บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 941
บทที่ 941 บรรจบมาอยู่แนวหน้า
ตอนนี้แทบทั้งวัดเหมือนกับจะจบอยู่ใต้บาดาลเพราะว่า ส่วนมากทุกคนกำลังคิดวิธีระบายน้ำไปยังสถานที่ใหม่ที่ขุด ไม่มีคนพบว่าตงฟางซวนเอ๋อที่สวมชุดคลุมสีดำจะตามอยู่ข้างหลังของเฉิงซาน ตามมาที่วัดอย่างเงียบเฉียบ
ชุดกับรองเท้าที่เปียกปอนไปทั้งตัว รอจนถึงตงฟางซวนเอ๋อเดินผ่านม่านฝนที่เทกระหน่ำลงมาก้าวเข้าไปในห้อง เส้นผมอันอ่อนนุ่มก็ลู่แนบเข้ากับใบหน้า ศักดิ์ศรีของคุณหนูทำให้ใบหน้าของนางแดงเล็กน้อย หลังจากที่ทำความเคารพซ่านจินจื๋อที่อยู่ในห้องแล้ว“ถวายพระพรอ๋องจิ้ง”
ซ่านจินจื๋อนั่งอยู่บนตำแหน่งประธานพยักหน้าเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็ได้ยินองครักษ์รายงานสถานการณ์ในวัดให้ฟังอยู่ข้างๆ
ตงฟางซวนเอ๋อหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วมองไปที่ซ่านจินจื๋อ ดูท่าแล้วปีนี้ชายหนุ่มที่อายุใกล้ที่สามสิบยังคงสง่าผ่าเผยรูปงาม ใบหน้าอันคมกริบที่มองแล้วให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง แต่จมูกสูงที่ทำให้คนดูสง่าขึ้น แต่ย้อนกลับมาดูที่ตัวเอง เป็นหญิงผู้มากความสามารถที่หนึ่งในเมืองเทียนเหยียน และยังมีรูปโฉมที่งดงามอีก ช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก
กระแอมไปไม่กี่ครั้งเพื่อเรียกคืนสติของซ่านจินจื๋อ เสียงขององครักษ์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเช่นกัน ตงฟางซวนเอ๋อมองด้วยสายตาไม่เข้าใจ ในที่สุดก็ได้ยินเสียงของซ่านจินจื๋อ“เจ้าไปจัดการเรื่องนี้ก่อนเถอะ”
องครักษ์โค้งทำความเคารพ เฉิงซานสั่งการให้คนปิดประตูลง มอบห้องอันกว้างโอ่โถงให้กับพวกเขาทั้งสองคน
ซ่านจินจื๋อเงยหน้าขึ้นมามองไปยังตงฟางซวนเอ๋อ ถาม“เจ้ารู้ไหมคนที่อยู่เบื้องหลังคือใคร?”
“ข้าคิดว่าในใจของท่านอ๋องคงมีตัวเลือกแล้ว แต่มาวันนี้ดูท่าแล้ว ซวนเอ๋อรู้ว่าฮ่องเต้กำลังทำอะไร”ตงฟางซวนเอ๋อพูดพลางนั่งลง ยังคิดอยากจะไปจับแขนของซ่านจินจื๋อ แต่กลับถูกอีกฝ่ายเอามือหลบออกไป
จะแตะแผลของซ่านจินจื๋อไม่ได้ ถ้าหากถูกกู้อ้าวเวยรู้เข้า กลัวว่าจะโกรธอีก
อีกฝ่ายหลบออกไปไม่ทำให้นางโกรธเคือง ตงฟางซวนเอ๋อเลิกคิ้วขึ้น มองไปที่ร่างของซ่านจินจื๋อแวบหนึ่ง“ขอเพียงแค่ท่านตกลงเรื่องแต่งงาน ซวนเอ๋อก็จะบอกเรื่องทุกอย่างที่เหลือให้”
“นี่ไม่ใช่ท่าทางของคนกำลังขอร้อง”
“ท่านเป็นคนบีบบังคับให้ซวนเอ๋อแข็งข้อเอง”ตงฟางซวนเอ๋อก้มหน้าลง ปลายเท้าที่เปียกแฉะลู่ลงไปกับรอยเท้า เสียงก็เบาลง“ขังท่านไว้ที่นี่ เพียงเพื่อส่งองค์หญิงหลิงเอ๋อร์กลับไปเท่านั้น แล้วก็จัดการตระกูลตงฟางซะ ถ้าหากท่านตกลงเรื่องแต่งงาน เกรงว่าในขณะที่ข้ากลับเมืองเทียนเหยียนนั่น จะเห็นเพียงแค่เถ้ากระดูกของพี่ชายและท่านพ่อท่านปู่ของข้าแล้ว”
“หมายความว่าอย่างไร?”ซ่านจินจื๋อแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ
