บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 926
บทที่ 926 อนุเรื่องมาก
ผัดผักสองอย่างหมูสามชั้นผัด แล้วก็ซุปกระดูกหมูที่แม่ครัวใหญ่ภาคภูมิใจ
กู้อ้าวเวยกินจนอิ่มหนำสำราญใจแล้ว ก็ขอกระดาษกับซ่านจินจื๋อ แล้วก็หยิบเมล็ดพันธุ์ออกมาคลำ จากนั้นก็สั่งสาวใช้ว่า “เจ้าไปเอาตำราแพทย์ในจวนออกมาทั้งหมด เอาที่เมื่อก่อนข้าเขียนเอาไว้มายิ่งดี”
“คุณหนู ที่ท่านเคยเขียนไว้อยู่ที่ห้องหนังสือนี่เจ้าค่ะ ……” เสียงของสาวใช้หยุดลงตรงเสียงไอของซ่านจินจื๋อ
“ถ้าอย่างนั้นก็เอามาเลย” กู้อ้าวเวยเองก็ไอแบบแก้เขินไปสองที แล้วก็เอาเมล็ดพันธุ์วางไว้ในผ้าที่อยู่ในมือ
ถึงแม้นางจะเป็นหมอ แต่ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ก่อนหน้านี้ส่วนมากก็ทำได้แค่แยกแยะสมุนไพรกับรากอ่อน หากดูเมล็ดพันธุ์โดยตรง คิดว่าก็คงต้องปลูกก่อน แล้วเอาไปตากแล้วไปผสมกับผงยาแล้วเอามาดู ฟังดูเหมือนไม่ยุ่งยาก แต่ตาของนางไม่ดี คิดว่าคงต้องใช้เวลา
เหล่าสาวใช้เอาตำราแพทย์มาให้กว่าร้อยเล่ม แม้แต่กู้อ้าวเวยเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะนางสูญเสียความทรงจำไป ตำราบางเล่มนางยังจำไม่ได้เลยว่านางเคยอ่านแล้วหรือยัง ทำได้แค่ทำไปด้วยอ่านไปด้วยทีละหน้า ทำให้รู้สึกว่ามันช้ามาก
ซ่านจินจื๋อจะมองไปที่นางผ่านฉากบังลมเป็นระยะ ๆ เขาเองก็สบายใจแล้วก็จัดการเรื่องของเหล่าขุนนาง
ทั้งสองต่างคนต่างยุ่ง สบาย ๆ กันไป
ช่วงบ่าย ซ่านจินจื๋อพักครู่หนึ่งเลยสั่งให้คนไปเอาซุปเห็ดหูหนูขาวและเม็ดบัวแล้วก็ขนมของว่างมา คุณหนูอีกสองคนเหมือนได้ยินข่าวมา เลยรีบมา พวกนางยืนอยู่นอกประตูของซ่านจินจื๋อ ทั้งสองเหมือนรู้สึกน้อยใจมาก
กู้อ้าวเวยยืนอยู่ด้านหลังฉากบังลมแล้วขุดดินในกระถางดอกไม้ออก จากนั้นก็ได้ยินเสียงซ่านจินจื๋อพูดขึ้นมาว่า “ให้พวกนางเข้ามา”
นางเอาเมล็ดพันธุ์วางลงไป แล้วก็ล้างมือให้สะอาดจะได้ไม่ถูกพิษ
จี้ซูอ่อนโยนมาก วันนี้นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงิน ดวงตาไม่มีความเป็นคุณหนูไม่เดียงสา แต่มีท่าทางสุขุมแบบฮูหยินในจวนใหญ่ แม้แต่ตงฟางซวนเอ๋อเองก็ทำผมทรงสูง แต่ยังคงสวมชุดกระโปรงสีม่วง ดูท่าทางสง่างามมาก
ทั้งคู่ถอนสายบัว “คารวะท่านอ๋องจิ้ง”
“มีเรื่องอะไร?” ซ่านจินจื๋อไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาเลย แต่พ่อบ้านรีบให้สาวใช้นำเก้าอี้มาให้พวกนางสองคนนั่ง
