บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่110สัตว์ทิพย์ระดับหนึ่งเสือโคร่ง
บทที่110สัตว์ทิพย์ระดับหนึ่งเสือโคร่ง
หลังจากที่อ้วกเสร็จแล้วทานยาถอนพิษเป็นที่เรียบร้อยเหอจงโล่งอกพิงกำแพงแล้วถอนหายใจออกมาใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว“เจ้าไท่ซ่างฮ่องบ้านี่มักชอบทำแผนการของข้าพังจนหมด!”
โชคดีที่เขาเตรียมตัวมาก่อนแล้วได้จูนหยูนเสวี่ยพูดตื่นสติไว้ทำให้เหอจงเตรียมแผนสำรองไว้และนี้ก็คือสถานการณ์ที่สอง!ถ้าเกิดเฟิ่งเซียวไม่ได้อยู่ที่นั้นด้วยนิสัยของโล่ชิวเห้อคงไม่มีการลังเลดื่มถ้วยชาที่ใส่ยาพิษของเขาเข้าไปทันที
สายตาของเหอจงเต็มไปด้วยความชั่วร้ายเปิดปากพูดด้วยเสียงที่ชั่วร้าย“รอก่อนเถอะ!รอให้เจ้าเฒ่าโล่ชิวเห้อตายก่อนสำนักเทียนโจ้งก็จะกลายเป็นของเหอจงคนนี้!ถึงเวลานั้นข้าจะไล่เฟิ่งเซียวออกไปจากสำนักเทียนโจ้ง!”“ฮ่าๆๆ!หลังจากผ่านไปเจ็ดวันพิษของลำโพงจากเริ่มออกฤทธิ์โล่ชิวเห้อจะกลายเป็นคนอัมพาตที่เป็นเศษขยะดีๆนี่เองถึงเวลานั้นข้าแค่ต้องค่อยอยู่ดูแลรักษาเขาด้วยความห่วงใยให้เหล่าลูกศิษย์ได้เห็นด้านที่ดีจากนั้นอีกสิบวันพิษจะซึมเข้าสู่ไขกระดูกจนตาย!ตอนที่หยูนเสวี่ยกลับมาข้าก็คงนั่งอยู่ในตำแหน่งอาจารย์ใหญ่แล้ว!”
เหอจงหัวเราะเสียงดังเหมือนกับได้เห็นความสำเร็จของอนาคตอันใกล้ภูมิใจด้วยความหยิ่งผยองรอด้วยความตื่นเต้น
พวกจูนหยูนเสวี่ยได้ออกความคิดเห็นที่ดีขนาดนี้!เขาจะต้องตอบแทนจูนหยูนเสวี่ยให้อย่างงามจำนวนเมล็ดของอู๋อจงจะต้องเหลือหนึ่งรายชื่อไว้ให้จูนหยูนเสวี่ย
กลับมาที่ข้างในห้อง
โล่ชิวเห้อจ้องมองเฟิ่งเซียวด้วยใบหน้าที่ยิ้มไม่ออก“ไท่ซ่างฮ่องท่านเป็นอะไรของท่าน?ข้าทำงานร่วมกับเหอจงมานับสิบปีรู้จักเขาเป็นอย่างดีแม้จะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและขี้ระแวงแต่ก็ไม่เคยเห็นเขาทำเรื่องอะไรที่มันเลยเถิดมาก่อน”
“อยากเอาจำนวนเมล็ดให้จูนหยูนเสวี่ยนี้ยังไม่เลยเถิดอีกเหรอ?”
โล่ชิวเห้อกลืนคอพูดด้วยเสียงที่ติดอ้าง“เขาก็มาขอโทษแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ฮึข้าดูก็รู้แล้วว่าเขามีแผนร้ายแน่!ถ้วยชาเมื่อกี้เจ้าไม่ควรที่จะดื่มมันเข้าไปด้วยซ้ำ”หลังจากที่เฟิ่งเซียวครุ่นคิดอย่างละเอียดเขายังคงเชื่อสัญชาตญาณของตัวเองเคยมีคนคิดจะลอบสังหารเขาตอนอยู่ในสนามรบแต่ก็รอดมาได้ทุกครั้งเพราะสัญชาตญาณของตัวเองจะต้องไม่ผิดแน่!