“องค์หญิงหลิงเอ๋อร์ตอนนั้นได้รับการช่วยชีวิตจากหญิงสาวที่พบระหว่างทาง น่าเสียดายที่หลังจากนั้นเสียสติไป ฮ่องเต้ยินดีมอบจวนเฉิงเสี้ยงให้นางได้พักรักษาตัว แต่ระหว่างนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงได้มอบองค์หญิงหลิงเอ๋อร์ให้ท่านปู่เป็นผู้ดูแล”ตงฟางซวนเอ๋อกล่าวอย่างช้าๆเนิบๆ“หลายปีมานี้องค์หญิงหลิงเอ๋อร์ได้รับการดูแลจากตระกูลตงฟางมาตลอด แต่เบื้องหลังนั้น ฮ่องเต้เหมือนจะไม่เพียงแค่หวังให้องค์หญิงหลิงเอ๋อร์ฟื้นคืนสติ แต่เหมือนกับกำลังหวังอย่างอื่นอยู่ แล้วก็มีการทำการข้อตกลงกับหน่วยกล้าตายพวกนั้น หลังจากนั้นข้าก็ไม่รู้อะไรแล้ว”
ตงฟางซวนเอ๋อพูดอย่างจริงใจ แต่ซ่านจินจื๋อคิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของพี่ชายตนเองจะมีหน่วยกล้าตายพวกนั้น
ทั้งห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ ผ่านไปอยู่นาน ซ่านจินจื๋อถึงเปิดปากพูดขึ้นมาว่า“เจ้ายังคงพูดออกมาทั้งหมด”
“นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว มาวันนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเมื่อก่อน”ตงฟางซวนเอ๋อลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปด้านหน้าของซ่านจินจื๋อ เชยคางขึ้นมามองหน้าเขาเล็กน้อย“นับตั้งแต่วันที่ท่านตกลงจะแต่งงานกับกู้อ้าวเวย ท่านปู่ก็มีคำสั่งว่า จะมอบองค์หญิงหลิงเอ๋อร์ให้กับคนอีกกลุ่มหนึ่ง ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ ท่านปู่ยังเคยบอกว่ามีคนรู้เรื่องการมีชีวิตอยู่ขององค์หญิงหลิงเอ๋อร์ เพราะว่าเรื่องนี้นั่นเอง ฮ่องเต้ถึงได้ตัดสินใจในวันแต่งงานของท่าน”
“ผ่านไปหลายปี เจ้ายังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ข้าเคยพบผู้หญิงคนหนึ่ง ใบหน้าของนางมีรอยสักเหมือนกับใบหน้าของยู่จือ แต่ตอนนั้นหลังจากที่กู้อ้าวเวยตายแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่โผล่ออกมาให้เห็นอีกเลย”ตงฟางซวนเอ๋อเหมือนจะล้วงหยกที่แตกหักไปส่วนหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อเหมือนจะแสดงมายากล นำทั้งสามชิ้นมอบให้ซ่านจินจื๋อไป“หยกชิ้นที่แตกหักพวกนี้เป็นสิ่งที่ฮ่องเต้รู้ว่ากู้อ้าวเวยตายแล้ว นำร่างที่ไร้วิญญาณกลับมาสองร่างมอบให้ข้า ให้พวกเราหาความลับ ท่านปู่นำมันซ่อนไว้ ในขณะที่จะเดินออกมาจากจวน ข้าได้ขโมยมันออกมาด้วย”
เรื่องนี้มันก็ได้ผ่านมาหลายปีแล้ว
ซ่านจินจื๋อเหมือนกับจะถูกกลลวงของซ่านต้วนโฉงทำให้งง ถ้าหากว่าหลิงเอ๋อร์เป็นลูกสาวของหยูนซี เขาก็น่าจะดูแลเหมือนเป็นของล้ำค่าในมือสิ แล้วเหตุใดหลังจากที่นางรอดชีวิตมาได้ถึงได้มอบให้ขุนนางมาดูแลล่ะ?
“ตกลงเจ้าอยากจะพูดอะไรน่ะ?”ซ่านจินจื๋อไม่อยากมองหยกสามชินนั้น
“เรื่องทั้งหมด ไทเฮารู้หมดแล้ว กุ้ยมามาพาองค์หญิงหลิงเอ๋อร์เข้ามาในจวนของพวกเราเอง”ตงฟางซวนเอ๋อก้าวเข้าไปด้านหน้า“กู้อ้าวเวยคนนั้นเป็นลูกสาวของฮ่องเต้แห่งแคว้นเอ่อตาน แน่นอนว่าท่านก็มีผลประโยชน์ด้วย แต่ข้าจะไม่มีผลประโยชน์แม้แต่น้อยเลยหรอ?ขอเพียงแค่ข้าปกป้องท่านปู่ ถ้าอย่างนั้นท่านอยากรู้เรื่องทั้งหมดตรงหน้า……”
“ไม่มีใครหน้าไหนสามารถขู่ข้าได้ทั้งนั้น”ซ่านจินจื๋อเลิกคิ้วขึ้น
“ซ่า——”บนหลังคามีคนชุดดำกระโดดลงมา ก่อนที่ตงฟางซวนเอ๋อจะรู้สึกตัว หยกที่อยู่ในมือก็ถูกชิงไปแล้ว ไหล่ของนางถูกคนชุดดำจับไว้แน่น
“ท่านอ๋องจิ้ง!”
