บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 872
บทที่ 872 หญ้าพิษ
ออกจากห้องหนังสือ หิมะตกลงมาตาม
พระอาทิตย์ตกเร็ว หิมะที่หนาวเหน็บตกกระทบลงที่ใบหน้า ซางนิงตามติดหลังเขา: “องค์ชายท่านนั้นตอนนี้ปรากฏตัวที่ด่านลั่วสุ่ย อ๋องจิ้งจะอยู่นิ่งๆ หรือว่า……”
“ขอแค่หยุนหว่านอยู่ในมือข้า นางก็ไม่กล้าทำอะไรโดยไม่คิด”
กำจดหมายลับไว้ในมือแน่น จนกระทั่งกระดาษในมือกลายเป็นผงถ่าน เขาถึงเดินไปที่ห้องนอน
กู้อ้าวเวยอยู่ข้างเขา กู้อ้าวเวยในด้านลั่วสุ่ยนั้นเป็นแผนของเสด็จพี่ หรือมีคนมาแทนที่กันนะ เขายังต้องใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียด
ซางนิงที่อยู่ด้านหลังออกห่างจากเขาหน่อย และพูดเตือนว่า: “งานเลี้ยงฤดูหนาวครั้งนี้ ฝ่าบาทหวังให้องค์ชายเข้าร่วมทั้งหมด รวมไปถึงองค์ชายสาม”
ดูแล้ว ฮ่องเต้เห็นได้ชัดว่าให้เขาไปตามซ่านเซิ่งหานกลับมา
พยักหน้าตกลง ซ่านจินจื๋อกลับแปลกใจว่าองค์ชายเก้าซ่านต้วนเฟิงที่ไม่ออกจากบ้านเลยมีหน้าตายังไง
กลับมาถึงห้องนอนระหว่างทางก็ถามเรื่องนี้ แต่กลับเห็นว่าด้านข้างมีคนชุดดำปรากฏขึ้นและไม่ใช่ลูกน้องของเขา เขาดึงผ้าปิดหน้าลง เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้น: “ท่านอ๋อง”
“โม่อีให้เจ้าเข้ามาได้งั้นเหรอ” ซ่านจินจื๋อมองดูกุ่ยเม่ยด้วยสีหน้าที่เย็นชา: “เจ้าควรไปอยู่กับฮูหยินหยูนหว่าน”
“ข้าจะไปพูดแน่นอน แต่โม่ซานเตือนข้าเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่ง ควรจะบอกกับท่านอ๋องก่อน” กุ่ยเม่ยโค้งคำนับ พูดเสียงเบาว่า: “อาจจะใช้โอกาสตอนที่ความทรงจำนางยังเลือนราง ทำลองจิตใจที่แท้จริงของนาง อย่าให้นางจากไปอีกเลย”
พอพูดจบ ในลานก็เริ่มมีข้ารับใช้มาเก็บกวาด
รอจนซ่านจินจื๋อได้สติ กุ่ยเม่ยก็หายไปแล้ว เหลือเพียงแต่หิมะเต็มพื้นที่ยังไม่ละลาย เขากำมือแน่น แต่ทำไมเขายังรู้สึกว่ากู้อ้าวเวยปิดกั้นตัวเองตลอด จนทำให้คนรู้สึกเดาทางได้ยาก
แต่เป็นเช่นนี้ ก็เป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน
นางออกจากที่หลายครั้ง แต่เหตุผลกลับยิ่งอยู่ยิ่งแปลกมากขึ้น และไม่มีความรู้สึกปลอดภัย
นี่เป็นเหมือนวิธีการขอโทษ
นอนไม่หลับตลอดทั้งคืน ฉีหรั่วมาเจอเขาที่สวนดอกไม้ ในสวนเต็มไปด้วยสีน้ำเงิน แต่ละที่เต็มไปด้วยหิมะเกาะบนดอกไม้ ศาลาที่นั่งรอบด้านติดม่านกันลมหิมะรอบๆ ความเหน็บหนาวนี้ยังคงหนาวเข้ากระดูก
