บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 307 ในห้องหนังสือมีเทพบุตร
บทที่ 307 ในห้องหนังสือมีเทพบุตร
ด้านหลังจูเก่อชิวมีองครักษ์กลุ่มใหญ่ขบวนหนึ่งตามมา เขาสั่งให้องครักษ์เดินตามหลังอยู่ไกลๆ ก่อนเอียงหน้าจ้องจูนจิ่วพลางกลืนน้ำลาย “คนงาม ตอนนี้มีเพียงพวกเราสองคนแล้ว เจ้าคิดไปเล่นสนุกที่ใด!”
สายตาจูเก่อชิวเต็มไปด้วยความสกปรก หากเปลี่ยนเป็นคนปกติ เขาคงสั่งให้คนมัดตัวลากขึ้นเตียงไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน!
จูเก่อชิวไม่เคยพบพานคนที่งดงามเช่นนี้มาก่อน จึงตัดใจรุนแรงป่าเถื่อนขนาดนั้นไม่ได้ และคนงามเป็นฝ่ายรุก หากยินยอมพร้อมใจทั้งสองย่อมดีที่สุด!
ดังนั้นจูเก่อชิวจึงข่มความมุ่งร้ายของน้องชายเอาไว้ ปรี่ตรงเข้าหาจูนจิ่วพลางยิ้มอย่างที่ตนคิดว่าสง่างาม ความจริงคือป่าเถื่อนเร่าร้อน
จูนจิ่วไม่อยากถูกมองอย่างเร่าร้อน สายตาของนางจึงมองออกไปไกลพลางอุ้มเสี่ยวอู่ไว้ในอ้อมกอด “ข้าต้องการไปห้องหนังสือในสำนักไท่ชู”
“อะไรนะ ห้องหนังสือ!” จูเก่อชิวสีหน้าตะลึงงัน ดวงตาเขาเบิกกว้างมองจูนจิ่วอย่างไม่เชื่อสายตา คนงามเอ่ยว่าต้องการไปห้องหนังสือในสำนักไท่ชู? เขาคงมิได้ฟังผิดสินะ!
ครั้งนี้จูนจิ่วจึงมองจูเก่อชิวแวบหนึ่ง ก่อนนางยิ้มเย็นชาพลางเอ่ยอย่างแฝงความสงสัย “อันใดกัน ท่านทำไม่ได้หรือ?”
เมื่อถูกคนงามสงสัย จูเก่อชิวไม่ยินยอม เขารีบยืดอกเงยหน้า ใบหน้าอ้วนกลมเผยความหยิ่งยโสออกมา “จะเป็นได้อย่างไร ข้าคือบุตรชายของเจ้าเมืองไท่ชู สำนักไท่ชูนี้ผู้อื่นเข้าไม่ได้ แต่ข้ามิใช่คนอื่น!”
ชะงักชั่วขณะ จูเก่อชิวเอ่ยอ้ำอึ้งขึ้น “แต่คนงาม พวกเราเข้าไปได้เพียงประตูนอกของห้องหนังสือ จริงสิคนงาม เจ้าไปทำสิ่งใดที่ห้องหนังสือหรือ?”
สมองจูเก่อชิวไม่ได้ใหญ่โตเท่าครึ่งหนึ่งของร่างกาย เขามองจูนจิ่วอย่างระแวงคล้ายไม่เข้าใจและสงสัย ห้องหนังสือนั่นไม่ใช่สถานที่ที่ผู้ใดจะสามารถเข้าไปได้! แม้เป็นประตูด้านนอก นอกจากศิษย์ชั้นนำและผู้อาวุโส ผู้ดูแล ผู้อื่นต่างมองไม่เห็นแม้ห้องหนังสือ
ปลายนิ้วจูนจิ่วพันที่หางของเสี่ยวอู่ นางยิ้มมุมปากเลิกคิ้วเล็กน้อย “ต้องการเห็นว่าห้องหนังสือของสำนักไท่ชูหน้าตาเป็นเช่นไร คุณชายจูเก่อชิวสถานะสูงส่ง พาข้าเข้าไปเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย จริงหรือไม่?”
“ถูกต้อง!” สิ่งงดงามอยู่ตรงหน้า ความเฉลียวฉลาดเพียงน้อยนิดในสมองของจูเก่อชิวปลิวหายไป
ไปห้องหนังสือเขาไม่กล้าพาองครักษ์ไปด้วย จูเก่อชิวแอบลอบพาจูนจิ่วเดินทางสายเล็ก ก่อนยัดหินทิพย์ชั้นที่หนึ่งถุงหนึ่งให้องครักษ์เฝ้ายามในห้องหนังสือ นี้จึงทำให้เข้ามาตรงประตูด้านนอกของห้องหนังสือในสำนักไท่ชูอย่างราบรื่น
ในใจจูเก่อชิวซุกซ่อนความคิดที่ไม่อาจบรรยายได้ไว้ ดังนั้นจึงพาจูนจิ่วเข้าไปตรงประตูด้านข้าง ด้านในรอบด้านมองไม่เห็นคนแม้แต่คนเดียว!
