บุบผาร้อยเสน่ห์ - ตอนที่ 988
บทที่ 988 ตัวแทนยู่จุน
ฮองไทเฮาจะเอาเด็กคนนั้น มีทำประโยชน์อะไร?
ตอนที่กู้อ้าวเวยยุ่งอยู่กับการปรุงยา ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เด็กคนนั้นไม่ว่ายังไงสิ่งที่เห็นก็คือความลับของฮ่องเต้ ทำไมฮองไทเฮาถึงยังต้องสร้างเรื่องลอบฆ่าเพื่อพาเด็กคนนั้นไป ยากที่จะเอามาคิดรวมกัน
หลิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง เอาผลไม้กวนที่เหลือเก็บห่อไว้อีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “เสด็จอา ไม่มีเรื่องอะไรอย่างอื่นที่ต้องถามแล้วหรือ?”
“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?” กู้อ้าวเวยไม่เข้าใจ
“อย่างเช่น ผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเจ้า” หลิงเอ๋อร์ไอด้วยเสียงเบา
กู้ซวง?
กู้อ้าวเวยยังคงไม่เข้าใจ แต่เห็นหลิงเอ๋อร์พูดอ้ำๆอึ้งๆ จึงสั่งคนไปพาหลิงกู้ซวงมาที่นี่ บ่าวใช้เพิ่งออกไป หมิ่นเอ๋อก็ถูกกุ่ยเม่ยหิ้วกลับมา ร่างกายเต็มไปด้วยขี้ดิน แม้แต่กุ่ยเม่ยเองก็สภาพย่ำแย่มาก “แล้วนางก็อารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาทันใด เจ้าดูสิ”
พูดเสร็จ แล้วก็พาหมิ่นเอ๋อมานั่งที่เก้าอี้ แล้วก็ให้กู้อ้าวเวยตรวจชีพจรของนางดู
กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็หยิบยาลูกกอนให้นางทาน พูดอย่างเหนื่อยหน่ายว่า “เมื่อกี้นางไปจับกล่องยาที่หมู่ตึกนั่นใช่ไหม?”
กุ่ยเม่ยพยักหัว “เหมือนนางให้ความสนใจมาก หลี่ซินก็บอกว่าพิษด้านในถูกจัดการหมดแล้ว ข้าจึงวางใจให้นางไปดู”
“ไม่เป็นไร แค่สูดดมยาสมุนไพรเข้าไปบ้างแล้วแค่นั้นเอง” กู้อ้าวเวยนวดหัวของนาง แล้วก็ไปปรุงยาด้านข้าง
กุ่ยเม่ยจึงต้องยืนคุมนางไว้ อย่าคิดว่าหมิ่นเอ๋อร่างตัวเล็ก แต่มีแรงเยอะมาก ใกล้ๆนี้นอกจากพวกเฉิงซานแล้ว ก็คงมีเขาคนเดียวที่สามารถควบคุมไว้ได้อย่างง่ายดาย
แต่เพียงสักพัก กู้ซวงก็ถูกคนพาตัวมา นางฟื้นขึ้นมา หลายวันนี้หลังจากที่ทานยาแล้วก็ทำให้ขาทั้งสองข้างของนางรู้สึกอ่อนแรง แววตาที่มองดูกู้อ้าวเวยก็ดูโกรธแค้นขึ้นมาก “เจ้า…”
“ไม่ใช่ข้าที่ต้องการหาเจ้า” กู้อ้าวเวยสั่งคนพาหลิงเอ๋อร์เดินเข้ามา
แต่หลิงเอ๋อร์ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เห็นหมิ่นเอ๋อดิ้นรนออกมาจากการควบคุมของกุ่ยเม่ย แรงเยอะจนทำให้กุ่ยเม่ยรีบลุกขึ้นมาคิดอยากดึงนางไว้ ปากก็พูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “อย่าเข้ามา ระวังข้าวางยาพิษเจ้าตาย”
“วางยาพิษตาย” หมิ่นเอ๋อกระโดดไปเกาะกู้ซวงอย่างดีใจ
นางเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่มองดูกู้อ้าวเวยอย่างโหดเหี้ยมแล้วพูดว่า “เจ้าอยากรู้อะไร?”
