บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 319 จูบข้าที
บทที่ 319 จูบข้าที
เข้าไปในจวนเจ้าเมืองไท่ชู ราวกับเข้าไปในสถานที่ร้าง
ยืนอยู่บนต้นไม้ จูนจิ่วกับโม่อู๋เยว่เห็นชัดว่าจูเก๋อหุนกำลังเดินไปมาในเรือนอย่างกังวลร้อนใจ เขายังรอให้นักฆ่าที่ส่งไปกลับมาส่งข่าว จูเก๋อหุนคงคิดไม่ถึงว่านักฆ่าต่างก็ตายหมดแล้ว ไม่มีใครเหลือรอดกลับมาได้
โม่อู๋เยว่ก้มลงมองร่างแน่งน้อยในอ้อมอก ยิ้มอย่างมีความสุข “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะใช้ยาหุ่นเชิดหรือ”
“ใช่ ให้เขากลายเป็นปี้หลั๋วที่สองดีหรือไม่ ”ตอนนี้ปี้หลั๋วกับจูนหวั่นเอ๋อร์ถูกส่งออกไปทำงาน รับผิดชอบเกี่ยวกับการประมูลภายในของประเทศอื่นๆในสิบ ประเทศ ได้ยินหยุนจ้งจิ่นบอกว่าเชื่อฟังและซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก หลังจากที่จูนหวั่นเอ๋อร์กำจัดพิษกู่แล้ว ก็ใช้ยาหุ่นเชิดควบคุมนาง
จูนจิ่วพูดต่อไปว่า “แค่ยาหุ่นเชิดอย่างเดียวมันใช้ควบคุมเจ้าเมืองไท่ชูที่เป็นนักจิตชั้นเก้าไม่ได้นะ ต้องควบคุมจิตใจร่วมด้วย อู๋เยว่ตอนที่ข้าควบคุมเข้าจะให้คนอื่นรบกวนไม่ได้นะ ถึงตอนนั้นความปลอดภัยของข้าก็มอบให้ท่านแล้ว”
“ได้ ข้าเต็มใจที่จะให้บริการเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์มาก ”โม่อู๋เยว่เผยรอยยิ้มดึงดูดใจ ในสายตาเป็นประกายเต็มไปด้วยความหลงใหลที่มีเสน่ห์
ยิ่งใกล้ชิด ยิ่งตกหลุมลึก
โม่อู๋เยว่ไม่เคยดิ้นรนต่อต้าน ซ้ำยังปล่อยตัวปล่อยใจให้ดิ่งลงไป เพียงแต่จะรู้สึกหิวกับวิญญาณของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นประจำ อยากกิน แต่ว่าเขายังสามารถควบคุมได้ ไม่เป็นไรกระมัง ตอนนี้โม่อู๋เยว่ไม่อยากห่างจากจูนจิ่วเลยสักนิด คู่วิญญาณก็เป็นเหมือนดอกฝิ่นที่สวยแต่อาจเอาชีวิตได้ ล่องลอยดุจเซียน ไม่ว่าจะเคียงกันอย่างเปิดเผยหรือมองอย่างเงียบๆในเงามืด โม่อู๋เยว๋ล้วนรู้สึกยินดี
มือที่อุ้มคนอยู่เก็บแน่นขึ้นหลายส่วน โม่อู๋เยว่พูดว่า“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์จะลงมือเมื่อไหร่”
“ท่านปล่อยมือก่อน ท่านอุ้มข้าอย่างนี้จะลงมือได้อย่างไร”จูนจิ่วมุมปากกระตุก ปัดมือของโม่อู๋เยว่ที่ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแน่นยิ่งขึ้น จูนจิ่วมองไปยังสาวใช้ที่เดินเข้าใกล้ลานบ้าน นางยกยิ้ม“ย่อมไม่สามารถตรงเข้าไปวางยาเจ้าเมืองไท่ชูได้แน่ ข้าจะใช้ทางอ้อม”
พูดแล้ว จูนจิ่วก็กระโดดลงจากต้นไม้ตรงไปที่สาวใช้
โม่อู๋เยว่ยืนอยู่บนต้นไม้สายตาตามติดเงาร่างของจูนจิ่ว เขาเห็นจูนจิ่วจับสาวใช้ด้วยมือเดียวได้อย่างง่ายดาย อีกมือรับถาดน้ำชาเอาไว้ไม่ใช้หก
จูนจิ่วพูดว่า “ดูข้าไว้”
สาวใช้ถูกจูนจิ่วใช้มือปิดปากเอาไว้ไม่สามารถส่งเสียงได้ ขณะที่กำลังตกใจก็ได้ยินเสียงจูนจิ่ว สาวใช้ราวกับถูกแมลงกู่สะกดให้ค่อยๆเงยหน้าประสานสายตากับจูนจิ่ว สาวใช้ค่อยๆเงียบสงบลง จูนจิ่วเห็นอย่างนี้ก็ค่อยๆคลายมือออก นางได้ทำการละลายยาหุ่นเชิดลงในน้ำชา จากนั้นก็คืนให้กับสาวใช้