เงยหน้าเห็นจูนจิ่วสำรวจห้องหนังสือ จูเก่อชิวจ้องแผ่นหลังของจูรจิ่วพร้อมกลืนน้ำลาย คนงามคือคนงาม! กระทั่งสถานที่เงียบงันดังห้องหนังสือนี้ ล้วนเปลี่ยนไปเปล่งประกายงดงามขึ้นมา ความคิดชั่วร้ายในใจปะทุขึ้นมา ดวงตาจูเก่อชิวปรากฏรอยยิ้มลามกป่าเถื่อนขึ้นมา
หากสามารถเล่นสนุกในห้องหนังสือได้ คงน่าตื่นเต้นอย่างมาก!
ดวงตาเหลือบมองไปมา ก่อนจูเก่อชิวเอ่ยขึ้น “คนงามเจ้าเดินดูรอบๆ ก่อนเถิด ข้าจะไปยกน้ำชาและอาหารว่างมาให้เจ้า คนงามเจ้าต้องรอข้านะ ห้ามเดินไปทั่วเด็ดขาด หากถูกคนเจอเข้าจบเห่แน่!”
“ไปเถิด” จูจิ่วเอ่ยอย่างเย็นชา
เห็นรอยยิ้มร้ายกาจของจูเก่อชิว อดอยากวิ่งออกไปทันทีไม่ได้ เสี่ยวอู่เกาะบนไหล่จูนจิ่ว ทำท่าทางสะอิดสะเอียน ก่อนมีสีหน้ารังเกียจ “เจ้านาย เจ้าโง่นี้เร่าร้อนเกินไปแล้ว!”
จูนจิ่วจึงเอ่ยขึ้น “เมื่อร้อน เจ้ามองเขาอันใด?”
เสี่ยวอู่แลบลิ้น เอ่ยขึ้นต่อ “เจ้านาย เหตุใดจึงคิดให้คนโง่นี้มาพวกเราเข้ามาในห้องหนังสือได้ ข้าเห็นเขารู้สึกอยากสังหารหมู ไม่ได้คิดถึงอุบายนี้เลยเมี้ยว!”
ได้ยินคำพูดแปลกใจและรังเกียจของเสี่ยวอู่ จูนจิ่วลูบที่ศีรษะของเสี่ยวอู่ ตอนเริ่มแรกนางเองก็คิดไม่ถึง แต่หลังได้ยินสถานะของจูเก่อชิวที่ทุกคนเอ่ยขึ้นในห้องโถงใหญ่ ภายในสมองของจูนจิ่วพลันผุดความคิดนี้ขึ้นมา
ไม่ว่าสำนักไท่ชูจะเหยียดหยามนางและชิงหยู่เพื่อจุดประสงค์ใด นางจำต้องเข้าใจสำนักไท่ชูก่อน! ด้านนอกสามารถแอบสืบหาข่าว รวบรวมข้อมูล แต่ภายในห้องหนังสือ เนื้อหามีประโยชน์ยิ่งกว่าและยิ่งต้องรวบรวม! นางต้องการแอบเข้าไป แต่ยากและไม่ปลอดภัยเกินไป
นางไม่แน่ใจว่าจูเก่อชิวจะมีความสามารถนี้ แต่เพียงลองคิดไม่ถึงว่าจะสำเร็จ คนโง่แม้จะเร่าร้อน อันธพาลลามก แต่ก็มีประโยชน์
จูนจิ่วไม่เอ่ยปาก แต่เสี่ยวอู่มองออกถึงความคิดทั้งหมดของนาง ก่อนเลียอุ้งเท้า เสี่ยวอู่ถูไถใบหน้าจูนจิ่ว
เจ้านายร้ายกาจยิ่งนัก! ใช้งานคนไร้ค่าได้อย่างยอดเยี่ยม ถูไถไป จู่ๆ เสี่ยวอู่ตะลึงงัน
ฝีเท้าหยุดลง จูนจิ่วมองคนตรงหน้าพร้อมยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ก่อนนางจะเอ่ยขึ้น “อู๋เยว่”
เทพบุตรพิงชั้นหนังสืออย่างเกียจคร้านเลื่อนลอย สิ่งของทั้งหมดกลายเป็นฉากหลัง เหลือทิ้งไว้เพียงเทพบุตรหล่อเหลาเช่นเขาเด่นอยู่ในสายตา
เมื่อได้ยินจูนจิ่วเรียกเขา ดวงตาโม่อู๋เยว่สั่นไหว ขนตาดังปีกผีเสื้อกะพริบ ดวงตาสวยงามน่าดึงดูดปรากฏขึ้น ริมฝีปากบางใต้จมูกยิ้มร้ายกาจ เสียงของเสี่ยวอู่ดังขึ้นในใจของจูนจิ่ว บุรุษรูปโฉมกลายเป็นเช่นนี้ จะให้สตรีมีชีวิตได้อย่างไร?
