่ถึงมือเจ้า และยังเหลืออีกสามหมื่น ข้าจะนำมันไปซ่อนถนนของอินโจว แม้ว่าอินโจวจะเจริญรุ่งเรือง แต่เป็นเพราะในแคว้นชางหลานมีสิ่งของของต่างชาติน้อยมาก ตอนนี้แม้แต่เมืองเย่นเองก็นำของต่างชาติเข้าไปได้ไม่น้อย ข้าเลยคิดจะศึกษาที่อินโจวดูบ้าง” ฉีหรัวพูดเช่นนี้ อีกด้านหนึ่งก็มองไปยังกู้อ้าวเวย “อีกทั้ง อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าเอาการผลิตของอ๋องจิ้งไปตั้งที่ไหน”
“เจ้ารู้อีกแล้วหรือ” กู้อ้าวเวยหัวเราะขึ้นมาเบาๆ
“นับว่าข้าเป็นคู่แข่งของเจ้า ตอนแรกก็คิดว่าเจ้าทำได้แค่สูตรยาบางอย่าง ไม่คิดเลยว่าเจ้ากลับมีหัวการค้า แถมยังจะประหยัดเงินทุนได้ด้วย หากทำอะไรเป็นประจำ ก็คงจะมั่งคั่งได้ในไม่กี่ปี แล้วค่อยซื้อยุ้งฉางที่ดินไว้ไม่น้อย และคัดเลือกเอาชาวนาหลายพันคน ในนามของอ๋องจิ้งและองค์ชายน้อย” ฉีหรัวมองนางอย่างทำอะไรไม่ถูก แล้วพูดต่อไป “เจ้ากลับทุ่มเทใจให้”