บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 787
บทที่ 787 การแลกเปลี่ยนลุล่วงไปด้วยดี
โซ่ตรวนที่มัดขาของซ่านจินจื๋อและกู้อ้าวเวย มีเพียงแผนในมือของกู้เฉิง
รีบเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าทั้งสองคนรวมกัน ถึงเวลานั้นก็จะแพ้ยกกระดาน ที่คุยกันเมื่อคืน ซ่านจินจื๋อก็แค่อยากจะเปิดอกกับพี่ชายตน แล้วให้ซ่านเซิ่งหานไปสืบเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ ไม่มีใครรู้ว่าดาบเล่มนั้นจะเล็งมาทางซ่านต้วนโฉงหรือไม่ หรือจะไปลงมือกับรอบข้างซ่านเชียนหยวน ก็ไม่มีใครรู้
เดินตามคนในจวนมาจนถึงคุก
คุกที่นี่มันเก่าแกกว่าคุกของที่ตำหนักอ๋องจิ้งเสียอีก แล้วยังใหญ่กว่าด้วย รอยตะเกียงที่ผนังถูกไฟลนจนเป็นรอยดำ แสดงว่าที่นี่มีมานานแล้ว และแสดงว่าซ่านต้วนเฟิงกบฏต่อราชวงศ์มานานแล้ว ไม่ใช่ปีสองปีนี้
เดินตามบันไดลงไป ในคุกนั้นก็มีเพียงแสงตะเกียงสลัวๆ เฉิงยีและเฉิงเอ้อเฝ้าที่ทางเข้าออก นางถือตะเกียงเดินผ่านความมืดเข้าไป แล้วหยุดด้านหน้าของรั้วคุก เมี่ยวหารก็เงยหน้ามองนาง “ถูกขังอยู่ที่นี่ ทำไมเจ้าถึงยังสบายใจได้อีก”
“ที่มาที่นี่ก็เพื่อบอกวิธีเป็นอมตะให้เจ้า” กู้อ้าวเวยโค้งตัวลง กระโปรงกวาดลงไปที่พื้น ตะเกียงในมือถูกนางวางไว้ด้านข้าง แล้วยกมือพับแขนเสื้อ แล้วยื่นมือไปข้างหน้าเขา พูดเสียงต่ำว่า “หญ้าปู่เจิ้น ลูกเอ่อตันแดง แล้วก็ยังมีลูกเอ่อตันแดงที่เน่าแล้วเกิดเป็นพิษนั้น แล้วก็ยังมีพิษที่เกิดจากพิษเถ่หลิงตังตระกูลหยุนและถุงน้ำดีหงส์ (ต้นหญ้า) แล้วก็พวกยาทั่วไปอีก20กว่าชนิด”
เมี่ยวหารจับชีพจรนางอย่างสงสัย แล้วก็ส่ายหัว “เจ้ากำลังหลอกข้า”
“ที่ข้ายังสามารถมายืนคุยกับเจ้าได้ตอนนี้ มันก็แสดงให้เห็นแล้ว” กู้อ้าวเวยขำออกมา กลิ่นสนิมพุ่งออกมาจากปากของนาง นางกลั้นใจอ้วกเข้าไว้แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าตนเองออกมา
ในผ้านั้นเห็นเป็นรอยแดง แล้วนางก็ยิ้มเล็กๆ แล้วเอาผ้านั้นทิ้งลงข้างเท้าของเมี่ยวหาร แล้วก็ยิ้ม “ในโลกนี้ไม่มีแม่ที่ไม่เอาไหนแบบข้าแล้ว”
“เจ้าใกล้จะตายแล้ว” เมี่ยวหารพูดเสียงเบาๆ
“นอกจากข้าจะมียาถอนพิษ หรือไม่ก็….” กู้อ้าวเวยเอามือมาจับเสื้อที่อกตนเอง แล้วพูดว่า “ทนตอนที่เจ็บปวดที่สุดตอนแรก แล้วก็จะสามารถผสานพิษทั้งหมดเข้าด้วยกัน”
กล่าวเช่นนั้น เมี่ยวหารลืมตาโตใส่นาง “จากนั้นเล่า? …..”