“เรื่องที่ท่านพ่อเคยพูดถึงก่อนหน้านี้ ไม่ทราบท่านอ๋องทรงคิดจะทำยังไงเพคะ?” ตงฟางซวนเอ๋อเปิดประเด็นทันที ตอนนี้ตำแหน่งนายหญิงว่างลง นางยังพอจะเอาใจซ่านจินจื๋อได้
กู้อ้าวเวยใช้เสียมค่อย ๆ ขุดดินกลบอยู่ด้านหลังฉากบังลม ท่าทางเหมือนไม่สนใจสิ่งที่อยู่ภายนอกเลยตั้งหน้าตั้งตาอ่านตำราแพทย์ต่อไป แต่รู้สึกไม่มีความสุขขณะที่อ่าน
ซ่านจินจื๋อเก็บสายตากลับมา จากนั้นก็ไอเบา ๆ “เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลัง”
“ไม่ทราบท่านอ๋องจะกลับบ้านพร้อมกับจี้ซูสักครั้งได้ไหมเพคะ” จี้ซูพูดเสียงเบามาก สายตาของนางแดงก่ำ แล้วถือผ้าเช็ดหน้าในมืออย่างน่าสงสาร “จี้ซูเกิดจากลูกอนุ ท่านแม่ตอนนี้ป่วยหนักอยู่ที่จวน ขอแค่ท่านอ๋องสามารถกลับไปพร้อมกับจี้ซูสักครั้ง ต่อไปจี้ซูยอมรับใช้ท่านอ๋องภักดีต่อท่าน”
พูดถึงตรงนี้ จี้ซูก็คุกเข่าลง สาวใช้ด้านหลังก็รีบเข้ามาพยุงนางที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ซ่านจินจื๋อเองก็จำใจต้องเงยหน้ามามอง คืนนั้นพบว่านางแอบเข้ามาที่ห้องนอน เขาก็รู้ทันทีว่านางไม่ธรรมดา
วันนี้ที่มา ไม่ใช้ความรู้สึก แต่ใช้ความน่าสงสารเข้าว่า
“ข้าให้เจ้ามารับใช้ทำไม อยู่ดูแลครรภ์ที่จวนดีดีก็พอ” ซ่านจินจื๋อพูดอย่างเรียบง่าย พ่อบ้านก็พยายามพยุงจี้ซูขึ้นมา ก็ได้ยินซ่านจินจื๋อพูดต่อว่า “หากแม่ของเจ้าอยู่ที่จวนนั่นแล้วไม่มีใครดีด้วย ข้าจะให้คนไปรับนางที่จวน แล้วให้แม่เจ้าไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่นอกเมืองสักสองสามเดือน คิดว่าใต้เท้าจี้น่าจะเข้าใจเจตนาของข้า”
จี้ซูดีใจมาก นางรีบพูดขอบคุณทันที
ตงฟางซวนเอ๋อเหมือนหน้าจะซีดไป กำลังคิดจะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียงไอขึ้นมาจากหลังฉากบังลม
นางกับจี้ซูตะลึงไป ก็เห็นซ่านจินจื๋อมองไป สายตาของเขาดูกังวลมาก
กู้อ้าวเวยสำลักฝุ่นจากหนังสือ เลยไออยู่หลายทีแล้วก็โยนหนังสือทิ้งไปบนเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วก็รินน้ำชาให้ตัวเองแล้วก็นั่งลงใหม่ จากนั้นก็นั่งบดเมล็ดพันธุ์ จนเกิดเสียงดังมา
ตั้งใจดีจริง ๆ
ซ่านจินจื๋อใจเต้น สีหน้าท่าทางของเขาอ่อนโยนลงไม่น้อย
“ท่านอ๋อง ใครกันที่อยู่ด้านหลังตรงนั้น?” ตงฟางซวนเอ๋อคิดว่าเป็นกู้อ้าวเวย
“จางเหยียงซาน หมอที่ข้าหามา” ซ่านจินจื๋อเก็บสายตากลับมา จากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาใหม่แล้วพูดว่า “เขาไม่ชอบเจอคนนอก นิสัยประหลาด หลายวันนี้เกือบตายเพราะพิษของตัวเขาเอง ข้าเลยให้เขาทำใกล้หูใกล้ตาข้า”
