บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 263 PK หงยิง
บทที่ 263 PK หงยิง
ได้ยินมีคนเรียกนาง จูนจิ่วหันไปเห็นอู๋ซานช่วยประคองผู้อาวุโสถูฉีเดินมาหานาง
อู๋จงผู้อาวุโสทั้งห้าที่อยู่ที่นี่ ก็เหลือเพียงผู้อาวุโสถูฉีที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นผู้นำในหมู่สาวก มีเพียงอู๋ซาน เขาเหมือนกับหยูนจ้งจิ่น ถ้าจูนจิ่วมาช้ากว่านั้นก้าวเดียวพรุ่งนี้พวกเขาก็จะไม่เห็นดวงอาทิตย์แล้ว
อู๋ซานพูดขึ้น: “จูนจิ่วเจ้าไปกับพวกข้าเถิด! ผู้หญิงที่ชื่อหงยิงที่อยู่เหนือพวกเขานั้นร้ายกาจมาก และนางก็เป็นนักจิตใหญ่เราเผชิญหน้าไม่ไหว! ออกไปจากที่นี่ก่อน ข้าเขียนจดหมายหาอาจารย์ให้อาจารย์ส่งคนมาช่วย”
“ใช่ จูนจิ่วเจ้าไปพร้อมกับพวกเข้าเถิด แค๊กๆๆ!” ผู้อาวุโสถูฉีไอเป็นเลือด สีหน้า มองไปที่จูนจิ่วด้วยใบหน้าซีดเซียวและอ่อนแอ ภายใต้ความเป็นห่วงคนรุ่นหลังจากใจจริง
ดวงตาของจุนจิ่วเป็นประกาย นางมอบแจกันใบหนึ่งให้ถูฉี “กินสองเม็ดมีผลดีต่ออาการบาดเจ็บของท่าน”
“ข้ากินได้หรือไม่?” อู๋ซานถามโดยไม่รู้ตัว เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าทักษะทางการแพทย์ของจูนจิ่วนั้นดีแค่ไหน! กล้าพูดได้เลยว่าอาจารย์ของเขาก็เทียบจูนจิ่วไม่ได้
“ได้ แต่เจ้ากินได้แต่เม็ดเดียว” จูนจิ่วยกมุมปาก พูดต่อ: “ไปเถิด! ข้าจะอยู่จัดการให้จบ พวกเจ้าไปให้หมดถึงจะเป็นประโยชน์ต่อข้า มิฉะนั้นจะมีแต่อุปสรรค”
คำพูดที่ตรงไปตรงมาของจูนจิ่วนี้ แทงใจมาก!
อู๋ซานอ้าปากเหมือนจะพูดบางอย่าง มือของถูฉีผู้อาวุโสจับแขนของเขาไว้แน่น ผู้อาวุโสถูฉีพูดขึ้น: “ในเมื่อเจ้าจะอยู่ก็หมายความว่ามีความมั่นใจ อู๋ซานเราไปกันเถิด อย่างเพิ่มความยุ่งยากให้นาง”
“แต่ว่าท่านผู้อาวุโสถูฉี……”
“ไป!” ผู้อาวุโสถูฉีกินยาสองเม็ด แล้วให้อู๋ซานเม็ดหนึ่ง ยืนหลังตรงทันที สีหน้าก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เขาจับแขนของอู๋ซานไว้แน่น แทบจะลากเขาออกไป
ในไม่ช้าลานฝึกวิทยายุทธก็เหลือเพียงจูนจิ่ว โม่อู๋เยว่และเสี่ยวอู่ ยังมีศพที่เกลื่อนเต็มพื้น กลิ่นฉุนของเลือดในอากาศ คลุ้งเหนียว คลุ้งจนอึดอัดทำให้คนหายใจไม่ออก จูนจิ่วเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ประตูของลานฝึกวิทยายุทธเฉียนคุน นางรอหงยิงอยู่
ไม่ปล่อยให้จูนจิ่วรอนาน ใช้เวลาเผาไหม้ธูปไม่ถึงหนึ่งก้านจากที่ทุกคนถอยออกไป หงยิงก็พาคนมุ่งหน้าเข้ามา เห็นศพทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวข้างนอกและความเงียบผิดปกติเกินไปของที่นี่ ทำให้สีหน้าหงยิงดูย่ำแย่
เดินเข้ามาเห็นจูนจิ่วก็หยุดชั่วขณะ แล้วมองศพที่พื้นอีกครั้ง ทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวที่นางให้อยู่ถูกฆ่าตายหมดแล้ว!
ผิวหน้าหงยิงกระตุก เงยหน้าขึ้นและจ้องมองไปที่จูนจิ่ว ยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก หงยิงพูดด้วยเสียงดุร้าย “พวกเจ้าคือผู้ใด!”