“ถ้าข้าได้ดื่มสิ่งที่เหมือนเลือดข้า ข้าก็จะไม่ต้องเจ็บปวด ส่วนเจ้าและซูพ่านเอ๋อก็รวมกันหลายครั้ง เลือดนางจะช่วยเจ้าได้” กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้นช้าๆ ท่าทางที่นั่งยองยองอยู่ก็เริ่มปวดขา เลยเปลี่ยนไปนั่งลงพื้น แล้วพูดว่า “แต่ข้านั้นไม่ไหว ข้าไม่อาจให้ลูกของข้าเสียบุพการีทั้งสองคนไปพร้อมกัน”
เมี่ยวหารกำหมัดแน่น “ก็แค่เลือดนิดเดียวเอง….”
“ในชีวิตเจ้า จะต้องอาศัยเลือดของนาง” กู้อ้าวเวยส่ายหน้าให้กับความคิดของนาง “แล้วอีกอย่าง นางไม่เหมือนกับเจ้า บางทีเจ้าอาจจะอาศัยพิษนี่เพื่อมีชีวิตต่อไป ส่วนนางก็จะจากไปจากโลกนี้โดยเร็ววัน”
อีกอย่าง เมี่ยวหารไม่มีญาติพีน้องแล้ว ราวกับไม่เหลือตัวเลือกแล้ว
“ทำไมเจ้าต้องบอกข้า?” เมี่ยวหารก็ยังไม่เชื่อใจ
“ข้าอยากหายาถอนพิษ ความเป็นอมตะนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ เจ้าเคยเป็นศิษย์ของตระกูลหยุน เจ้าน่าจะรู้จักพิษพวกนี้ดี บางทีเจ้าอาจจะหาคำตอบได้” กู้อ้าวเวยพูดไป แล้วยื่นมือออกจับเสื้อของนาง แล้วพูดว่า “เอายาถอนพิษมาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะให้พิษเถ่หลิงตัง นี่มันอาจจะเป็นสิ่งที่อาจารย์ของเจ้าไม่เคยบอกเจ้ามาก่อน”
ทั้งสองมองหน้ากัน เมี่ยวหารนิ่งไปพักใหญ่แล้วพูดว่า “เจ้าฉลาดกว่าข้า”
“แต่ข้าถูกคนควบคุม ข้าอยากให้เจ้าไปรอข้าที่ด่านลั่วสุ่ย” กู้อ้าวเวยพูดเช่นนั้น แล้วก็ลุกขึ้น แล้วเอาตะเกียงไว้ที่ประตู แล้วมองนางนิ่งๆ
หลังจากนั้น เมี่ยวหารก็ถอนหายใจออกมา “ข้ารับปากเจ้าได้ แต่เจ้าต้องพาซูพ่านเอ๋อมาด้วย อย่าทำร้ายนาง”
กู้อ้าวเวยบึนปาก แล้วชี้ผ้าเช็ดหน้าข้างๆ มือนาง แล้วเห็นนางเอาผ้านั้นยัดซ่อนไว้ในหญ้าแห้ง แล้วเดินออกไป
พอออกจากคุก กู้อ้าวเวยสั่งให้คนไปบอกกู้เฉิง “ไปบอกเขาว่า ข้าอยากให้เมี่ยวหารเอายาไปยังที่ด่านลั่วสุ่ยอย่างปลอดภัย ถ้าเมี่ยวหารยังอยู่ที่นี่ ข้าก็ยังสงสัยว่าเขาจะวางยาข้า จะยอมตายพร้อมกัน เขาเข้าใจความหายนี้ดี”
คนรับใช้ก็ขมวดคิ้วคิดหนัก แต่กู้อ้าวเวยก็มองขวางให้เขา
เขาได้แต่เดินออกไป แล้วก็เอาความนั้นไปบอกกับกู้เฉิง
