บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 791
บทที่ 791 โหดเหี้ยมทารุณ
หลบซ่อนอยู่ในความมืด มือของซูพ่านเอ๋อเริ่มสั่น
“เขาเคยบอกไว้……….”
“คำพูดผู้ชายเชิ่อได้ที่ไหนกัน ซ่านจินจื๋อเองก็บอกว่าจะปกป้องเจ้าไปทั้งชีวิต” ในเสียงมีความอึดอัด กู้อ้าวเวยเอามือเท้าเตียงไว้ แล้วเอนตัวคุยกับซูพ่านเอ๋อ จ้องมองดูสายตาที่ถูกความพ่ายแพ้เข้าครอบงำ แล้วพูดว่า “กู่เซิงก็เป็นลูกของกู้เฉิง แต่เขากลับให้เจ้าไปฆ่าเขา ถึงแม้จะเป็นพ่อเจ้า แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่เพื่อนร่วมชีวิตเจ้า”
“เจ้าก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ?” ซูพ่านเอ๋อขยับเข้าไปใกล้มุมห้องอีก แล้วก็ขยับขา แล้วเกิดเป็นเสียงโซ่ตรวน
“พ่อแท้ๆ ของข้าเพิ่งมาหาข้าวันนี้ คนที่ข้ารักฝากรอยแผลแทนความรัก พวกเรานั้นเหมือนกัน” กู้อ้าวเวยพูดเช่นนี้ แล้วก็เอามือจับคางของนาง “แล้วอีกอย่าง เมี่ยวหารก็ยังไม่ได้เอายาถอนพิษมาให้ข้า เจ้าเป็นไพ่ใบสุดท้ายของข้า”
“เมี่ยวหารอยากให้ข้าเป็นแค่เครื่องสังเวย”
“แต่ถึงเป็นเช่นนั้น เจ้าก็เป็นสิ่งสังเวยที่ขาดไม่ได้” กู้อ้าวเวยจ้องมองนาง จนซูพ่านเอ๋อขยับไหล่ไปมา แล้วพูดว่า “อยู่ที่นี่ก็แล้วกัน ถ้าเจ้าหนีไป เจ้าจะตายอย่างอนาถ คนพวกนั้นไม่เหมือนข้าที่จับแต่ดาบ พวกเขายังมีเหล็กเผาไฟแล้วก็แซ่ชุบพริกชุบเหลือด้วย”
นางนิ่งไป ซูพ่านเอ๋อไม่กล้าคิดต่อ
แล้วในคุกก็ยังอับชื้น มืดจนมองไม่เห็นมือตนเอง แล้วข้างหูก็ยังมีเสียงกรีดร้องและด่าทอก่อนตายของชิงต้าย นางก็ตกใจจนต้องเอามือกุมหัวตนเอง
กู้อ้าวเวยก็ไม่พูดมาก ตอนลุกขึ้นก็เอายายาจินชวง (ยารักษาแผล) โยนให้นางไปสองขวด
ตอนออกจากห้องขัง นางเห็นว่าอูกงกงยืนหน้าประตู แล้วมองนางแปลกๆ “ฝ่าบาท ท่านจะทำอะไรกันแน่?”
“แก้แค้น” กู้อ้าวเวยพูดเบาๆ แล้วก็มองเขา “ไปแกะโซ่ตรวนนางออกมา ถ้านางจะหนี พวกเจ้าก็วิสามัญนางได้เลย จะให้ดีก็ใช้วิธีที่ข้าบอกเมื่อครู่”
เสียงนั้นก็ไปเข้าหูให้ซูพ่านเอ๋อได้ยินพอดี นางก็อยากจะตะโกนคัดค้าน แต่หัวเข่าไปกระทบกับสิ่งบางอย่างเย็นๆ แล้วก็เห็นขวดยายาจินชวง (ยารักษาแผล) สองขวด นางก็ใจเย็นลง แล้วหยิบเอาขวดยามากอด เสมือนเป็นของล้ำค่า
อูกงกงก็ยังไม่เชื่อกู้อ้าวเวย ได้แต่ทำตามคำสั่งของนาง แล้วก็ไปเอาโซ่ตรวนออกจากขานาง นางก็ยังไม่ขยับตัว ทำให้เขาสงสัย “เจ้าก็จะฟังคำของกู้อ้าวเวยเช่นนี้หรือ?”