ฉีหรั่วกอดหม้ออุ่นไว้ที่มือรอเขา เห็นม่านเปิดลง นางก็พูดเสียงเบาว่า: “พ่อและปู่ของเด็กคนนั้นต่างตายที่ด่านลั่วสุ่ย เขาบอกว่าเรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือของหยาเหมิน (ที่ทำการรัฐ)”
“พูดจาพร่ำเพรื่อ” ซ่านจินจื๋อนั่งลงเคาะโต๊ะเบาๆสองครั้ง
ฉีหรั่วโล่งอก และพูดอย่างจริงจังว่า: “เขามาที่เมืองเทียนเหยียนอยากจะร้องทุกข์ต่อศาล แต่เขาเห็นว่าทหารที่เฝ้าหน้าเมืองจะส่งกล่องใหญ่ๆเข้าไปด้วยระหว่างที่ผลัดเวรกัน เจ้าติดตามไป เห็นว่าเป็นคนตายที่สวมชุดในคุก”
ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้วแน่น: “นักโทษพวกนี้น่าจะถูกส่งตัวไปที่หลุมฝังศพจำนวนมาก”
“แต่เขาบอกว่า คนพวกนี้ถูกส่งไปตรงบ้านที่หลังเขานั่นแล้ว เขานั่งเฝ้าอยู่หลายวันถึงรู้ว่า เจ้าของบ้านนั่นเป็นตระกูลตงฟาง และผ่านที่พวกนั้นพูดกัน เขาก็รู้ว่าตระกูลตงฟางกำลังทำยาอมตะเพื่อมอบให้แก่ฝ่าบาท พวกเขาใช้คนตายพวกนั้นทดลองหญิงพิษดอกไม้พิษที่ไม่ใช่ของชางหลาน ยิ่งไปกว่านั่นยังให้คนมีชีวิตอยู่ทดลอง” ฉีหรั่วส่งคำรับสารภาพบนโต๊ะ: “จากนั้นเขาก็ถูกจับตามอง ระหว่างที่เร่งรีบเขาจึงหลบไปที่จวนตงฟาง คิดว่าที่ที่อันตรายที่สุดเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด”
“ที่ที่เขาอยู่มีห้องลับ เขาทำได้ยังไงภายใต้สายตาของตระกูลตงฟาง” ซ่านจินจื๋อเอาคำสารภาพนั้นมา ด้านบนเขียนทุกอย่างที่เขาเจออย่างละเอียด
“นั่นก็เป็นของที่ตระกูลตงฟางทิ้งไว้ ในตอนที่เขาเข้าไป ด้านในมียาพิษที่เขาใช้ เขาตัดสินใจให้ตระกูลตงฟางถูกว่าร้ายเสียเอง หวังว่าเรื่องนี้จะแพร่กระจายออกไป แต่ตระกูลตงฟางบังคับอยู่อย่างนั้น เขาออกไปไม่ได้ สุดท้ายจึงหาโอกาสทำเรื่องนี้ให้ใหญ่โต” ฉีหรั่วพูดถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจหนักขึ้นกว่าเดิม
นางเอาขวดยาที่กู้อ้าวเวยให้นางออกมา: “ข้ากินยาถอนพิษด้านใน เอาขนมพวกนั้นเข้าไปหน่อย แต่นางน่าจะรู้ว่าในขนมวางยาพิษอะไรกันแน่”
“นางดูเหมือนจะรู้เลย แต่ตัวตนนางเห็นได้ชัดว่า อย่าเข้าใกล้มาก ตอนงานเลี้ยงฤดูหนาว ทุกอย่างต้องระวัง ครั้งนี้หยวนเอ๋อทำได้ดี คำรับสารภาพนี้อย่าให้คนอื่นเห็น ก็บอกไปว่าเขาตายอยู่ในคุก จางเหยียงซานไม่นานจะมาที่เมืองเทียนเหยียน ให้เขาระวังเรื่องบ้านนั้นด้วย” ซานจินจื๋อสั่งเสียงเบา และรีบลุกขึ้น ตั้งใจพูดเสียงดังว่า: “ข้ารู้ว่าควรจะเลือกยังไง”
ฉีหรั่วเอาของเก็บเข้าไปในแขนเสื้อต่อ ลุกขึ้นตาม: “อ๋องจิ้ง หวังว่าถึงเวลาท่านจะไม่กลับคำ ถ้านางไม่ได้ทรยศต่อท่าน ท่านจะทำอย่างไร?”