ดวงตาใสแป๋วประกายแววคิดไม่ถึง กู้อ้าวเวยได้ยินหลิงเอ๋อร์ไปเบาๆอยู่หลายที แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “บอกมาว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ แล้วก็เล่ามาว่าระหว่างเจ้ากับพวกนางเกิดเรื่องอะไรกันขึ้น แล้วข้าจะปล่อยพวกเจ้าสามคนไป”
แววตากู้ซวงประกายแววลังเล หมิ่นเอ๋อกอดนางไว้แน่น ด้วยในหน้ายิ้มเบิกบาน
หลิงเอ๋อร์ก็พูดเพิ่มขึ้นอีกว่า “เสด็จอาไม่เคยมาเจอพวกเราเลย…..”
กู้ซวงกัดฟัน ยกมือกอดหมิ่นเอ๋อที่ซบอกอยู่ไว้แน่น “การที่มีใครอยู่ ก็เพื่อปิดบังเรื่องที่ยู่จุนอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยง และก็เพื่ออยากรู้ความจริงในตอนนั้นจากปากกู้เฉิง… เรื่องการมีอายุยืน แต่เมื่อถึงสิบปีก็ไม่สามารถปิดบังการที่มีข้าอยู่ ฮ่องเต้จึงคิดที่จะฆ่าข้า แต่ข้าได้อ่านตำราแพทย์ของเจ้าแล้ว จึงพอมีความรู้อยู่บ้าง ทำให้สามารถรักษาชีวิตไว้ได้”
พูดเสร็จอย่างเร่งรัด แล้วกู้ซวงก็ไม่มีท่าทีดื้อรั้นเหมือนก่อนหน้านี้ เพียงกอดหมิ่นเอ๋อไว้อย่างแน่น
ปิดบังการเป็นอยู่ของยู่จุน?
กู้อ้าวเวยค่อยคิดขึ้นมาได้ว่า ทำไมตอนที่ตนเองกับยู่จุนอยู่ด้วยกัน ชิงต้ายกับหยินเชี่ยวไม่พบความแปลกผิดปกติอะไร คงเพราะตอนนั้นกู้ซวงเป็นคุณหนูอยู่ในจวน
แต่โดยส่วนตัวแล้วนางกลับอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ทำไมต้องปิดบังกำหนดการของยู่จุน?”
กู้ซวงอึ้งไปเล็กน้อยก่อน แล้วก็อมยิ้มพูดกับกู้อ้าวเวยว่า “ที่แท้ในโลกนี้ก็มีสิ่งที่เจ้าไม่รู้ด้วย”
“ข้าไม่ใช่เทพหรือปีศาจ จะรู้ทุกอย่างได้อย่างไร?” กู้อ้าวเวยหัวเราะ เดินไปเอาตัวหมิ่นเอ๋อมาจากบนตัวนาง แล้วเอาให้กุ่ยเม่ยที่อยู่ด้านหลัง พูดสั่งว่า “เจ้าพานางไปเล่นก่อน ที่นี่มอบให้ข้าจัดการเอง”
“เจ้าบอกว่าจะปล่อยพวกเราสามคนไปไม่ใช่หรือ” กู้ซวงตะโกนพูดขึ้น แขนทั้งสองข้างของนางถูกลูกน้องจับไว้แน่น
“ยังไงหลิงเอ๋อร์กับหมิ่นเอ๋อเป็นหลานสาวของซ่านจินจื๋อ ข้าจะดูแลเป็นอย่างดี ตอนนี้เจ้าพูดความจริงแล้วยังเป็นตัวแทนของข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้าไปตายแน่” กู้อ้าวเวยเดินมาหยิบขวดหนึ่งใส่ในมือนาง “ทานยานี้แล้วเจ้าจะสบายขึ้น”
“อย่าคิดที่จะควบคุมข้าอีก” ขวดเซรามิกถูกโยนลงพื้นจนแตกกระจาย
ยาลูกกอนที่อยู่ในนั้นกลิ้งหล่นเต็มพื้น กู้อ้าวเวยขมวดคิ้ว หลิงเอ๋อร์ก็รีบเดินมาข้างหน้า แล้วพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าทั้งสองไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว ให้ข้าพูดกับนางเอง”
สีหน้าโกรธเคืองของกู้อ้าวเวยค่อยดีขึ้นหน่อย ก้มโน้มตัวลงอย่างเบื่อหน่าย เก็บยาที่ตกลงพื้นขึ้นมาทีละเม็ด พร้อมพูดว่า “เรื่องของยู่จุนกับหยูนซีในตอนนั้น พวกเจ้าทั้งสามรู้เรื่องอะไรบ้าง?”
