บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 912
บทที่ 912 คนที่ฉลาดมักโดนคนที่ฉลาดกว่าหลอก
กู้อ้าวเวยพิงอยู่บนเตียง แต่กลับนอนไม่หลับ
ข้างหน้าต่างเหมือนจะเห็นเงาของทหาร และต้นไม้ที่โดนลมพัดและฝนตกสะบัดไปมา ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก รีบลุกขึ้นแล้วเปิดประตู ก็เห็นชายชุดดำยืนขวางไว้
สูดอากาศลึกเพื่อผลักคนตรงหน้าออก ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “เจ้าจะไปไหนหรือ?”
“แค่ไม่อยากอยู่ในห้อง”
“ศาลานอกห้องก็ไม่เลวนะ” กุ่ยเม่ยขยี้จมูก แล้วถอยหลบทาง
กู้อ้าวเวยคิดสักพัก จึงเดินตามเขาไป เดินไปถึงศาลาพร้อมกับเสื้อที่เบาบาง รอบๆ ต่างโดนล้อมด้วยต้นไผ่เพื่อกันฝนและลม บนโต๊ะมีเทียนสองเล่ม นางก็แค่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วจึงนั่งลง
กุ่ยเม่ยรู้สึกผิดเล็กน้อย มองซ่านจินจื๋อที่อยู่อีกด้าน ลังเลอยู่พักใหญ่ สุดท้ายก็เอ่ยปากพูด “มีช่วงหนึ่ง พวกข้าสองคนอยู่ด้วยกันมาตลอด”
“ข้าก็แค่เหนื่อย ยากพักสักหน่อย” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมาจับศีรษะที่ปวด แววตาที่ทนไม่ไหว ราวกับว่าการคุยกับผู้อื่นนั้นเป็นภาระอย่างหนึ่ง
มีลางผ่านแววตาของกุ่ยเม่ย จากนั้นก็หยิบผลไม้แช่อิ่มออกมาจากอ้อมให้นาง “ทานของเล็กน้อย เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น ไม่ก็ประเดี๋ยวข้าจับแมวสองตัวมาให้เจ้า?”
กู้อ้าวเวยมองดูผลไม้แช่อิ่มที่อุ่นบนมือ แล้วพยักหน้าเบาๆ
“รอก่อนนะ” กุ่ยเม่ยตีเบาๆ ที่หน้าผากของนาง แล้วหายไปเลย
กู้อ้าวเวยทานผลไม้แช่อิ่มไปหนึ่งคำ จากนั้นก็ลุกขึ้นเก็บผ้าม่าน เห็นเพียงเงาสีฟ้ารางๆ ตรงหน้า แต่ไม่เคยเห็นมีผู้คน จึงหันหลังนั่งลงข้างเสา ขาทั้งสองข้างปล่อยออกไปด้านนอก แต่กลับรู้สึกเสียวๆ จึงหดกลับแล้วทานผลไม้แช่อิ่มต่อ
ราวกับว่าเป็นเด็ก
ซ่านจินจื๋อมองนางด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ และยื่นผ้าหนาให้ในขณะที่กุ่ยเม่ยอุ้มแมวผ่าน แล้วพูดเบาๆ “อย่าให้นางต้องไม่สบาย หากนางยังคงไม่สบายใจ เจ้าก็พานางไปอยู่ที่ร้านยาเหย้าสักพักเถอะ”
กุ่ยเม่ยอุ้มผ้าด้วยความแปลกใจ “ท่านอ๋อง ท่านยอมให้ข้ากับนาง ตามลำพัง….”
“โม่ซานจะคอยจับตาดูพวกเจ้าเอง” ซ่านจินจื๋อมองเขา ในแววตามีความย้ำเตือน “อย่าลืมฐานะของเจ้าในตอนนี้สิ ท่านพี่”
กุ่ยเม่ยขนลุกที่หลัง เขาจับที่หลังคอเล็กน้อยจากนั้นก็อุ้มของแล้วตรงไปทางศาลาเลย
โม่อีที่อยู่ในห้องเปิดประตูออก แล้วมองไปทางซ่านจินจื๋อ “กลางวันบังคับนาง กลางคืนกลับให้ชายอื่นพานางออกไป คิดดีแล้วหรือ?”
“หากนางอยู่ข้างกายข้าแล้วไม่มีความสุข ข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผูกมัดนางไว้ข้างกายทุกวัน” ซ่านจินจื๋อเห็นกุ่ยเม่ยลากนางเข้าไปในศาลา มีผ้าม่านคอยกั้นเพื่อกันฝน เขายังสามารถเห็นนาง แค่นี้ก็เพียงพอ
และกู้อ้าวเว่ยรับผ้ามาจากกุ่ยเม่ย ในอ้อมมีแมวสองตัว แล้วมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “ถึงเจ้าจะมั่นใจว่าข้าเป็นตัวจริง แต่เจ้าแอบพาข้าหนีมาเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะโดนคนอื่นเห็นหรือ?”