มุมปากยกขึ้น รอยยิ้มแฝงแววชั่วร้าย จูนจิ่ว “ไปเถอะ ไปส่งน้ำชานี้ให้แก่เจ้าเมืองไท่ชูซะ”
สาวใช้พยักหน้าอย่างสงบ ยกถาดน้ำชาขึ้นมาอย่างดีเดินไปยังลานบ้าน หลังนางมีลมวูบหนึ่งพัดผ่าน จูนจิ่วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
กลับไปยังต้นไม้ จูนจิ่วกอดอกเลิกคิ้ว“ตอนนี้ก็รอแค่เจ้าเมืองไท่ชูดื่มชาที่ผสมยาเข้าไป”
โม่อู๋เยว่“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะดื่มมัน”
“ตอนนี้เขาร้อนใจเรื่องที่นักฆ่ายังไม่ส่งข่าว ไม่มีจิตใจพะวงเรื่องอื่น แล้วจะระแวงคนใกล้ตัวได้อย่างไร ไม่เชื่อเรามาพนันกัน ”จูนจิ่วเหลือบมองโม่อู๋เยว่
หัวเราะอย่างได้ใจ เปล่งประกายน่ามอง สวยงามยิ่งนัก
คนงามทำอะไรก็ถูก ยิ่งไปกว่านั้นคือโม่อู๋เยว่เองก็มีความสุขเพราะนาง
แต่หัวคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย บวกกับเสน่ห์อันดึงดูดอย่างร้ายกาจ โม่อู๋เยว่โน้มตัวเข้าใกล้จูนจิ่ว
ค่อยๆพูดอย่างใจเย็นว่า “หาเสี่ยวจูนจิ่วชนะ จูบข้าหนึ่งที”
จูนจิ่ว ……
อะไรคือนางชนะ แล้วต้องจูนโม่อู๋เยว่หนึ่งที นางชนะแน่นอนอยู่แล้ว นี่โม่อู๋เยว่ต้องการวางกับดักนางชัดๆ จูนจิ่วมุมปากกระตุก กอดอกส่ายหน้า “ไม่”
“เช่นนั้นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ชนะแล้ว ข้าจะจูบเจ้าหนึ่งทีเพื่อเป็นรางวัล”
“ข้าไม่พนันแล้ว”เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เสียงเย็น ปีศาจบางตนขี้โกง นางไม่ใช่คู่ปรับเลยสักนิด หันหน้าไปไม่มองโม่อู๋เยว่ นางตั้งใจมองไปภายในห้องที่สาวใช้กำลังยื่นชามอบให้กับเจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุน
จูเก๋อหุนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอยู่เป็นนิจ เดินไปมาอย่างร้อนรนอยู่ในห้อง อีกทั้งยังคอยเรียกคนรับใช้เข้ามาถามว่าเหล่านักฆ่ากลับมาหรือยังอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุนรู้สึกไม่ชอบมาพากล สถานการณ์ไม่ดีแล้ว
นังสารเลวคนนั้นก็แค่นักจิตชั้นสาม ศิษย์พี่นางก็แค่นักจิตชั้นแปด นักจิตชั้นเก้าสองคนพาหน่วยกล้าตายไป ต้องฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย สมควรต้องกลับมารายงานตั้งแต่เมื่อคืน ทำไมจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวเลยสักนิด
จูเก๋อหุนอยากจะส่งคนออกไปตรวจสอบ แต่ก็กลัวว่าหลังจากลอบสังหารสำเร็จ เขาก็โผล่ออกไปตอนนี้จะถูกมู่จิ่งหยวนกับหยุนหนีจับได้
“ท่านเจ้าเมืองเชิญดื่มชา”สาวใช้ยกน้ำชาเข้ามา
“ไสหัวออกไป ไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังกลุ้มใจอยู่”จูเก๋อหุนสีหน้าเคร่งขรึมด่าออกไปอย่างโมโห แต่พอด่าเสร็จแล้วก็รู้สึกว่าตนคอแห้งอยู่บ้าง แล้วก็ยื่นมือออกไปเอาน้ำชามาดื่มรวดเดียวจนหมด โยนแก้วชาทิ้งไป “ออกไป”
