บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 328 นางกำลังรนหาที่ตาย
บทที่ 328 นางกำลังรนหาที่ตาย
ชิงหยู่พลิกตัวลุกขึ้น ใช้สายตากวาดมองราวกับจะมองให้ทะลุทั้งบนฟ้าบนพื้นรอบๆทั้งแปดทิศ คิดอยากจะหาตัวโม่อู๋เยว่กับเหลิ่งยวนออกมา จูนจิ่วเห็นดังนั้น ก็กุมขมับส่ายหัว
“ศิษย์พี่ ท่านหาพวกเขาไม่เจอหรอก”
“พวกเขาอยู่ที่นี่จริงหรือ ”ชิงหยู่ตะลึงเป็นอย่างมาก
มุมปากหยักขึ้น จูนจิ่วเอาหลังพิงต้นไม้ท่าทีผ่อนคลายเกียจคร้าน นางพูดว่า “ก็ไม่แน่ แต่ว่าส่วนใหญ่ก็อยู่”ถ้าโม่อู๋เยว่ไม่มีใบหน้าที่หล่อเหลาเช่นนั้น คงต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ
ชิงหยู่ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ไม่ใช่โรคจิตหรือ
สีหน้าไม่อาจอธิบายได้ ชิงหยู่สายตาซับซ้อนมองไปยังจูนจิ่ว เขาพูดว่า “ข้าจำได้ว่าเหลิ่งยวนเป็นคนของผู้อาวุโสโม่อู๋เยว่ใช่หรือไม่ ผู้อาวุโสโม่มาปกป้องเจ้าหรือ”
“นอกจากข้าจะมีอันตรายถึงชีวิตแล้ว พวกเขาจะไม่แทรกเข้ามาเด็ดขาด ”ชิงหยู่เข้าใจความหมายของจูนจิ่ว แต่เขาก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ดี ตามติดปกป้องกันขนาดนี้ ติดตามกันอย่างลับๆนี่มันความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์จริงหรือ เขายังไม่เคยเห็นอาจารย์คนไหนจะเป็นห่วงเป็นใยลูกศิษย์ได้มากขนาดนี้มาก่อน
น่าแปลก น่าแปลกจริงๆ
ชิงหยู่รู้สึกแปลกใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป เขาลูบคางครุ่นคิดก่อนจะพูดออกไปว่า “ศิษย์น้อง ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปได้เมล็ดสุเมรุในตำนานมาได้อย่างไร แต่เจ้าต้องไม่เปิดเผยให้ใครรู้เด็ดขาด ฉะนั้นเจ้าต้องเอาหญ้าสวนยิงออกมา”
เพราะในภูเขาหนานนี้ยังมีหยุนหนีอีกคนที่ซ่อนตัวอยู่ หากถูกพบเข้า ชิงหยู่ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้นบ้าง
ทั้งโลกคงสะเทือน ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความดึงดูดใจของเมล็ดสุเมรุได้ ไม่ช้า ศิษย์น้องของเขาก็จะกลายเป็นศัตรูของคนทั้งโลก ชิงหยู่ขมวดคิ้วกำหมัดแน่น เขาต้องหยุดยั้งทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน ไม่ให้ใครรู้ว่าจูนจิ่วมีเมล็ดหญ้าสุเมรุ
จูนจิ่วย่อมรู้เหตุผลดี นางได้นำหญ้าสวนยิงมาจัดการอย่างเรียบง่าย ตัดใบของหญ้าสวนยิงแล้วเจ็บอย่างมิดชิดไว้ในกล่องที่ทำจากไม้หูเถา
จากนั้นก็วางหันทิพย์ระดับสองไว้ในนั้นด้วย เพื่อรักษาความสดให้หญ้าสวนยิง หญ้าสวนยังทั้งหมดบรรจุอยู่สามกล่อง หนึ่งในนั้นมีใบของหญ้าสวนยิงเพียงสองใบเท่านั้น นี่จะเป็นกล่องที่เอากลับไปส่งผลงานภารกิจ นางกับชิงหยู่คนละหนึ่งใบ น่าจะพอสำหรับตอบแทนคนที่อยู่เบื้องหลังผู้ดูแลหวางได้
ผ่านค่ำคืนแห่งรัติกาลในป่าลึก รอจนวันรุ่งขึ้นจูนจิ่วกับชิงหยู่ก็เก็บของออกเดินทางทันที
แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่า โลกจะกลมมากขนาดนี้ พวกเขาพบเข้ากับหยุนหนีกลางทาง หยุนหนีทั้งน่าเวทนาทั้งดูเหน็ดเหนื่อย หายใจแรงมือหนึ่งค้ำยันต้นไม้เพื่อยืนให้มั่นคง นางเงยขึ้นก็มองเห็นจูนจิ่วกับชิงหยู่อยู่ตรงหน้า สีหน้าเปลี่ยนไป แต่เพียงชั่วพริบตาก็กลับมาสงบดังเดิม
หยุนหนีแสดงสีหน้าตกใจ “จูนจิ่ว ชิงหยู่ทำไมพวกเจ้ามาอยู่ที่นี่ ”
ระหว่างพูด หยุนหนีก็มองเห็นเสี่ยวอู่ที่เกาะอยู่บนไหล่ของจูนจิ่ว สีหน้าบิดเบี้ยวชั่วครู่ ก็เพราะแมวที่น่าตายตัวนี่แหละ จากนั้นนางก็ถูกม้าลายเสือดาววิ่งไล่กวด ม้าลายเสือดาวคิดว่านางกับจูนจิ่วเป็นพวกเดียวกัน วิ่งไล่จนหยุนหนีต้องคอยหนีตายตลอดทั้งคืน ใช้เรี่ยวแรงพลังงานไปไม่น้อยกว่าจะสลัดหลุดได้
ดังนั้นตอนที่มองเสี่ยวอู่ หยุนหนีอดไม่ได้ที่จะปล่อยสีหน้าออกมา อยากจะเดินไปกระชากแมวที่น่าตายนั้นลงมา
จากนั้นสายตาอาฆาตก็ประสานเข้ากับจูนจิ่ว ดวงตาเยือกเย็นคู่นั้น ทำเอาหยุนหนีรู้สึกหนาวไปจนถึงกระดูก เก็บอาการไว้อย่างดี หยุนหนียืนขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“พวกเจ้ายังไม่ตอบข้าเลยนะ”
“ข้ากับศิษย์พี่มาทำภารกิจ คุณหนูหยุนหนีเล่า”จูนจิ่วพูดเสียงเย็น
หยุนหนียิ้ม “เรียกข้าว่าศิษย์พี่หยุนหนีเถอะ ข้าเองก็มาทำภารกิจ ตอนนี้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังจะกลับ พวกเจ้าก็ทำภารกิจเสร็จแล้วหรือ”
ชิงหยู่กอดอกจ้องมองหยุนหนี พยักหน้าพูดว่า “ใช่”
ได้ยินอย่างนี้ สีหน้าของหยุนหนีก็บิดเบี้ยวไปชั่วขณะอย่างควบคุมไม่ได้ ทำสำเร็จแล้ว จะเป็นไปได้อย่างไร ม้าลายเสือดาวสองตัว พวกเขากลับเอาหญ้าสวนยิงมาได้สำเร็จ
หยุนหนีรีบคำนวณเวลาในใจทันที หากพวกจูนจิ่วออกเดินทางตั้งแต่ตอนนี้ ต้องกลับไปทันการแข่งขันลูกศิษย์แน่
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด
นิ้วมือของหยุนหนีซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อ กำหมัดแน่น นางจ้องเขม็งไปที่สองคน พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ในเมื่อพวกเราต่างก็ทำสำเร็จแล้ว เช่นนั้นก็กลับด้วยกันเถอะ ข้าเป็นศิษย์พี่ของพวกเจ้า ก็ควรจะดูแลปกป้องพวกเจ้า ”
ปกป้อง ชิงหยู่เลิกคิ้วอย่างเยาะเย้ย เขามองไปยังศิษย์น้อง ทั้งสองประสานสายตากัน ชิงหยู่ลูบปลายคางไม่พูดอะไร
จูนจิ่วยิ้ม รอยยิ้มเย็นยะเยือกได้ใจ “ก็ได้ เช่นนั้นก็ลำบากศิษย์พี่แล้ว”
ตอนนี้หญ้าสวนยิงอยู่ในมือแล้ว นางจะดูสิว่าหยุนหนีจะทำอะไร สัญชาตญาณที่แม่นยำบวกกับสัมผัสที่หกของนางแยกแยะได้ว่า หยุนหนีไม่ได้มีเจตนาที่ฆ่าพวกเขา แต่กลับอยากจะขัดขวางพวกเขาเอาไว้ นางคิดจะขัดขวางไม่ให้พวกนางกลับไป เพราะอะไร
โอกาสหายาก จูนจิ่วคิดจะใช้ช่วงเวลานี้รู้ให้ได้ว่าหยุนหนีต้องการอะไรกันแน่