“หากเจ้าเป็นคนปลอม จะเป็นห่วงข้าทำไมหรือ?” กุ่ยเม่ยไม่โกรธแต่กลับยิ้ม แย่งผลไม้แช่อิ่มที่เหลือกลับมาแล้วเก็บเข้าอ้อม จากนั้นก็มองฝนที่ตกอยู่นอกศาลา เขาถอดเสื้อนอกออกแล้วคลุมที่ศีรษะของกู้อ้าวเวย ปัดผมของนางจนยุ่ง “กอดดีๆ หน่อย”
กู้อ้าวเวยดึงเสื้อด้านนอกไปมา แล้วพูดเสียงต่ำ “เจ้าพาข้าหนีไปมันชัดเจนเกินไป ข้าจะต่อรองกับพวกเขาเอง”
เขาจับเสื้อบนศีรษะของนาง กุ่ยเม่ยหันไปมองซ่านจินจื๋อที่ทำสัญญาณมือจากช่องเล็กๆ ของม่าน แล้วพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับอุ้มนางขึ้น เหมือนจะเบากว่าเมื่อก่อนเยอะเลย เขาเกรงแขนทั้งสองข้าง “อย่าเล่น เดี๋ยวก็โดนจับได้”
กู้อ้าวเวยฟังเสียงผ้าม่านเปิดออก จึงเงียบสงบลง
กุ่ยเม่ยอุ้มกู้อ้าวเวยไปจากตรงหน้าของซ่านจินจื๋อ คนข้างหลังก็แค่ตบเบาๆ ที่ไหล่ของกุ่ยเม่ย รอให้เขาเดินไปข้างหน้า โม่อีจึงยิ้มอ่อนแล้วส่ายหน้า จากนั้นก็ปิดหน้าต่าง
ตลอดทางที่ไปร้านยาเหย้าโดนฝนเล็กน้อย แต่ซ่านจินจื๋อก็ไม่ได้ไปไหน
รอให้กุ่ยเม่ยส่งนางกลับไปที่ห้อง ซ่านจินจื๋อก็ยืนรออยู่ข้างกำแพง ฟังกุ่ยเม่ยบอกให้กู้อ้าวเวยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดเพื่อจะได้นอน เขาขมวมดคิ้ว จึงเดินไปดูที่ประตู
“ต้องเปลี่ยน” กุ่ยเม่ยส่งเสื้อผ้าในตู้ให้นาง แล้วใช้เสื้อกันหนาวเช็ดมือที่โดนฝนของนางให้สะอาด ก้มตัวลงตรงหน้านาง “พรุ่งนี้เช้าข้าจะเอาน้ำอุ่นมาให้ เจ้าอาบน้ำสบายๆ มีอะไรก็เรียกข้า ข้าอยู่ห้องข้างๆ …….”
“รอสักครู่” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นขัดจังหวะเขา แล้วอุ้มเสี่ยวป๋ายเสี่ยวฮัวในอ้อมกอดออกมายื่นให้เขา “พาพวกตัวน้อยมาด้วย พวกเขาต้องรู้แน่เลย และเจ้าเองก็ทำอาหารไม่เป็น ให้คนอื่นมาส่งอาหาร ก็รู้สิ”
กุ่ยเม่ยอ้าปากเล็กน้อย โดนพูดจนพูดไม่ออกเลย
ซ่านจินจื๋อที่อยู่ข้างนอกยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็พิงไปที่กำแพง แล้วฟังกุ่ยเม่ยกับกู้อ้าวเวยเถียงกันไปมา รอให้ฝนเริ่มหยุด กุ่ยเม่ยถึงเดินออกมาหน้าบึ้ง แล้วจับที่หน้าผากด้วยความเหนื่อยล้า บ่นพึมพำเบาๆ “ทำไมถึงเหนื่อยยิ่งกว่าสู้รบอีก”
ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นชี้ไปที่ประตู
กุ่ยเม่ยจึงเอ่ยปากพูด “ร้อนที่หน้าผากเล็กน้อย เมื่อกี้เถียงกันสักพักจึงหลับไปแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปซื้อยา”
มองดูกุ่ยเม่ยเดินจากไป ซ่านจินจื๋อเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตู กู้อ้าวเวยที่หดตัวอยู่บนเตียงแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก แมวสองตัวเลียมืออยู่ที่แขนของนาง แล้วใช้หางปัดไปมาที่แขนของนาง
แต่ถึงนางจะหลับแล้วก็ยังขมวดคิ้ว
ซ่านจินจื๋อจับที่หน้าผากของนาง แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
มองนางอยู่ในความมืดเงียบๆ ซ่านจินจื๋อเจ็บจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
นางดูเหมือนจะผอมกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก แขนที่เผยออกมานั้นยังมีแผลเป็น หากดูอย่างละเอียด ร่างกายนี้เต็มไปด้วยบาดแผลก็ไม่ถือว่าพูดเกินไป
ซ่านจินจื๋อถอนหายใจยาว แล้วหยิบสนับเข่าและเบาะที่พกมาด้วยนั้นห่มไปที่เอวและหัวเข่า จากนั้นก็จับเจ้าแมวสองตัวนั้นไปไว้ที่ท้องของนาง แล้วจัดผ้าห่มดีๆ ถึงทำให้นางนอนอย่างสบายตัว ปัดผมอยู่ข้างใบหน้าออก แล้วพูดเบาๆ “คลอดลูกแล้วต้องดูแลเอวดีๆ ทำไมถึงไม่ดูแลตนเองดีๆ เลย”
กู้อ้าวเวยเหมือนได้ยินอะไรบางอย่าง แต่กลับหดขาทั้งสองที่ปวดเมื่อย จากนั้นก็หลับต่อ
วันที่สองท้องฟ้ายังไม่สว่างนางก็ตื่น เปิดหน้าต่างออกแล้วมีลมเย็นลอยเข้ามา นางไม่เห็นเงาที่หนีไปด้วยความรนนั้น แค่ยัดแมวสองตัวที่โผล่ศีรษะออกมาจากอ้อมให้กลับเข้าไป แล้วลุกขึ้น แต่กลับจับโดนที่หุ้มเอวที่อยู่ด้านหลัง
กุ่ยเม่ยทำหรือ?