ผู้หญิงที่สวมชุดสาวกชายสำนักหุ้นหยวนคนหนึ่ง คนคนหนึ่งที่ดูรูปร่างหน้าตาไม่ชัดเจนรู้สึกเพียงแค่เป็นผู้ชายที่ทรงพลังน่ากลัว กับแมวสีขาวตัวหนึ่ง หงยิงไม่เชื่อว่าพวกเขาจะเป็นคนฆ่าทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวตายทั้งหมด ฉะนั้นดวงตาจึงกวาดไปรอบๆ อย่างดุเดือดราวกับมีด
“พวกเจ้าใครที่แอบซ่อนตัวอยู่ในที่ลับโผล่หัวออกมาให้หมด! ไม่ว่าจะพวกเจ้าทำได้อย่างไร ข้าไม่มีเวลาพอให้เสียเวลาที่นี่ รีบลงมือ เดี๋ยวนี้ ฆ่าพวกเจ้าแล้วข้ายังมีเรื่องสำคัญต้องทำ!” หงยิงท่าทางของดูหยิ่งทะนงมาก
สายตาจูนจิ่วมองข้ามหงยิงไป เห็นจูนหยูนเสวี่ยถูกทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวลากอยู่ จูนหยูนเสวี่ยยังไม่ตาย!
เก็บสายตามองไปที่หงยิง จูนจิ่วยิ้มอย่างเย็นชา: “ให้เป็นไปตามที่เจ้าปรารถนา วิญญาณแห่งสงครามฆ่า!”
หงยิงได้ยินเพียงคำสั่งอันเย็นชาของจูนจิ่วเท่านั้น จากนั้นลมก็พัดแรง คลังยาของหงยินเปิดออก พลังของนักจิตใหญ่นั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ปล่อยฝ่ามือพลังทำลายล้างออก และแล้วการโจมตีของนางไม่มีผลต่อวิญญาณแห่งสงครามเลย
วิญญาณแห่งสงครามทะลุผ่านร่างของหงยิง ถือขวานฟันไปที่ทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิว รูม่านตาหงยิงสั่น หันกลับไปอย่างรวดเร็วเห็นเพียงเลือดที่กระเซ็น ในพริบตาเดียว ทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวสิบกว่าคนที่นางนำมาด้วยถูกฆ่าทั้งหมด!
เป็นไปได้อย่างไร?
หงยิงโจมตีจิตวิญญาณแห่งสงครามด้วยความโกรธ ดวงตาของจูนจิ่วเย็นชาเลือดเย็นเมื่อเห็นสิ่งนี้ นางยกมือทำท่าประสานมือเจว๋เกิดหมอกทึบ แม้ว่าจะสามารถอัญเชิญวิญญาณแห่งสงครามเพียงแค่สามตน ความแข็งแกร่งอยู่ที่นักจิตชั้นแปดถึงเก้า แต่ตราบใดที่ทั้งสามอยู่ในหมอกทึบก็จะอยู่ยงคงกระพัน
แม้ว่าจะถูกทำลาย ก็เกิดใหม่ได้ มีพวกมันจัดการหงยินนักจิตใหญ่ผู้นี้ ก็เพียงพอแล้ว!
ความเร็วในการทำท่าประสานมือของเจว๋จูนจิ่วเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ดูหงยิ่งต่อสู้กับจิตวิญญาณแห่งสงครามอย่างเย็นชา พลังทิพย์ที่รวมอยู่ในร่างกายของจูนจิ่วถูกใช้หมดอีกครั้ง นำหินทิพย์ชั้นที่สี่ที่ได้จากจูนหยูนเสวี่ยออกมาทันที จูนจิ่วเติมพลัง
ใช้พลังรุนแรงมากกว่าร้อยชนิด หงยิงพบว่าวิญญาณที่เห็นเหล่านี้เหมือนกับวิญญาณแห่งสงครามไม่สามารถฆ่าตายได้เลย ดวงตาของนางกลอกไปมา หยุดอยู่ที่จูนจิ่วทันที
นี่คือค่ายกล งั้นก็ต้องฆ่าผู้สร้างค่ายกล!
หันไป หงยิงพุงไปหาจูนจิ่วเร็วปานสายฟ้า วิญญาณแห่งสงครามตามติดอยู่ด้านหลังไม่ปล่อย แต่หงยิงเข้าใกล้จูนจิ่วมากขึ้นเรื่อยๆ โม่อู๋เยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่จูนจิ่วอย่างเนือยๆ และเจ้าเล่ห์ เห็นเพียงจูนจิ่วยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
มือนางทำท่าประสานมือเจว๋ เมื่อทั้งสิบนิ้วตบ “ฮ่า!”