เขาหายใจแรง หมุนตัวสองมือไขว้หลัง หูได้ยินเสียงสาวใช้เดินออกไปแล้วเข้ามาอีก จูเก๋อหุนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “นังโง่ ฟังคำสั่งข้าไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร”
หมุนตัวหันกลับมา จูเก๋อหุนเห็นคนที่มาสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อ “จูนจิ่ว”
ตอนนี้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาไม่ใช่จูนจิ่วแล้วจะเป็นใคร ด้านหลังของจูนจิ่วยังมีอีกคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก เงยหน้าขึ้นคิดจะวิเคราะห์แต่ก็รู้สึกปวดที่ศีรษะอย่างมาก จูเก๋อหุนร้องอย่างเจ็บปวดหนึ่งเสียง กุมหัวคุกเข่าลงกับพื้น โม่อู๋เยว่ยืนอยู่ข้างๆรีบสร้างกำบังปกป้องทันที
จูนจิ่วมองจูเก๋อหุนเงียบๆ ไม่เสียทีที่เป็นนักจิตชั้นเก้า ยังสามารถต้านฤทธิ์ยาหุ่นเชิดได้ ไม่เหมือนปี้หลั๋วที่พอกินแล้วก็สำเร็จทันที
นางยืนอยู่ตรงหน้าจูเก๋อหุน หลับตาแล้วยื่นสองมือทำท่าห่อหุ้มศีรษะของจูเก๋อหุนไว้ไกลๆ พลังจิตราวกับดาบแสนคม โจมตีศีรษะของจูเก๋อหุนอย่างรุนแรงไร้ปรานี เสียงร้องอย่างเจ็บปวดทรมานค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ได้ยินแล้วทำให้ขนลุกไปตามกัน
เป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปประมาณครึ่งชั่วยาม จนกระทั่งสีหน้าของจูนจิ่วค่อยๆซีดขาว ปากเริ่มไร้สีเลือดแล้วจึงค่อยเก็บมือหยุดลง
โม่อู๋เยว่ยืนอยู่ข้างหลังจูนจิ่วตลอดเวลา รอให้นางวางมือแล้วจึงได้รีบกางแขนรับจูนจิ่วเข้าไว้ในอ้อมอก จูนจิ่วพิงอยู่กับอกของโม่อู๋เยว่ แบะปากบอกว่า“นักจิตชั้นเก้าช่างร้ายกาจจริงๆ ควบคุมเขายากกว่าควบคุมจูนหยุนเสวี่ยเสียอีก แต่ว่าข้าก็ทำสำเร็จแล้ว”
“อืม นักจิตชั้นสี่สามารถควบคุมนักจิตชั้นเก้าได้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นคนแรกในใต้หล้า ผ่อนคลายพักผ่อนให้ดีก่อน ข้าจะส่งเจ้ากลับไป ”โม่อู๋เยว่กอดจูนจิ่วเอาไว้
“ช้าก่อน ข้ายังไม่ได้ลงคำสั่ง”จูนจิ่วรวบรวมพลังจิตลงคำสั่งกับเจ้าเมืองไท่ชูจูเก๋อหุน นางสามารถใช้ยาฆ่าจูเก๋อหุนได้ แต่ทำเช่นนี้จะทำให้เกิดคลื่นลมในสำนักศึกษาไท่ชูได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่จูนจิ่วคิด
ไม่สู้ควบคุมจูเก๋อหุน หลังจากนี้สามารถเป็นผู้ช่วยได้ หากพวกเขาสามารถค้นหาตำราฝึกร่างกายชั้นที่สี่ได้จริง หรือว่าเกิดเรื่องอื่นขึ้นก็ตาม จูเก๋อหุนก็สามารถเปิดประตูหลัง ช่วยให้พวกเขาหนีออกจากสำนักศึกษาไท่ชูได้ ตอนนี้จูนจิ่วกำลังสั่งการ โดยให้ทำทุกอย่างเหมือนปกติอย่าให้คนอื่นรู้เด็ดขาด
หลังจากทำทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว จูนจิ่วจึงล้มตัวอย่างจริงจังลงบนอ้อมแขนของโม่อู๋เยว่ “เรียบร้อยแล้ว เรากลับกันเถอะ”
“ได้”โม่อู๋เยว่าคว้าเอวจูนจิ่วอุ้มขึ้น สลายกำบังบินถลาออกจากจวนเจ้าเมือง ไม่มีใครเห็นพวกเขาสองคนเข้ามา และก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้เปลี่ยนสมองของท่านเจ้าเมือง เปลี่ยนจุดยืนในกองทัพใหม่