“หากท่านอ๋องอยากได้ยาอะไร ในจนไม่ได้มีคุณหนูกู้อยู่ด้วยเหรอ?” ตงฟางซวนเอ๋อเหมือนจะยังไม่เชื่อ ด้วยนิสัยของซ่านจินจื๋อจะให้คนแปลกหน้าเข้าห้องหนังสือได้ยังไงกัน
“เวยเอ๋อเชี่ยวชาญการแพทย์ แต่จางเหยียงซานเชี่ยวชาญเรื่องพิษ” เฉิงซานที่เพิ่งกลับมาพูดขึ้นมาจากนอกประตูเบา ๆ ด้านหลังของเขายังตามมาด้วยกู้อ้าวเวยที่กำลังอุ้มแมวอยู่ ตาของซ่านจินจื๋อกระตุก
กู้อ้าวเวยอุ้มแมวสองตัวอยู่ในอ้อมกอด นางกวาดสายตาไปมองผู้หญิงสองคน แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็จะไม่รบกวนท่านอ๋องแล้ว”
พูดจบ ก็อุ้มแมวเดินย้อนกลับไป
ตงฟางซวนเอ๋อตกใจมาก ในเมื่อกู้อ้าวเวยอยู่ตรงนี้ หรือว่าที่ด้านหลังฉากบังลมนั่นจะเป็นจางเหยียงซานจริง ๆ
เสียงบดเมล็ดหยุดลง กู้อ้าวเวยเทผงลงบนกระดาษ อีกส่วนก็ใส่เขาไปในยาน้ำ แล้วรอเวลา นางหยิบหนังสือขึ้นมาอีกครั้ง ได้ยินสาวใช้นำซุปบัวกับขนมของว่างมา สาวใช้นำของว่างมาวางไว้ตรงหน้านาง แล้วยังทำท่าทางไม่ให้นางส่งเสียง
นางรู้ว่ายังมีคนอยู่ด้านหลังฉากบังลม นางพยักหน้า แล้วชี้ไปที่อ่างน้ำ
“ข้าน้อยจะไปตักน้ำให้อีกนะเจ้าค่ะ ท่านกินแบบนี้แล้วเป็นอะไรขึ้นมา คุณหนูกู้ก็จะเป็นห่วงนะเจ้าคะ” สาวใช้ตั้งใจพูดเสียงเบา ๆ จากนั้นก็รับอ่างน้ำที่ว่างเปล่ามาแล้วออกไปตักน้ำ พ่อบ้านยิ้มแล้วยืนอยู่ข้างเฉิงซาน แล้วมองไปที่จี้ซู “คุณหนูจี้ เราได้เตรียมการเอาไว้หมดแล้ว”
จี้ซูเหมือนจะตะลึงไป แล้วถึงนึกขึ้นได้วว่าพ่อบ้านหมายถึงเรื่องของแม่นาง นางลุกขึ้น “ขอบพระทัยท่านอ๋อง”
ซ่านจินจื๋อโบกมือ เหมือนจะหงุดหงิด
ตงฟางซวนเอ๋อเองก็ไม่ได้สงสัยคนที่อยู่ด้านหลังฉากบังลมอีก หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “ท่านอ๋อง น้องจี้ซูตั้งครรภ์อยู่ หลายวันที่ผ่านมาคนที่ส่งของมาให้ก็มีไม่น้อย ถ้ายังไงเราจัดงานเลี้ยงแล้วเชิญแขกมา เพื่อเป็นการขอบคุณดีไหมเพคะ”
เป็นคำพูดของพวกคุณหนูผู้ดีมีตระกูลจริง ๆ
ในใจของกู้อ้าวเวยคิดแบบนี้ คิดว่าชาตินี้ทั้งชาตินางก็ไม่มีทางเสนอความคิดแบบนี้ออกมาแน่นอน
ซ่านจินจื๋อเองก็ไม่ได้ยินอะไรแบบนี้มานานมากแล้ว ระหว่างที่เขาตะลึงไปก็พูดว่า “เรื่องที่ตระกูลตงฟางวางยาพิษก่อนหน้านี้ยังตรวจสอบไม่ชัดเจน ตอนนี้จี้ซูท้องอยู่ก็จะให้มาทำโน่นทำนี่ มันอาจจะเกิดเรื่องก็ได้ หน้าตาไม่ได้สำคัญไปกว่าชีวิตหรอกนะ”
“ซวนเอ๋อคิดไม่รอบคอบเองเพคะ” ตงฟางซวนเอ๋อลุกขึ้นขอโทษ
สายตาของนางเหมือนมีแสงวิ่งผ่าน
ดูท่าทางแล้ว นิสัยของอ๋องจิ้งอ่อนโยนกว่าก่อนหน้านี้มาก