แค่ไม่มีหลักฐานเฟิ่งเซียวจึงไม่กล้าฟันธงร้อยเปอร์เซนต์อีกอย่างมันยังเป็นเรื่องภายในของสำนักเทียนโจ้งแต่พอมองไปที่โล่ชิวเห้อเฟิ่งเซียนหยิบขวดยาออกมาจากแขนเสื้อตอนแรกเขาเทออกมาหนึ่งเม็ดจากนั้นก็เทเม็ดที่สองออกมาด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ
พอเห็นท่าทีของเขาโล่ชิวเห้อรู้สึกตกใจ“ไท่ซ่างฮ่องท่านกำลังทำอะไร?”
“นี้เป็นยาแก้พิษเสี่ยวจิ่วบอกว่ามันสามารถถอนพิษได้หลายชนิดต่อให้ถอนไม่ออกก็ยังสามารถหยุดฤทธิ์ของยาพิษไว้ได้ทำให้ช่วยชีวิตได้ทัน!ผู้อาวุโสโล่เป็นเพราะข้ากับเจ้ารู้จักกันมานับสิบปีข้าจะให้เจ้าสามเม็ดให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!”
“ฮ่าๆๆดีๆคนที่ไท่ซ่างฮ่องคนนี้ให้ความสำคัญมีไม่กี่คน”ฮ่องเต้ผู้สูงส่งที่ทำการเปิดประเทศมีอะไรที่เฟิ่งเซียวคนนี้ยังไม่มีอีก?แต่นี่เป็นครั้งแรกที่โล่ชิวเห้อเห็นว่าเฟิ่งเซียวให้ความสำคัญกับสิ่งของขนาดนี้
และนี่ก็เป็นแค่ยาที่จูนจิ่วเป็นคนกลั่นออกมายังไม่ใช่ของที่หามาไม่ได้แต่เฟิ่งเซียวก็ยังให้ความสำคัญขนาดนี้ดูเหมือนว่าเฟิ่งเซียวจะเอ็นดูจูนจิ่วมากกว่าที่คิด!
คนที่รับยามาสามเม็ดอย่างโล่ชิวเห้อยังไม่รู้ว่าเร็วๆนี้เขาจะต้องขอบคุณยาที่จูนจิ่วที่เป็นทำทำให้ชีวิตของเขาไว้ได้ทัน!
เรื่องต่อจากนี้ยังไม่ต้องรีบเล่ากลับมาที่เทือกเขาของเขาปู้หว่งก่อน
หลังจากที่ถึงรุ่งอรุณของเช้าวันต่อมาทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็เก็บข้าวของและเตรียมตัวออกเดินทางหลังจากที่เข้าไปเขาปู้หว่งพวกเขาต้องถืออาวุธไว้ตลอดเวลาเผื่อกรณีที่ต้องเจอการอันตรายจะได้เอามาป้องกันตัวได้ทัน
หลังจากเดินเข้ามาในป่าทิ้งสายตาของจูนหยูนเสวี่ยกับเฟิ่งเทียนฉี่ไว้ข้างหลังจูนจิ่วไม่ได้เลือกทางเดินที่ชัดเจนนางแค่เดินดูเขาปู่หว่งตามใจตัวเองมีเวลาการฝึกอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนพอดีกับที่นางจะได้ฝึกรบเพิ่มฝีมือและประสบการณ์ของตัวเอง
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยไม่คิดที่จะโต้แย้งความคิดของจูนจิ่วส่วนกู่ซงน่ะเหรอ?ถ้าเกิดเขาคิดจะโต้แย้งล่ะก็พวกหยูนเฉียวทั้งสองคนคงอดใจไม่ไหวที่จะไล่เขาออกไป!กู่ซงไม่มีวันให้พวกเขาสองคนมีโอกาสแน่
กลุ่มของพวกเขามีเพียงแค่สี่คนเป็นกลุ่มที่มีคนน้อยที่สุดของผู้เข้าร่วมในครั้งนี้แน่นอนว่ามันก็ดึงดูดความสนใจของสัตว์ทิพย์ได้มากที่สุด
“คำราม!”