ในมือของจูนจิ่วก็มีแผนที่ ฉะนั้นหยุนหนีไม่สามารถลงมือทำอะไรได้ระหว่างทาง เดินทางอย่างปลอดภัยไปได้ครึ่งวัน เห็นดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ถึงกลางท้องฟ้า พลบค่ำก็คงจะออกจากภูเขาหนาน หยุนหนีร้อนรน ดวงตานางกลอกไปมามือคลำไปที่กระเป๋าเอว
“ศิษย์พี่หยุนหนี”จูนจิ่วร้องเรียกนางขึ้นอย่างกะทันหัน ทำเอาหยุนหนีตกใจจนตัวแข็ง แต่นางมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วมาก รีบเก็บอาการทันที หันไปยิ้มให้กับจูนจิ่ว “ทำไมหรือ”
จูนจิ่วแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นท่าทางของหยุนหนี นางยิ้มอ่อนพูดว่า“ข้ากับศิษย์พี่คิดว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์ ศิษย์พี่หยุนหนีพอจะชี้แนะได้หรือไม่ว่าต้องระวังอะไรบ้างในการแข่งขัน ”
“พกวเจ้าต้องการเข้าร่วมการแข่งขันลูกศิษย์หรือ ถึงว่าพวกเจ้าทำไมจึงมาอยู่ที่นี่ ต้องมาเก็บหญ้าสวนยิงแน่ๆ”ใบหน้าสวยงามของหยุนหนีแสดงท่าทีตกใจ
ท่าทีที่สะบัดแขนเสื้อนั้นเชื่องช้าสวยงามดุจภาพวาด หยุนหนีแกล้งทำเป็นตะลึง “นี่พวกเจ้าเก็บหญ้าสวนยิงสำเร็จ จริงหรือ ให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่ ”
รีบเอาหญ้าสวนยิงออกมา นางสามารถใช้โอกาสนี้ทำลายหญ้าสวนยิงซะ
“ไม่ได้ ”ชิงหยู่ปฏิเสธไปด้วยน้ำเสียงเย็น เขาพูดว่า “หญ้าสวนยิงต้องใช้หินทิพย์รักษาอุณหภูมิ ถ้าเปิดออกมาอาจทำให้เสียคุณภาพ หวังว่าศิษย์พี่หยุนหนีจะให้อภัย”
ท่าทีบนใบหน้าของหยุนหนีแข็งทื่อไป นางจ้องชิงหยู่อย่างอารมณ์เสีย กล้าปฏิเสธสาวงามอย่างนาง ช่างอยู่ไม่เป็นเสียจริง แต่ว่า สายตาของหยุนหนีก็หยุดลงที่ร่างของจูนจิ่ว สายตามีแววอิจฉาวาบผ่าน นางที่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งสำนักศึกษาไท่ชูเมื่ออยู่ต่อหน้าจูนจิ่วแล้ว รู้สึกด้อยกว่าจนกลายเป็นตัวประกอบไปเลย
ไม่มีหญิงคนใดชื่นชอบการถูกเปรียบเทียงให้ต่ำกว่าในเรื่องเดียวกัน หยุนหนีเชิดอก เผยเอวคอดสวยงาม
หึ จูนจิ่วจะสวยอย่างไรก็แค่สาวบ้านๆธรรมดาที่แบนราบ ไม่มีอกไม่มีก้น จะเทียบอะไรกับนางที่มีรูปร่างสวยงามสมบูรณ์แบบ มีกิริยาท่าทีที่สง่างาม หยุนหนีคิด นิ้วมือคลำไปที่เอวอีกครั้ง ในเมื่อทำลายหญ้าสวนยิงไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็สร้างความวุ่นวายให้พวกจูนจิ่วสักหน่อย ให้พวกเขาออกจากภูเขาหนานไม่ได้
หยุนหนีค่อยๆถอยไปครึ่งก้าว ระหว่างที่นิ้วขยับก็มีผงสีขาวร่วงลงมา
ข้างหน้า ชิงหยู่ไม่เปลี่ยนท่าทีมองไปยังจูนจิ่วตาปริบๆ นางกำลังทำอะไร หยุนหนีคิดว่าตัวเองทำอย่างลับๆล่อๆ แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาคอยจ้องนางอยู่ตลอด ท่าทางเพียงเล็กน้อยก็ถูกจับได้แล้ว
จูนจิ่วยิ้ม ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นางเปิดปากเอ่ยขึ้น “นางกำลังรนหาที่ตาย พวกเรารอดูเรื่องสนุกก็พอ”
“จะไม่มีเรื่องยุ่งยากถึงเราใช่หรือไม่ ”ชิงหยู่ถาม