ค่ายกลวิญญาณเก้าภพดังขึ้นหึ่งๆ หมอกทึบหนาขึ้น วิญญาณแห่งสงครามสามตนเข้าใกล้สามรวมเป็นหนึ่ง ความแข็งแกร่งที่พลุ่งพล่านทะลุขอบเขตของนักจิตใหญ่ ตามทันหงยิงแล้วลากนางไปทันที
แค๊ก! จูนจิ่วไอ มีเลือดออกที่มุมปาก ค่ายกลวิญญาณเก้าภพใช้พลังมากเกินไป ร่างกายของนางค่อยๆ ทนไม่ไหว โม่อู๋เยว่เงยหน้าขึ้นและมองไปที่ด้านนอกลานฝึกวิทยายุทธเฉียนคุน หินทิพย์ชั้นที่สี่เจ็ดก้อนสลัวใกล้แตกสลายแล้ว
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จูนจิ่วมีแต่จะสูญเสียพลัง และทำให้หงยิงได้พลัง นางมีเพียงวิธีการที่รวดเร็วฉับไว!
“เหมียว!” เสี่ยวอู่ร้องด้วยความกังวล ทันใดนั้นมันก็ร่างใหญ่ขึ้น ตาชำเลืองมองจุนจิ่ว จากนั้นจ้องไปที่หงยิงอย่างดุร้าย หาจังหวะที่ดี เสี่ยวอู่ตะครุบไปยังหงยิง
จูนจิ่วเห็นสิ่งนี้รูม่านตาหดทันที “เสี่ยวอู่!”
เสี่ยวอู่ไม่สามารถจัดการกับนักจิตใหญ่ได้ จุดนี้เสี่ยวอู่ก็รู้ดี หลังจากที่มันเข้าใกล้มากขึ้น หดตัวเองให้กลมเป็นลูกบอลกลางอากาศแล้วพุ่งอย่างรุนแรงไปยังหงยิง หงยิงคิดไม่ถึงว่าเสี่ยวอู่จะมาไม้นี้ บวกกับจูนจิ่วทำท่าประสานมือเจว๋ออกคำสั่ง พลังทั้งหมดของวิญญาณแห่งสงครามลากนางไว้
หงยิงถูกเสี่ยวอู่พุ่งทุบเข้าเต็มๆ คนตัวบินออกไปและล้มหน้าคว่ำลงบนพื้นโดยตรง หงยิงร้องอยากเจ็บปวดรีบลุกขึ้น นางกุมปากจมูกเอาไว้ ล้มเอาหน้าลงโชคร้ายดั้งหัก ฟันยังหลุดสองซี่อีกด้วย
“เหมียว~” รู้ถึงความเก่งกาจของข้าแล้วสิ? เสี่ยวอู่กระดิกหางไปมาอย่างได้ใจ หันวิ่งไปที่ข้างกายจูนจิ่วปกป้องจุนจิ่วอย่างแน่นหนา หงยิงเห็นการยั่วยุของเสี่ยวอู่อย่างชัดเจน ถูกแมวตัวหนึ่งทำร้าย! สามารถแปลงร่างเป็นแมวตัวใหญ่ได้แล้วยังไง ก็ยังคงเป็นสัตว์ นี่คือความอัปยศของนาง!
หงยิงมองขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับกรีดร้อง นางตะโกนดัง: “ทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวโผล่หัวมาลานฝึกวิทยายุทธเฉียนคุนให้หมด ฆ่านาง!”
ส่งเสียงในระยะพันไมล์? จูนจิ่วขมวดคิ้ว สมกับที่เป็นนักจิตใหญ่ เก่งกาจมาก เสียงแพร่กระจายไปทั่วสำนักเทียนอู่จง ไม่เพียง ทหารหน่วยกล้าตายเทียงฉิวที่ได้ยิน เพิ่งรวมตัวกับพวกชิงหยู่ ทุกคนก็ได้ยินแล้ว
ชิงหยู่กัดฟัน “แย่แล้ว! หงยิงเป็นบ้าแล้ว ศิษย์น้องตกอยู่ในอันตราย” พูดอยู่ ชิงหยู่ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตนเองพุ่งออกไปทันที เห็นเช่นนี้กู่ซงก็ทนไม่ไหว ตามไปติดๆ จากนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็ไล่ตามออกไป พวกเขาปล่อยให้เกิดอันตรายกับจูนจิ่วไม่ได้ ไม่สามารถเอาชนะได้ก็จะพุ่งชน และต้องพุ่งชนหงยิงให้ตาย