เสือโคร่งสัตว์ทิพย์หนึ่งตัวกระโดดออกมาจากพุ่งไม้ปากที่กว้างใหญ่ของมันหันไปทางจูนเสี่ยวเหล่ยพอผ่านการฝึกมาจากจูนจิ่วประสาทสัมผัสจูนเสี่ยวเหล่ยรวเร็วขึ้นมานางกลิ้งหลบการโจมตีของเสือโคร่งสัตว์ทิพย์หยูนเฉียวพุ่งเข้าไปยกขาขึ้นและเสริมพลังทิพย์ไว้ต้นขาและเท้าเตะเข้าไปที่ร่างตัวของเสือโคร่งสัตว์ทิพย์จนล้มลงไป
คำราม!
เสือโคร่งสัตว์ทิพย์คลานขึ้นมาแล้วสะบัดหัวตัวเอง
กู่ซงยืนอยู่ข้างๆอย่างสบายๆแล้วมองไปที่หยูนเฉียนและจูนเสี่ยวเหล่ยที่กำลังต่อสู้กับเสือโคร่งสัตว์ทิพย์พอเห็นจูนจิ่วกว้างสายตามาที่เขากู่ซงจึงยิ้มแล้วตอบไปว่า“แค่เสือโคร่งสัตว์ทิพย์หนึ่งตัวพวกเขาจัดการได้สบายๆอยู่แล้ว!ไม่จำเป็นที่ข้าต้องลงไปแย่งผลงานพวกเขา”
จูนจิ่วพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า“แล้วถ้าเกิดสองตัวล่ะ?”
“อ้า?”
ระหว่างที่กู่ซงกำลังงงกับคำพูดอยู่ก็มีเสียงร้องของเสือดังขึ้นมาอีกทางเสือโคร่งสัตว์ทิพย์ตัวที่สองพุ่งออกมาจากข้างหลังและล้อมรอบพวกเขาไว้กู่ซงเบิกตาโต“มาจากข้างหลังงั้นเหรอ!เจ้าสัตว์ทิพย์นี้ฉลาดนี้เลยเหรอรู้จักจู่โจมสองทางด้วย?”
จูนจิ่วขยับขาร่างกายเบาเหมือนกับนกนางแอ่นแล้วบินขึ้นไปบนยอมไม้มองดูเสือโคร่งสัตว์ทิพย์ตัวที่สองที่กำลังวิ่งไล่กู่ซง
ส่วนกู่ซงก็ทำเพียงแค่วิ่งหนีเสือโคร่งสัตว์ทิพย์ไปรอบๆไม่ได้มีความคิดที่จะลงมือทำอะไรมองด้วยความสงสัยจูนจิ่วขมวดคิ้วเสือโคร่งเป็นแค่สัตว์ทิพย์ระดับหนึ่งที่มีระดับต่ำสุดไม่มีทางที่กู่ซงจะรับมือไม่ได้ที่เขาไม่ยอมต่อสู้จะต้องมีเหตุผลแอบแฝงแน่
มองหยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยที่ใกล้จะจัดการเสือโคร่งได้แล้วแล้วพอมองมาที่กู่ซงเสี่ยวอู่สะบัดหางไปมาแล้วพูดขึ้นมา“เจ้านายให้ข้าลงไปจัดการเถอะ!ไม่งั้นเขาจะทำให้เจ้านายต้องเสียเวลาได้”
“ให้เจ้าไป?”