จูนจิ่วคิดอย่างถี่ถ้วน ก่อนตอบกลับเสี่ยวอู่ อาจต้องอับอายจนตรอมใจตาย เพราะรูปโฉมของโม่อู๋เยว่นี้ งดงามจนทำร้ายคนเกินไปเสียแล้ว!
เสี่ยวอู่จึงรีบเงยหน้าเบิกตากว้างมองจูนจิ่ว ไม่ต้องพูด จูนจิ่วคาดเดาได้ถึงความคิดของเสี่ยวอู่ ถามนางว่าถูกทำให้เสียหายแล้วหรือไม่? จูนจิ่วมุ่ยปาก นางมองคล้ายคนลุ่มหลงรูปลักษณ์หรือ? ไม่ ไม่ใช่! การทำลายล้างของโม่อู๋เยว่ส่งผลกระทบต่อนางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แต่เพียงเล็กน้อยจริงหรือ?
เสียงทุ้มต่ำเกียจคร้านของโม่อู๋เยว่ดังเข้ามา เขาเอ่ยว่า “เสี่ยวจิ่วเอ่อร์หากคิดเข้าไปในห้องหนังสือ สามารถไปหาข้าได้” พบเขาดีมากมาย เจริญหูเจริญตา เหตุใดต้องไปหาคนโง่นั้น?
จูนจิ่วได้ฟังรู้ว่าโม่อู๋เยว่ความจริงกลับอยู่ข้างกายนาง ดังนั้นจึงเห็นและรู้หมดทุกสิ่ง จูนจิ่วยักไหล่ให้โม่อู๋เยว่ ก่อนเอ่ยว่า “โอกาสเดินเข้ามา ย่อมต้องคว้าไว้ เจ้าอยู่ที่นี่รอข้าหรือ?”
“เสี่ยวจิ่วเอ่อร์”
เสียงของโม่อู๋เยว่ต่ำลงหลายส่วน เขาแวบกายใช้ปลายนิ้วยกคางของจูนจิ่วขึ้น ก่อนยันกายเข้าใกล้ชิดจูนจิ่ว ก่อนเอ่ยขึ้น “เจ้าพบโอกาสที่ดีเข้า แต่คิดร้ายต่อเจ้า เจ้าไม่กลัวตกหลุมพรางหรือ?”
“โอ้ ท่านเป็นห่วงข้าหรือ?” จูนจิ่วยกยิ้มอย่างหยอกเย้า ก่อนนางยื่นมือกุมมือของโม่อู๋เยว่
ทั้งสองสบตากันคลุมเครือ,ครุมเครือใกล้ชิดกัน คล้ายอีกไม่นานจะจุมพิตกันอย่างไรอย่างนั้น เสี่ยวอู่ม้วนตัวลงจากแผ่นหลังของจูนจิ่วเงียบๆ มันไม่ต้องการถูกบีบอัดอยู่ตรงกลางจนกลายเป็นขนมแมว!
เวลานี้ เสียงฝีเท้าตึกตักดังขึ้น จูเก่อชิวสูดน้ำลายไม่หยุด ในมือเขาถือถาดที่วางสุราและของว่างไว้ด้านบน
จูเก่อชิวเพียงเข้ามายิ้มอย่างลามก “คนงาม สุราชั้นเลิศและของว่างมาแล้ว คนงามเจ้ารีบ…”
เสียงพลันหยุดลง จูเก่อชิวเงยหน้าขึ้นยืนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ จูนจิ่วเพิ่งขมวดคิ้วมองเขา บรรยากาศคลุมเครือ,ครุมเครือพัดเข้ามาจนคันใบหู ก่อนโม่อู๋เยว่เอ่ยขึ้น “เสี่ยวจิ่วเอ่อร์ เจ้ามองให้ดี”
ดวงตาโม่อู๋เยว่สว่างวาบ จูเก่อชิวคล้ายถูกควบคุม มือซ้ายยกกาสุราเทลงในปาก มือขวาคว้าของว่างยัดเข้าไป สิ่งของชั้นดีถูกกินราวกับอาหารหมู