ซ่านจินจื๋อเงยหน้ามองอย่างเรียบเฉย ยกมือขึ้นหยิบหยกสามชิ้นนั้นขึ้นมา หลังจากที่วางไว้บนมือแล้ว ถึงได้เอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ“พี่ชายของข้าอยู่ในวังหลวงมานาน ทำไมจะรู้ว่าในขณะที่ตระกูลตงฟางทำงานให้เขา ก็ยังจะปูทางให้กับฮ่องเต้ในอนาคตด้วย มาวันนี้ที่เจ้าพูดมาทั้งหมด เกรงว่าจะอยู่ในการคาดเดาของท่านพี่ทั้งหมดแล้วล่ะ”
“เป็นไปไม่ได้ ฮ่องเต้ไม่มีทางคาดถึงแน่นอน”ตงฟางซวนเอ๋อกัดฟันกรอด
“หยกสามชิ้นนี้เป็นหลักฐานได้ดีที่สุด นับตั้งแต่เริ่มแรกที่เขาอยากให้ข้าไปตามหากู้อ้าวเวยเพื่อแกปริศนา แต่ไม่ใช่ตระกูลตงฟางของเจ้า รวมไปถึงฮองเฮาที่เป็นหุ่นเชิดของพวกเจ้า”ซ่านจินจื๋อถอนหายใจเบาๆ ไม่ไปมองหน้าที่ไม่พอใจโชคชะตาของตงฟางซวนเอ๋อ เพียงแต่มองหยกในมืออย่างเหม่อลอย“การปิดทางขึ้นลงเขา เกรงว่าจะเป็นการลงมือต่อท่านแม่”
ตงฟางซวนเอ๋อส่ายหน้า แล้วกัดฟันแน่น“ฮ่องเต้กตัญญูต่อไทเฮามาก ไม่ทำอะไรเช่นนี้หรอก การปิดทางลงขึ้นเขาในครั้งนี้ เกรงว่าฮ่องเต้จะจัดการตระกูลตงฟางของข้าเพียงเท่านั้น”
“ตระกูลตงฟางจะอยู่จนถึงสุดท้าย”ซ่านจินจื๋อเดินผ่านตัวนางไป แล้วนำหยกทั้งสามชิ้นวางกลับไปในมือของนาง เอ่ยเสียงต่ำ“วันหน้า ชางหลานต้องการตระกูลที่แบกรับโทษกบฏต่อบ้านเมือง ฮ่องเต้ในอนาคตไม่มีทางเป็นข้าอย่างแน่นอน”
“หมายความว่ายังไง……”
“วันๆข้านอนอิงหมอนสมุนไพรของเวยเอ๋อ ยาพิษที่ถูกแต้มอยู่บนหยก แน่นอนว่าข้าสัมผัสมันได้”ซ่านจินจื๋อเดินจากไป เดินไปยังห้องพักของฉีหรัว
ที่แท้ทุกอย่างเป็นวิธีพรางตาเท่านั้น
ตระกูลตงฟางจะแก้ปริศนาของตระกูลยู่ได้อย่างไร ในเมื่อตระกูลตงฟางอยู่กับตนเอง ทำให้มั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าตระกูลตงฟางรู้เรื่องที่ฮองเฮาเป็นหุ่นเชิด ไม่อย่างนั้นสู้รอให้ตระกูลตงฟางนำแผนการบ้าๆพวกนี้มาไว้ในมือของเขาดีกว่า
ดังนั้น กู้อ้าวเวยที่อยู่ข้างกายเขามาโดยตลอดต้องแก้ปริศนานี้ได้อย่างแน่นอน
แต่การปิดทางขึ้นลงเขาในครั้งนี้ เกรงว่าจะไม่เป็นเพียงแต่เรื่องขององค์หญิงหลิงเอ๋อร์ พี่ชายของตนคงไม่อยากให้ตนเองลงจากเขาไปถามความจริงจากปากของไทเฮาเป็นแน่ แต่อยากจะดึงไทเฮามาจากอารามไป๋หม่ากลับมา เวลาที่พวกเขาปิดทางขึ้นลงก็เพียงพอแล้ว