บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 433 นั่นเพราะพวกเขาไร้ประโยชน์
เห็นเพียงในกล่องยาสี่เหลี่ยม เห็นเพียงยาที่คุณภาพสูงเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ ทุกเม็ดเกลี้ยงกลมแวววาว ไอยาอบอวล จะบอกว่าเป็นยาเซียน ก็มีคนเชื่อ
ซิงโล่เฉินรีบเต้นเร่าทันที เขาชี้นิ้วไปยังจูนจิ่วตะคอกว่า “จูนจิ่ว เจ้ายังกล้วพูดว่าเจ้าไม่ได้โกงอีกหรือ ยาคุณภาพดีขนาดนี้ เจ้าว่าเจ้าสามารถกลั่นได้เม็ดสองเม็ด ข้ายังพอจะเชื่อได้ แต่นี่ตั้งสิบเม็ด อีกทั้งเป็นการกลั่นในเวลาหนึ่งเดือน จะเป็นไปได้อย่างไร ”
“ถูกต้อง ไม่มีปรมาจารย์นักกลั่นยาคนไหนทำได้ เจ้าว่าเจ้าเป็นใคร จูนจิ่วนี่เจ้าใช้กลโกงได้โง่มาก คิดว่าพวกเราซื่อบื้อหรืออย่างไร ”หงยิงพูดต่อจากซิงโล่เฉิน ยิ้มอย่างเยาะเย้ยถากถาง
นักกลั่นยาพิษเฟยชิงไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเขาค่อยๆหม่นคล้ำลง
นี่มันเป็นไปไม่ได้
จูนจิ่วไม่ได้โกง และนักกลั่นยาพิษเฟยชิงรู้ดี ตอนนี้ในสามสำนักศึกษาทั้งสาม ไม่มีใครสามารถกลั่นยาคุณภาพดีเช่นนี้ได้ แม้แต่เขาเองก็ทำไม่ได้ ไม่มีใครสามารถสู้จูนจิ่วได้สักคน
เฟยชิงตกใจถึงที่สุด จูนจิ่วได้ยาเหล่านี้มาจากที่ไหน นางกลั่นเองหรือ เขาไม่เชื่อเด็ดขาด
จูนจิ่วยิ้มเย็น “พวกท่านนั่นไงที่ซื่อบื้อไม่ใช่หรือ ยังมีอีกนะ นักกลั่นยาพวกนั้นทำไม่ได้นั่นเพราะพวกเขาไร้ประโยชน์ ไม่ได้แสดงว่าข้าก็ทำไม่ได้”
“จูนจิ่วเจ้ายังจะหาข้ออ้างอีกหรือ”ซิงโล่เฉินจ้องมองนาง
นี่คือโอกาสดีที่เขาจะทำให้จูนจิ่วอับอายอย่างที่สุด ซิงโล่เฉินจะไม่พลาดแน่ เขารีบหันไปมองทางเฟยชิง “เฟยชิง เจ้าเป็นนักกลั่นยาพิษ พูดสิ”
เฟยชิงอ้าปาก แต่มองจูนจิ่วอย่างตื่นตระหนกไม่พูดอะไร
“เห็นทีพวกเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ศิษย์พี่ ศิษย์พี่มู่พวกท่านมาช่วยขาถือไว้หน่อย วันนี้ข้าจะให้พวกเขาได้เบิกเนตร ”จูนจิ่วหันไปพูดกับทุกคนที่อยู่ข้างหลัง
ชิงหยู่รีบเดินเข้ามา
ชิงหยู่รับกล่องยามาจากมือจูนจิ่ว จากนั้นก็เห็นจูนจิ่วหยิบกล่องยาออกมาจากแขนเสื้อกล่องแล้วกล่องเล่า คนที่ไม่รู้อะไรพอเห็นดังนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะขยี้ตาสงสัยว่าแขนเสื้อของจูนจิ่วเป็นคลังสมบัติหรืออย่างไร ถึงจุได้มากขนาดนี้
ยังดีที่กล่องไม่ใหญ่นัก ทุกคนช่วยกันถือเอาไว้คนละกล่องก็หมดพอดี จูนจิ่วตบมือ ยิ้มอย่างยโส “เปิดออก”
พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ
ทุกกล่องทุกเปิดออก มีแสงแวววาวชุ่มชื้น กลิ่นยาที่บริสุทธิ์ กลิ่นหอมที่อบอวลขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกสบายใจ แต่พอพวกเขามองดูดีๆ ต่างก็ต้องเบิกตากว้างอ้าปากค้าง นี่ นี่มัน