หลังจากที่กู้อ้าวเวยกระอักเลือดออกมา ก็สบายตัวมากขึ้น แต่ซ่านจินจื๋ออยู่กับนางทุกวัน ครั้งนี้มาหาเมี่ยวหาร ก็ทำให้สบายตัวขึ้นมาก ดูเหมือนเฉิงเอ้อจะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง แล้วหันมามองกู้อ้าวเวย “ฝ่าบาท เหมือนว่าบนตัวท่านจะมีกลิ่นอะไรแปลกๆ”
“อาจจะเป็นเลือดที่ติดอยู่บนพื้น” กู้อ้าวเวยพูดไป แล้วก็เอามือดึงๆ ดูกระโปรงด้านหลัง ตรงนั้นมีรอยเปื้อนดินอยู่ และก็มีกลิ่นแปลกๆ คุกแบบนั้นจะมีกลิ่นคาวเลือดก็ไม่แปลก
“ข้าจะกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน” กู้อ้าวเวยปัดฝุ่นในมือ แล้วก็พาคนกลับไป
ส่วนซ่านจินจื๋อก็กินข้าวเสร็จแล้ว ตอนที่กู้อ้าวเวยกลับมาถึงแล้ว นางเปลี่ยนชุดแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่นจากคุกหลงเหลืออยู่ แต่นางก็ไม่สนใจ เดินยิ้มเข้ามาพูดว่า “ไปกันเถอะ”
“เจ้าพูดอะไรกับเมี่ยวหาร?” ซ่านจินจื๋อถามเสียงต่ำ แล้วก็ลุกขึ้นเดินตามนางไป
“ข้าให้เขาเอายาถอนพิษออกมา ซูพ่านเอ๋อเป็นไพ่ใบสุดท้ายของข้า” กู้อ้าวเวยพูดเบาๆ กระซิบให้ “แล้วข้าก็ยังให้เขาไปทำยาที่ด่านลั่วสุ่ย ที่นั่นมันปลอดภัยกว่า”
ซ่านจินจื๋อก็เข้าใจ ตอนนี้กู้อ้าวเวยอยู่ที่นี่ ต่อให้มียาถอนพิษแล้ว ก็อาจจะถูกคนซ้อนแผนเอาได้ ซ่านจินจื๋อใช้กำลังและอำนาจแก้ปัญหาที่มาตรงหน้าได้ แต่ไม่อาจจะป้องกันวิธีการที่ซับซ้อนได้
ทั้งสองคนอยู่ในค่ายศัตรูโดยไม่กลัว แต่กังวลเหมือนๆ กัน
ซ่านต้วนเฟิงเดินเข้ามาใกล้ทั้งสองคน แต่ก็ยังหลบสายตาของซ่านจินจื๋อ กู้อ้าวเวยก็ยังสงสัยว่า ร้านเกี๋ยวน้ำนั้นยังอยู่ในตลาดอยู่หรือไม่ จะอ้อมไปที่จี้ซื่อถาง (ร้านขายยา) อีกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก่อนที่กู้อ้าวเวยจะไปสำนักเยียนหยู่เก๋อ ซ่านต้วนเฟิงเอามือมาจับมือนางไว้ แล้วจ้องเขม็ง “อย่ามาเล่นแง่กับข้านะ”
กู้อ้าวเวยมองเขาแปลกๆ จากนั้นก็เรียกคนของสำนักเยียนหยู่เก๋อ แล้วเอาเงินยื่นให้นางไป “ช่วยไปบอกคุณหนูของพวกเจ้าว่า ข้าอยากพบลูกชายข้า ข้าจะรอที่นี่”
“รับทราบ” คนรับใช้นั้นก็ทำความเคารพ แล้วก็สั่งให้คนเอาฉากมากั้น เพื่อไม่ให้ทั้งสามคนนั้นอยู่ใกล้กับพวกคนในตลาด