บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่ 474 ตู๋กูชิงน่าคลื่นไส้จริงๆ
จูนจิ่วร้ายกาจมากมิใช่หรือ ฉลาดมากมิใช่หรือ มีคนมากมายคอยปกป้องนาง เป็นห่วงนางมิใช่หรือ
ฮ่าๆๆ นางจะฉลาดแค่ไหน ก็ยังถูกนางเล่นงานอยู่ดี รอให้พิษกู่หลงรักออกฤทธิ์ หญิงสาวที่ต่อให้มั่นคงแค่ไหนก็ต้องพ่ายแพ้และสูญเสียพรหมจรรย์กับความเป็นตัวเองไป ก็เหมือนกับสุนัขตัวหนึ่งที่คอยร้องขอความเมตตาสงสาร นางรู้สึกอดใจรอไม่ไหวที่อยากจะเห็นแล้ว ท่าทีของจูนจิ่วที่ตกต่ำน่าสงสาร นางยังอยากจะให้พวกชิงหยู่มาเห็นด้วย ลักษณะของจูนจิ่วที่ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีไร้ยางอาย
แต่เสียดาย หงยิงเห็นแววตาของตู๋กูชิงแล้ว นางก็กระตุกมุมปากคุกเข่าลงคำนับและถอยออกไป ใช้มือที่เพิ่งจะต่อกระดูกเสร็จข้างหนึ่งบีบหลังคอของเสี่ยวอู่เอาไว้แน่น
เมื่อครู่ตอนที่ตู๋กูชิงโยนมา ทำให้เสี่ยวอู่กระเทือนจนสลบไปแล้ว หงยิงก้มลงมองเสี่ยวอู่ยังคงจำความร้ายกาจของกรงเล็บของมันได้ ไม่ช้าหงยิงก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาด้วยใบหน้าโหดเหี้ยมบิดเบี้ยว ไม่มีกรงเล็บแล้วก็เป็นแค่สัตว์เดรัจฉานที่ไม่ว่าใครก็ล้อเล่นได้ ก็เหมือนจูนจิ่ว
ฮ่าๆๆ ในที่สุดนางก็ได้แก้แค้นแล้ว
เดินออกไป หงยิงพึมพำอย่างบ้าคลั่งว่า “ฮ่าๆๆ ถูกพิษกู่หลงรักมันสะใจกว่าการฆ่าเจ้าเสียอีก ข้าอยากเห็นเจ้ามีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ยิ่งอนาถยิ่งดี ”
หงยิงจับตัวเสี่ยวอู่จากไปแล้ว ที่นี่เหลือเพียงตู๋กูชิงกับจูนจิ่ว
ตู๋กูชิงยังคงฉีกยิ้ม มองจูนจิ่วอย่างสงสาร เขาพูดว่า “จูนจิ่วปล่อยวางซะเถอะ อย่าได้ต้านทานดิ้นรนเลย เจ้าดูซิหน้าเจ้าก็ขาวซีดแล้ว เจ็บปวดเปล่าๆ ปล่อยวางเสียเถอะ หลงรักข้ามันยากขนาดนั้นเชียวหรือ”
“หึ”จูนจิ่วไม่มีเวลาตอบกลับตู๋กูชิง
นางกำลังเตรียมจะไปจากที่นี่ คิดอยากจะกำจัดพิษกู่หลงรักให้สิ้นซากทั้งหมด ไม่สามารถอยู่ที่นี่ต่อไปได้ นางจำเป็นต้องไปหาสถานที่ที่เงียบสงบและปลอดภัยเพื่อจัดการ นางต้องการเวลา
แต่แววตาของจูนจิ่วนิ่งขรึมลง นางติดต่อกับเหลิ่งยวนไม่ได้