จูนจิ่วหรี่ตา เยาะเย้ยเสียงเย็นว่า “นี่ล้วนเป็นข้ากลั่นออกมาเอง พวกเจ้าคนไหน กล้าพูดหรือไม่ว่าข้าได้ซื้อยาของเขาเพื่อโกง นักกลั่นยาพิษเฟยชิง ท่านเป็นคนมีชื่อเสียงด้านการกลั่นยาที่สุดในสำนักศึกษาทั้งสาม ท่านสามารถหาคนที่มีความสามารถเช่นนี้ได้หรือไม่ ”
จูนจิ่วมองไปทางเฟยชิง สายตาเย็นเยือกน่าเกรงขาม มองจนร่างของเฟยชิงรู้สึกสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ตกใจจนถอยไปครึ่งก้าว
“เฟยชิง”ซิงโล่เฉินจ้องไปทางเขา ทำไมจึงได้นิ่งไป ไม่พูดอะไรสักคำ
ซิงโล่เฉินไม่ใช่นักกลั่นยา เขาย่อมไม่รู้ถึงความตกใจของเฟยชิง ไม่มีใครสามารถกลั่นยาที่มีคุณภาพดีขนาดนี้ได้ เขาก็ทำไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาทั้งสิบเม็ดที่แตกต่างกันแต่มีคุณภาพสูง ในสำนักศึกษาทั้งสามไม่สามารถหาคนที่มีฝีมือเช่นนี้ได้เลยแม้แต่คนเดียว
เฟยชิงเหมือนลืมไปว่าเขาเคยใส่ร้ายจูนจิ่ว แต่เพราะตอนนี้กำลังตกใจมาก ทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก
“พูดไม่ออก ฮึ ครั้งหน้าก่อนจะใส่ร้ายผู้อื่นก็ให้ไตร่ตรองดีๆก่อน การใช้แผนอย่างนี้มันดูโง่ต่ำเกินไป ”จูนจิ่วยิ้ม ยิ้มอย่างมีเลศนัยและอวดดี แววตากำเริบเสิบสาน
ป้าบป้าบป้าบ
ซิงโล่เฉิน หงยิง แล้วก็เฟยชิงราวกับถูกฝ่ามือตบเข้าที่ปากและหน้า ชั้นต่ำเกินไป พวกเขาถูกหัวเราะเยาะ
หงยิงกัดฟันกรอด จ้องจูนจิ่วเขม็ง “จูนจิ่วเจ้าอย่าได้ใจไปเลย”
จูนจิ่ว “ทำไมจะไม่ได้ สามารถทำเอาพวกเจ้าตกใจจนพูดไม่ออกไม่อยากจะเชื่อว่ายานั้นข้าเป็นคนกลั่นเอง พวกเจ้าแม้แต่คนที่จะเอามาเทียบกับข้าได้ยังไม่มี ข้าได้ใจเพราะความสามารถของข้า พวกเจ้าไม่คุ้นตา ก็กลั้นเอาไว้ ”
สุดยอด ร้ายกาจ
จี้อีหมิงดวงตาเปล่งประกายดุจดาวจ้องมองอย่างนับถือ พวกชิงหยู่ต่างก็อึ้งไป มองไปทางจูนจิ่วทั้งตะลึงทั้งชื่นชม ร้ายกาจมาก
“จูนจิ่ว”ซิงโล่เฉินกำหมัดไว้แน่นเสียงดังกรอด
ไม่คิดเลยว่าจูนจิ่วจะไม่มองพวกเขาอยู่ในสายตา ยกมือขึ้นให้พวกชิงหยู่เก็บกล่องให้เรียบร้อย จูนจิ่วหันไปทางป้าฟาง “เป็นอย่างไร นี่เพียงพอจะให้ข้าผ่านได้แล้วกระมัง”
มองไม่ออกถึงอารมณ์บนใบหน้าของป้าฟาง ตั้งแต่จูนจิ่วเอากล่องยาออกมา นางก็ได้แต่มองจูนจิ่วอย่างนิ่งขรึม แม้เรื่องที่พวกซิงโล่เฉินใส่ร้ายจูนจิ่ว ตั้งป้อมเป็นศัตรูกัน ป้าฟางก็ยังไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง ป้าฟางก็ถูกทำให้ตกใจจนตะลึงไปแล้ว
นางไม่อยากจะเชื่อ ว่าจูนจิ่วจะมีพรสวรรค์ในการกลั่นยาที่น่าตกตะลึงเช่นนี้ เพราะพ่อแม่ของจูนจิ่วไม่มีใครกลั่นยาได้ นางเป็นได้อย่างไร ป้าฟางเองก็ไม่เชื่อ ในห้าสำนักสิบแคว้นมีคนสามารถสั่งสอนจูนจิ่วจนเดินมาเส้นทางนี้ด้วยหรือ