“อืมๆเมี๊ยว!เสี่ยวอู่เคยพูดว่าจะปกป้องเจ้านายเองเสี่ยวอู่เก่งมากนะจะบอกให้!”เสี่ยวอู่ยืดอกและพูดอย่างมั่นใจในฝีมือของตัวเองตัวน้อยๆที่ทั้งน่าภูมิใจและน่ารัก
จูนจิ่วยักคิ้วขึ้นแล้วเปิดปากพูดว่า“งั้นก็ได้ให้เจ้าเป็นคนจัดการถ้าเกิดจัดการไม่ได้อย่ามาร้องไห้ขอให้ช่วยชีวิตนะ”
“ไม่มีทางหรอกเมี๊ยว!”
เสี่ยวอู่หันตัวไปกระโดดออกไปอย่างรวดเร็วราวกับแสงมันวิ่งไล่เสือโคร่งสัตว์ทิพย์ใช้เวลาเพียงครุ่นเดียวก็ตามทันอุ้งตีนของมันได้ปล่อยกรงเล็บออกมาเสี่ยวอู่กระโดดขึ้นไปบนหลังของเสือโคร่งแล้วใช้กรงเล็บของตัวเองข่วนเข้าไปที่หลังของเสือโคร่งแมวข่วนไปเพียงไม่กี่ทีก็เกิดรอยกรงเล็บของแมวที่หลังของเสือโคร่ง
คำราม!
เสือโคร่งร้องด้วยความเจ็บปวดหยุดตามกู่ซงทันทีให้หันหัวมาจะกัดเสี่ยวอู่
แมวแค่ตัวเดียวแต่กลับไม่หนีและไม่กลัวเสือโคร่งแถมยังมีจิตสังหารออกมาอีกไม่ว่าเสือโคร่งจะโจมตียังไงก็ไม่สามารถโจมตีโดนแม้แต่หางของมันได้แต่กลับมีแผลข่วนของเสี่ยวอู่มากขึ้นเรื่อยๆทั้งเจ็บและโกรธในเวลาเดียวกันเสือโคร่งร้องตะโกนด้วยความโกรธ
มันเป็นถึงเสือเลยนะทำไมถึงถูกแมวรังแกจนมีสภาพแบบนี้?
เสือโคร่งกระโดดขึ้นมาหลังชนเข้ากับต้นไม้อย่างแรงจนสั่นอย่างรุนแรงเสี่ยวอู่ถูกเสือโคร่งทำให้เสียหลักโอกาสมาแล้ว!สายตาที่ดุร้ายของเสือโคร่งหันหัวแล้วอ้าปากที่ใหญ่ของมันฟันอันแหลกคมของมันพุ่งไปทางเสี่ยวอู่
ร่างที่ทั้งใหญ่และดุร้ายของเสือโคร่งกับแมวสีขาวตัวเล็กๆความต่างนี้คนที่เห็นต่างก็ต้องรู้สึกเป็นห่วง
จูนจิ่วยืนมองเฉยๆไม่ได้มีความคิดที่จะช่วยเพราะนางรู้อยู่แล้วว่าเสี่ยวอู่สามารถเอาชนะเสือโคร่งตัวนี้ได้!
เสือโคร่งกัดไปที่อากาศเสียงดังปังมันยกกรงเล็บของตัวเองไปทางเสี่ยวอู่เห็นเพียงแค่ร่างที่แข็งแกร่งของเสี่ยวอู่มันกระโดดเหยียบกรงเล็บของเสือโคร่งแล้วปีนขึ้นไปเปิดปากเล็กๆของมันแล้วกัดไปที่คอหอยของเสือโคร่ง
ฟันที่ดูเล็กนิดเดียวแต่กลับฉีดเนื้อออกได้อย่างง่ายดายกัดทะลุคอหอยของเสือโคร่ง!เลือดกระเซ็นออกมา