ตู๋กูชิง “เจ้ากำลังรอให้องครักษ์ของเจ้าคนนั้นกลับมาช่วยเจ้าหรือ อย่ารอเลย เขาคงไม่ได้กลับมาในเร็วๆนี้ หึหึ เมี่ยวยู่เอ๋อฆ่าได้ง่าย แต่ตำหนักไท่หวงไม่ใช่ที่ที่ใครก็สามารถบุกรุกเข้ามาได้ อีกทั้งหากรอจนเขากลับมา พิษกู่หลงรักก็คงออกฤทธิ์แล้ว เจ้าก็กลายเป็นผู้หญิงของข้าไปแล้ว ”
สีหน้าเย็นชา สายตาของจูนจิ่วมีแววรังเกียจและแววสังหารวาบผ่าน
ตู๋กูชิงช่างน่าคลื่นไส้จริงๆ
นางขยับนิ้วมือเบาๆ เงยหน้าขึ้นมองตู๋กูชิงด้วยสายตาเย็นเยียบ จูนจิ่วเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าคิดว่า ข้าได้แค่พึ่งเหลิ่งยวนมาช่วยข้าเท่านั้นหรือ”
ตู๋กูชิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย “ยังมีใครอีก”
“ตัวข้าเอง”เสียงพูดเพิ่งจะสิ้นสุดลง จูนจิ่วยกมือขึ้นทำท่าประสานนิ้ว ตู๋กูชิงปฏิกิริยาเร็วกว่า เขายื่นมือจะจับไปยังจูนจิ่วขณะที่เพิ่งจะสัมผัสถูกจูนจิ่วทันใดนั้นก็ถูกม่านกั้นที่เปิดขึ้นมาอย่างกะทันหันชนออกไป บริเวณที่ผิวกายกับม่านกั้นสัมผัสกัน มีความปวดแสบปวดร้อน ตู๋กูชิงก้มลงมองดู เขาถูกไฟลวกบาดเจ็บ
นี่มันอะไรกัน สามารถทำร้ายนักจิตใหญ่ชั้นเก้าได้
เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ตู๋กูชิงก็ตกใจจนม่านตาหดลง กุญแจเวลา
จูนจิ่วทำท่าประสานมือไว้ที่อก กุญแจเวลาบินออกมาหมุนวนอยู่ตรงด้านหน้าของจูนจิ่ว พลังทิพย์หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง กุญแจเวลาลูกบอลสีทองเปิดออก เผยให้เห็นสีทองสว่างสดใสที่อยู่ด้านใน ชั่วพริบตา เวลาถูกผนึกหยุดนิ่งลง ตู๋กูชิงที่ยื่นมือออกไปทางจูนจิ่วอีกครั้งก็ถูกสะกดนิ่ง
ราวกับกดปุ่มหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ นอกจากจูนจิ่ว
“ฟู่ค๊อกแค๊ก”ไอจนเลือกไหลออกมา จูนจิ่วสีหน้าขาวซีดยกมือขึ้นเช็ดรอยเลือดที่มุมปาก
พลังในร่างกายสองในสามส่วนได้ถูกใช้เพื่อยับยั้งสะกดพิษกู่หลงรักไม่ให้ออกฤทธิ์ ที่เหลือหนึ่งในสามส่วนใช้เพื่อเปิดกุญแจเวลาซึ่งมีพลังไม่มากพอ ทำร้ายพลังชีวิต ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็คุ้มค่า จูนจิ่วจ้องมองตู๋กูชิงที่เคลื่อนไหวไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
นางอยากจะฆ่าตู๋กูชิง แต่เวลาไม่มากพอ