ซูพ่านเอ๋อกัดฟันแน่น โดยไม่พูดอะไร
“โง่เขลา” อูกงกงพูด แล้วก็เอาโซ่ออก แล้วคนที่อยู่บนเตียงก็เอาโซ่นั้นมามัดคออูกงกง อูกงกงก็เกือบจะตกใจ พูดไม่ออก ได้แต่จ้องมองหน้านาง
ซูพ่านเอ๋อตาแดงก่ำจ้องมองเขา “เจ้าสิ โง่ ไอ้คนขั้นต่ำ!”
ผิวหนังของคอถูกโซ่รัดจนปลิ้นออกมา
จนถึงตอนที่กู้อ้าวเวยเห็นประตูไม่ปิดสักที เลยตามไปดู อูกงกงก็สิ้นลมนอนลงที่พื้นแล้ว เหมือนว่าคอจะถูกโซ่รัดจนหัก ส่วนซูพ่านเอ๋อก็ยืนถือโซ่อยู่ ยืนยิ้มตาหยีให้กู้อ้าวเวย “กู้อ้าวเวย เจ้านึกหรือว่า………..”
“ทำดีมาก” กู้อ้าวเวยใจดีสู้เสือเดินเข้าไป แล้วเห็นโซ่ในมือนาง พร้อมพูดว่า “แต่ทำไมเจ้าต้องฆ่าเขา?”
“มันด่าข้า ข้าเป็นถึงน้องบุญธรรมของอ๋องจิ้ง มันไม่คู่ควรแม้แต่จะมาถือรองเท้าให้ข้าเสียด้วย” ซูพ่านเอ๋อหายใจเข้าออก แต่ก็ยังไม่กล้าเดินเข้าหากู้อ้าวเวย
“มีเหตุผล แต่เจ้าควรไปฆ่าคนอื่นมากกว่า” กู้อ้าวเวยเดินเข้าไป แล้วคว้ามือนางไว้ แล้วลากนางออกไปยังที่ที่มีแสงแดด ซูพ่านเอ๋อก็ด่าออกมา แล้วมองกู้อ้าวเวยลากมือตนเอง “เจ้าจะทำอะไร?”
กู้อ้าวเวยหันมามองนาง สายตาจ้องมองไปยังใบหน้าที่เขียวช้ำ “เจ้าควรจะไปฆ่าคนที่ทำร้ายเจ้า ไม่เช่นนั้น เจ้าจะไม่รู้จักจำ”
นางรู้ว่าคนที่นางจับมาเป็นทหารยามนอกจวน กู้อ้าวเวยเอานางมาไว้ข้างประตู แล้วผลักนางไปยังทหารยามพวกนั้น แล้วพูดว่า “เข้าไปเอาร่างของอูกงกงออกมา นางเป็นคนทำ”
ซูพ่านเอ๋อมองชายตัวใหญ่อย่างตกใจ พวกเขาถือกระบองด้วย
ส่วนกู้อ้าวเวยก็ยืนเอียงตัวหลบทางให้ ยืนนิ่งข้างประตู แล้วเอามือนวดๆ ที่มือตนเอง เห็นมีคนมายืนด้านหน้านาง แล้วพูดว่า “มีแต่อ๋องจิ้งคนเดียวที่เข้าวังได้”
“ข้ารู้” กู้อ้าวเวยพูดนิ่งๆ แล้วไม่พูดต่อ
ไม่รู้ว่านางเข้าใจผิดหรือเปล่า ความเจ็บปวดของมือขวาเริ่มมากขึ้น โดยไม่มีทีท่าจะเบาลง
ตอนที่นางกำลังจะยื่นมือมานั้น เสียงกระบองที่หล่นลงพื้นดึงสตินาง แล้วซูพ่านเอ๋อก็นอนลงไปดิ้นบนพื้น ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา แล้วตะโกนว่า “เจ้าจะทำแบบนี้กับข้าไม่ได้ ข้าเป็นไพ่ใบสุดท้าย”
คำพูดแปลกๆ ทำให้ชายพวกนั้นอยากลงมือต่อ แล้วอีกสองคนก็นำร่างของอูกงกงออกมา กู้อ้าวเวยเอามือปิดจมูก พร้อมได้ยินเสียงกระบองตีไปยังร่างคน แล้วพูดว่า “ไปบอกกู้เฉิง”
“ไม่” ซูพ่านเอ๋อตะโกนออกมา “ข้าไม่ทำ……..ข้าจะไม่หนีแล้ว ขอร้องล่ะ…….”