ป้าฟางกล้าพูดว่า คุณภาพของยาทั้งสิบเม็ดของจูนจิ่วนั้น ในตำหนักไท่หวงก็คงจะมีแต่นักกลั่นยาที่ตำแหน่งสูงสุดสามคนสามารถกลั่นออกมาได้เท่านั้น คนอื่นทำไม่ได้ นางทำได้อย่างไร หรือนี่จะเป็นฟ้าประทาน ไม่มีใครเทียมได้
“ป้าฟาง ”น้ำเสียงของจูนจิ่วเย็นลงอีกหลายส่วน
เมื่อได้สติ ป้าฟางก็ขมวดคิ้วแน่น สุดท้ายก็พยักหน้า“เจ้าผ่านแล้ว แต่เจ้าคงไม่โชคดีอย่างนี้เสมอไป ยิ่งไปถึงจุดสุดท้ายก็ยิ่งจะลำบากขึ้น อันตรายขึ้น จูนจิ่วเจ้าจะไม่ออกจากการแข่งขันจริงหรือ ”
ได้ยินคำพูดของป้าฟาง ทุกคนต่างมีสีหน้าแปลกประหลาด
จูนจิ่วยิ้มเย็น พูดว่า “แต่ไหนแต่ไรข้าพึ่งพาแต่พลังของตนเอง เพียงแต่โชคของข้านั้นดีกว่าคนทั่วไป ฉะนั้นข้าต้องชนะในตอนสุดท้ายแน่ทำไมข้าต้องถอยด้วย”
ป้าฟางนิ่งขรึม นางพูดได้มีเหตุผลมาก ข้าไร้คำโต้ตอบ
เดิมทีคิดจะหาเรื่องจูนจิ่ว ทำให้นางต้องพ่ายแพ้จนต้องถอนตัวและส่งนางกลับไป ปรากฏว่าถูกตบหน้าซ้ำๆ
นางทำสำเร็จแล้ว ไม่เพียงแต่ทำสำเร็จ ยังออกมาดีจนน่าเหลือเชื่อ
ป้าฟางได้แต่ขมวดคิ้วแน่น หันไปคิดหาหนทางอื่น นางต้องทำให้จูนจิ่วแพ้ให้ได้
คนอื่นๆไม่ว่าใครก็สำเร็จได้ ล้วนสามารถเข้าร่วมการแข่งขันนั้นได้ แต่นางไม่ได้ มีเพียงนางที่จะไปร่วมด้วยไม่ได้ ไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าคนของตำหนักไท่หวงเหล่านั้น ป้าฟางกำหมัดไว้แน่น เห็นทีนางคงต้องคิดแผนที่ยากที่สุดอันตรายที่สุดซะแล้ว
ทุกคนต่างจากไปแล้ว เหลือเพียงพวกซิงโล่เฉินที่ยังยืนนิ่งแข็งอยู่กับที่
รอจนไม่มีคนแล้ว ซิงโล่เฉินหันไปมองทางเฟยชิงทันที สายตาอาฆาตมาดร้าย “เฟยชิง ข้าให้เจ้ามายืนยันว่าจูนจิ่วเล่นโกง ไม่ใช่ให้เจ้ามาเป็นรูปปั้นแกะสลัก ”
“แต่ว่าไม่มีใครสู้กับนางได้ พวกเราเอาหลักฐานออกมาไม่ได้ ”เฟยชิงพูด
“สมควรตาย ”
“ศิษย์พี่ซิง”หงยิงร้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน ดวงตานางกลอกไปมาครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าสังเกตว่าป้าฟางเหมือนจะมีความคิดเห็นต่อจูนจิ่ว เห็นได้ชัดว่าจ้องเล่นงานจูนจิ่ว ไม่สู้พวกเราไปบอกกับอาจารย์ ดูสิว่าจะสามารถดึงป้าฟ้างเข้ามาช่วยต่อกรกับจูนจิ่วได้หรือไม่”
“ฮึ นางแค่อยากจะส่งจูนจิ่วออกไปเท่านั้น แต่ไม่ได้อยากจะฆ่านาง ”ซิงโล่เฉินฮึเสียงเย็น
หงยิงยิ้ม ยิ้มด้วยความโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้คนที่เห็นต้องขนลุก เพชฌฆาตหญิงของเทียงฉิวเหมือนจะคิดแผนการร้ายกาจอะไรบางอย่าง
หงยิงเขยิบไปที่ข้างหูซิงโล่เฉิน เอ่ยเสียงต่ำว่า “ศิษย์พี่ซิง พวกเราก็ไม่ต้องให้ป้าฟางรู้ก็พอ บอกนางว่า พวกเราไม่ชอบจูนจิ่ว อยากให้จูนจิ่วออกไป นางต้องช่วยพวกเราแน่ พวกเราแก้การประเมินสักหน่อย ให้นางตายอย่างเงียบๆ ”