จูนจิ่วได้แต่รวบรวมพลังทิพย์ให้กลายเป็นเข็มเงิน ทิ่มแทงไปยังจุดฝังเข็มของตู๋กูชิง จากนั้นก็ยกขาขึ้น เตะตู๋กูชิงกระเด็นไปในทะเลสาบ ทำทุกอย่างจบแล้ว จูนจิ่วหมุนตัววิ่งหนีไปทันที นอกจากพลังที่ใช้สกัดกั้นพิษกู่หลงรักแล้ว ที่เหลือล้วนถูกใช้ในการทำความเร็วทั้งหมด
แต่การทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นนั้น ใช้เวลาสั้นๆเพียงสามวินาทีเท่านั้น
วินาทีที่สี่ วินาทีที่ห้า
ฟัง
ผิวน้ำของทะเลสาบระเบิดขึ้นอีกครั้ง ตู๋กูชิงเหาะออกมาจากทะเลสาบ สีหน้าของเขาโหดเหี้ยมไม่น่าดูอย่างที่สุด จ้องมองไปยังทิศทางที่จูนจิ่วจากไปด้วยสายตาอำมหิตเต็มไปด้วยไอสังหารกำลังจะตามไป ทันใดนั้นร่างกายก็เกิดกระตุกเจ็บปวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ตู๋กูชิงได้แต่หยุดลง
“อ๊าก”ตู๋กูชิงเจ็บปวดจนต้องคำรามเสียงดัง เขาใช้พลังสำรวจภายในร่างกาย พบว่าเป็นเข็มเงินที่จูนจิ่วเพิ่งจะทิ่มแทงเข้าไปในร่างกายทำพิษ
ตู๋กูชิงรีบหมุนวนพลังทิพย์เพื่อที่จะกำจัดเข็มเงินเหล่านี้ แต่เข็มเงินราวนี้ราวกับมีชีวิตและจิตรับรู้ แล่นไปตามเส้นลมปราณของเขาอย่างผิดปกติและเจ้าเล่ห์
ตู๋กูชิงได้แต่เสียเวลามากขึ้น ค่อยๆทำลายไปทีละจุด เขาก็คิดจะไม่สนใจเป็นการชั่วคราว ไปจับตัวจูนจิ่วให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน แต่พอก้าวเท้าออกไปก็รู้สึกเจ็บเหมือนอวัยวะภายในจะฉีกขาด
ตู๋กูชิงตะคอกเสียงดัง “เด็กๆ”
องครักษ์ที่สวมชุดลายปักสีเงินปรากฏตัวขึ้น ดวงตาทั้งคู่ของตู๋กูชิงโกรธแค้นจนแดงก่ำ “ล้อมหมู่ตำหนักเอาไว้ ค้นหา แม้ต้องขุดลงไปใต้ดินก็ต้องจับตัวจูนจิ่วไว้ให้ได้ ”พูดจบ เหมือนตู๋กูชิงจะนึกอะไรบางอย่างออก เขาพูดขึ้นอีกว่า “ตีนางให้สลบก็พอ จากนั้นก็รีบจับตัวนางกลับมาให้ข้าทันที ”
“ขอรับ”เหล่าองครักษ์คำนับ ไหวตัวไปทั้งสี่ทิศเพื่อทำการไล่ค้นหา
“จูนจิ่ว ข้าต้องจับตัวเจ้าได้แน่ เจ้าอย่าคิดว่าจะหนีพ้น”ตู๋กูชิงกัดฟันคำรามด้วยเสียงต่ำ
……
สายตาเริ่มพร่ามัวใกล้เป็นลมแล้ว จูนจิ่วกัดฟันไว้แน่น ในมือนางกำหินทิพย์เอาไว้ ดูดซับพลังจากหินทิพย์อย่างไม่ขาดช่วงเพื่อเสริมพลังที่สูญเสียไปในการสะกดกั้นพิษกู่หลงรัก
นางเป็นนักกลั่นยา นางรู้ดีกว่าใครว่านางประวิงเวลานานเกินไปแล้ว เกรงว่าก่อนที่จะทำการแก้พิษกู่หลงรัก พิษกู่หลงรักจะออกฤทธิ์ซะก่อน