พอพูดจบ ฉีหรั่วก็เปิดม่านขึ้นและเดินออกไปทันที
ซ่านจินจื๋อยืนนิ่งอยู่ในศาลา นานมากถึงค่อยเดินออกไป
คนที่แอบฟังอยู่ไม่ไกลได้ยินแค่เสียงช่วงท้าย ในใจก็รู้แล้วควรทำอย่างไร
ซ่านจินจื๋อกลับสงสัยว่าตระกูลตงฟางทำอะไรให้ฮ่องเต้อยู่ หรือว่าทำธุระให้ตัวเองกันแน่
เรื่องยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ใจคนกลับซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม
……
งานเลี้ยงฤดูหนาวมีฮองเฮาและสนมช่วยกันจัดขึ้น อีกทั้งลมหนาวจากหิมะที่พัดแรง ก็ยังตั้งเวทีไว้ในสวนดอกไม้ เพราะก่อนหน้านี้จวนตงหางเกิดเรื่อง ห้องครัวก็ต้องตรวจตราขนมและคนทำเป็นพิเศษ ทุกวันก็ต้องทำงานไม่หยุด
ซ่านจินจื๋อยุ่งเรื่องงานราชการ ยังมีการไปมาหาสู่กับพวกขุนนาง ยุ่งมาก
และในโรงเตี๊ยมกู้อ้าวเวยที่พักมายาวนานก็เปลี่ยนเสื้อผ้า ภายใต้ความตั้งใจของยู่จือนางแต่งหน้าอ่อนๆ แต่นางก็ยังมองไม่ชัดเจน ดวงตาสีเทากระพริบสองครั้ง ถามหมอที่กำลังวัดชีพจรให้ตัวเองไม่หยุด: “ข้ามีความรู้เรื่องแพทย์ หวางกงกง?”
หวางกงกงยิ้มหรี่ตาและใกล้เข้ามาพูดว่า: “อ๋องจิ้งเอ็นดูและรักแม่หญิงยู่ชีง พวกหมอหลวงก็ต้องดูแลอย่างดีอยู่แล้ว วันนี้ลมแรง แม่หญิงยู่ชีงต้องระวังมากๆ อย่าอยู่ด้านนอกนานเกินไป”
กู้อ้าวเวยพยักหน้าแกล้งทำไร้เดียงสา พูดว่า: “พวกเราตระกูลยู่ตกต่ำไม่นาน พวกศัตรูก็ต่างมาหา ถ้าไม่ใช่ตระกูลยู่ข้าไม่มีผู้สืบทอดแล้ว มาถึงชางหลานข้าก็คงไม่ป่วยแบบนี้”
หวางกงกงก็รู้สึกว่านางไม่เหมือนกับกู้อ้าวเวย ตอนนี้ก็รีบพูดว่า: “แม่หญิงยู่ชีงอย่าคิดแบบนี้เลย ขอแค่อ๋องจิ้งชอบ ท่าน……”
“ท่านอ๋องชางหลานของพวกเจ้าแต่ละคนล้วนเอาแต่ใจ กลัวก็แค่ว่าพวกรับใช้ที่ถูกเอ็นดูและปล่อยใหทำตามใจออกมา ท่านอ๋องมาชอบเป็นเรื่องดีงั้นหรือ?” กู้อ้าวเวยพูดและดวงตาแดงกล้ำ
หวางกงกงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แม่หญิงยู่ชีงเป็นเหมือนเด็กผู้หญิงจริงๆ
และในใจกู้อ้าวเวย นางกลับอดไม่ได้หัวเราะ ปกติหวางกงกงฉลาดมาก แต่บังเอิญเจอคนแบบนี้ก็ไขว้เขวได้ น่าสนุกจริง