ถูกตีอีกแล้ว พวกผู้ชายดึงผมซูพ่านเอ๋อเพื่อให้นางลุกขึ้น แล้วก็ตบบ้องหูนาง “นี่ตีแทนท่านอู”
ซูพ่านเอ๋อตะโกนเรียกชื่อกู้อ้าวเวย แล้วก็ถูกผู้ชายเตะลงที่พื้น ทั้งมือทั้งกระบองตีลงไปที่ตัวนาง พอกู้อ้าวเวยสั่งจึงหยุด แล้วนางก็ยื่นมือไปหาซุพ่านเอ๋อ
นางเงยหน้ามาใบหน้าบวมแดง แล้วมองหน้ากู้อ้าวเวย แล้วไม่ยอมยื่นมือออกไป
“โอกาสครั้งสุดท้าย อย่าคิดหนีอีก” กู้อ้าวเวยก็ดึงเสื้อผ้านางให้นางลุกขึ้น แล้วก็ดันนางเข้าไปยังห้องขังอีก แล้วมองพวกทหารยาม “ครั้งหน้าหาคนฉลาดๆ มาหน่อย อย่าคิดว่าคนที่ต่อสู้ไม่เป็นจะกลายเป็นนิ่งเหมือนกระต่าย”
มีทหารยามไม่พอใจเดินขึ้นหน้ามา แต่กู้อ้าวเวยปิดประตูเองไปแล้ว
สุดท้าย เฉิงยีเฉิงเอ้อก็ไม่ออกมา กู้อ้าวเวยก็เดาได้ว่านี่เป็นแผนของเฉิงซาน
นำซูพ่านเอ๋อเข้าไปสั่งสอน แล้วก็เห็นผ้าตกมาจากตัวนาง แล้วก็มียาเม็ดสำดำขนาดหัวแม่มือตกลงมา ซุพ่านเอ๋อก็ร้องและถูกกู้อ้าวเวยผลักลงนั่งที่เตียง แล้วตนเองก็ก้มลงเก็บ แล้วทำหน้านิ่ง “ยังพกต้นถุงน้ำดีหงส์ (ต้นหญ้า) อีกนะ”
ซูพ่านเอ๋อหายใจเข้า “มันเหลือ…….ข้ารู้ว่ากู่เซิงเป็นพี่ข้า”
“เจ้าไม่น่าจะชั่วขนาดนี้” กู้อ้าวเวยพูด แล้วก็หยิบถุงน้ำดีหงส์ (ต้นหญ้า) ขึ้นมา แล้วมองนาง “อย่าสร้างเรื่องให้ข้า นอกจากเจ้าจะอยากถูกตีจนตาย”
“ข้าจะฟังความเจ้า……..แต่ข้าไม่อยากกินยาพิษ” ซูพ่านเอ๋อมองถุงน้ำดีหงส์ (ต้นหญ้า) ในมือของนางอย่างหวาดกลัว
“ข้าจะใช้มันกับคนที่ควรใช้ด้วย” กู้อ้าวเวยเก็บยานั่นลงแขนเสื้อ แล้วเดินออกไป
ประตูถูกใส่กุญแจลงไป คนในห้องก็ไม่กล้าหนีไปไหนแล้ว