ถ้าหากออกฤทธิ์ขึ้นมา ……หางตาของจูนจิ่วเหลือบไปมองกระดิ่งที่อยู่บนข้อมือแวบหนึ่ง มุมปากที่ขาวซีดค่อยๆเม้มขึ้น จูนจิ่วใช้ปลายเท้าจรดไปที่พื้น ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ด้วยพลังฝึกฝนของนางในตอนนี้ ได้แต่ใช้กุญแจเวลาในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น การกักตัวคนอย่างตู๋กูชิงที่เป็นนักจิตใหญ่ชั้นเก้า มากที่สุดก็ห้าวินาที
นางสามารถทำได้เพียง ใช้เข็มพลังทิพย์ในการตรึงจุดฝังเข็มของตู๋กูชิงเอาไว้ สามารถยับยั้งเขาไว้ได้นิดหน่อยก็ดี แต่ที่นี่คือตำหนักไท่หวง ไม่ช้าตู๋กูชิงต้องไล่ตามทันแน่ ในสายตาของจูนจิ่วมองเห็นคนคนหนึ่งเข้า
ใช่แล้ว
ลี่หยุนซูกำลังเดินอยู่บนถนน นางก้มหน้าลงต่ำ สีหน้าเคร่งขรึมไม่น่าดู ลี่หยุนซูพึมพำ “จะไปหาจูนจิ่วดีหรือไม่ จะไปหาดีหรือเปล่า”
ทันใดนั้นไหล่ก็ถูกคนตบเข้าให้หนึ่งที ลี่หยุนซูหันไปเห็นเป็นจูนจิ่วก็หลุดปากพูดออกไปทันทีว่า “จูนจิ่วเจ้ายังกล้ามาหาข้าอีกหรือ เจ้ามันคนหลอกลวง เจ้า ……”ถูกสกัดจุด ลี่หยุนซูพูดไม่ออกอีก
จากนั้นนางก็ฟังจูนจิ่วที่พูดด้วยน้ำเสียงต่ำและแหบพร่า ราวกับต้องคำสาปของแรงดึงดูดจากพิษกู่“มองข้า”
เงยหน้าขึ้นมาสบตากับจูนจิ่วอย่างควบคุมไม่ได้ สติของลี่หยุนซูมึนงงไม่ชั่วครู่ สีหน้าค่อยๆเปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง ม่านตาว่างเปล่าไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ พลังของลี่หยุนซูนั้นไม่เลว แต่สติบอบบางเกินไปง่ายต่อการควบคุมนาง
เห็นว่าสำเร็จแล้ว จูนจิ่วรีบสั่งการทันที “พาข้าไปยังที่พักของเจ้า ใช้เส้นทางที่มีคนใช้น้อยมากที่สุด”
ลี่หยุนซูพยักหน้ารับ หมุนตัวนำทางไป จูนจิ่วหายใจลึกๆหนึ่งเฮือก นางพลางเดินพลางจับเข็มเงินทิ่มไปยังจุดฝังเข็ม สกัดกั้นพิษกู่หลงรักอย่างสุดกำลัง มือหนึ่งก็ล้วงเข้าไปยังช่องว่างแห่งเวลาเอายาทาออกมาทาบนไปหน้าอย่างรีบร้อน สามารถเห็นด้วยตาเปล่าว่า สีผิวของจูนจิ่วค่อยๆดำคล้ำลงไป นางดึงทึ้งเสื้อผ้าโยนเข้าไปในช่องว่างแห่งเวลาอย่างกักขฬะ จากนั้นก็เอาชุดเสื้อผ้าที่ไม่สะดุดตานักออกมาสวมใส่ ใส่เสร็จแล้วหลังที่ยืดตรงก็ค่อยๆโค้งงอลง
แม้ว่าจะรีบร้อนจนดูน่าสมเพช แต่ขอเพียงไม่จ้องมองดูจูนจิ่วในระยะใกล้ๆ ก็ไม่มีทางรู้ว่าเป็นนาง คงได้แต่คิดว่าเป็นคนรับใช้ข้างกายของลี่หยุนซู