“ยู่จุนคือท่านแม่” หมิ่นเอ๋อที่อยู่ด้านนอกประตูตะโกนพูดขึ้นมา
กู้อ้าวเวยมองดูหลิงเอ๋อร์อย่างนิ่งงัน ตอนนั้นยู่จุนมีลูกสาวสองคนได้อย่างไร? แล้วพ่อเป็นใคร?
คิดถึงปมเชือกในมือซ่านจินจื๋อก่อนหน้านี้ กู้อ้าวเวยอึ้ง “ทำไมพวกเจ้าเป็น…”
“พวกเราเป็นลูกสาวของหยูนซี แต่หมิ่นเอ๋อชอบยู่จุนมากกว่า เพราะยู่จุนชอบฟังเวลานางพูดอะไรก็ตาม” หลิงเอ๋อร์ดึงกู้ซวงมากระซิบพูด
กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกว่ายังไงเรื่องนี้ก็ค่อนข้างแปลก “กู้ซวงที่เจ้าซ่อนอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยง เป็นคำสั่งของฮ่องเต้ แต่ทำไมฮ่องเต้จะต้องสนใจความเป็นความตายของยู่จุน หรือว่าระหว่างยู่จุนกับหยูนซีเกี่ยวข้องอะไรกัน?”
หลิงเอ๋อร์กับหมิ่นเอ๋อน่าจะเป็นลูกสาวของหยูนซีถึงจะถูก แต่ยู่จุนเป็นแค่คนที่มาจากแคว้นชางหลานเพื่อมาตามหาผู้หญิงที่มีรอยสักบนใบหน้า และหากนับตามเวลาแล้ว หลังจากที่นางคลอดไม่นานยู่จุนก็หลบซ่อนอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว
แต่ยู่จุนกลับพูดว่าพี่สาวของนางเพิ่งไปจากตระกูลยู่ไม่นาน
ตกลงใครถูกใครผิดกันแน่?
กู้ซวงกัดฟันแน่นตั้งใจที่จะไม่พูดอะไร มีเพียงหลิงเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เดินหน้ามาดึงมือกู้อ้าวเวยแล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “เดิมข้าคิดว่าเจ้าจะถามถึงเรื่องที่สำคัญ ทำไมถึงสนใจแต่เรื่องระหว่างหยูนซีกับยู่จุน?”
“เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเสด็จพ่อของเจ้ามีเป้าหมายอย่างไร” กู้อ้าวเวยถอนหายใจอย่างแรง ปัดฝุ่นออกจากยาที่ตกลงพื้นแล้ววางไว้บนโต๊ะ มองดูหลิงเอ๋อร์แล้วพูดว่า “เจ้าก็รู้เรื่องนี้หรอ?”
“ข้ารู้… แต่ข้าคิดไม่ถึงว่า พวกเจ้าจะต้องการรู้ความจริงในตอนนั้น” น้ำเสียงของหลิงเอ๋อร์เล็กลง รู้สึกผิดที่ไม่ได้พูดสิ่งที่พวกนางต้องการออกมา มืออีกข้างลูบจับมือกู้ซวงไว้แล้วพูดว่า “กู้ซวงรู้ไม่เยอะ”
“ลองเล่ามาดู” กู้อ้าวเวยลูบหัว ก่อนหน้านี้นางคิดแต่เป็นห่วง คิดไม่ถึงเลยว่าหลิงเอ๋อร์ จะรู้เรื่องอะไรบ้าง ได้แต่แอบลงมือกับลูกน้องของกู้ซวงลับหลัง “มีหลิงเอ๋อร์เฝ้าดูอยู่ เจ้าไปรอด้านข้างเถอะ”
ลูกน้องทั้งสองคนถอยตัวออกไป กู้ซวงไม่เข้าใจ กลับได้ยินหลิงเอ๋อร์พูดขึ้นว่า “แม่ของข้าเป็นเพียงตัวแทนของยู่จุน เพราะตอนนั้นตระกูลหยุนทำนายว่าเสด็จอาเป็นดาวปีศาจ เสด็จพ่อเกลียดผู้หญิงตระกูลหยุนมาตลอด….”
ยังพูดไม่จบ ซ่านจินจื๋อกลับกำลังเดินเข้าประตูมา