บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่112คงไม่ดุร้ายขนาดนั้นหรอกใช่ไหม
บทที่112คงไม่ดุร้ายขนาดนั้นหรอกใช่ไหม
ฮงลงลง——
เสียงเคลื่อนไหวของสัตว์ทิพย์ประมาณสองสามตัววิ่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง!
พวกเขาเหยียดคอออกมามองด้วยความตะลึงงันปรากฏเห็นสัตว์ทิพย์กลุ่มหนึ่งมีเสือดาวสิงโตและหมาป่ามีพร้อมทุกสิ่งเท่าที่ควรจะมีเดิมทีเมื่อเจอสัตว์ทิพย์เหล่านี้ต้องเข่นฆ่าให้ตายข้าถึงจะมีชีวิตรอดแต่ตอนนี้พวกมันวิ่งมุ่งเข้ามาตาแดงก่ำอย่างบ้าคลั่ง
หรือว่าจะเป็นยาที่เหมือนกัญชาแมวนี้ที่ดึงดูดให้พวกมันมาที่นี่!
สายตาที่หยูนเฉียวมองจูนจิ่วคล้ายกับมองเทพ!จูนจิ่วเก่งกาจมากจริงๆ
กู่ซงแบะปาก“สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์จูนจิ่วเผด็จการมาก!”
“หากว่าเจ้ายังรอช้าไม่ลงมือก็รอดูเฉยๆก็แล้วกันข้าจะเอาเจ้าและยาที่นี้ไปทิ้งไว้ในป่าลึก”น้ำเสียงของจูนจิ่วเย็นชาโหดร้ายและน้ำเสียงในคำพูดนั้นเยือกเย็นและโหดมาก
กู่ซงยิ้มแบบมีนัยแค่นึกถึงภาพนั้นเขาก็ตัวสั่นแล้ว
กู่ซงพูดด้วยความลำบากใจว่า:“จูนจิ่วคงไม่ดุร้ายขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?”
“ข้าเป็นคนพูดจริงทำจริง”
ระหว่างที่พูดนั้นกลุ่มสัตว์ทิพย์เหล่านั้นก็วิ่งพุ่งเข้ามาอยู่ตรงหน้าแล้วด้วยคำพูดนั้นของจูนจิ่วทำให้กู่ซงถึงกับพูดอะไรไม่ออกสีหน้าของเขากลัดกลุ้มใจเป็นอย่างมากจูนเสี่ยวเหล่ยก้าวเข้าไปอยู่ตรงกลางในกลุ่มสัตว์ทิพย์เหล่านั้น
จูนจิ่วเอาวิญญาณตนเองออกจากร่างนิ้วของนางวนไปวนมาริมฝีปากงุบงิบดั่งกำลังท่องมนต์คาถามาทดลองความแกร่งกล้าของร่างนี้กัน
นางหายตัวเข้าไปอยู่ในวงของสัตว์ทิพย์
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยรับมือกับสัตว์ทิพย์ชั้นหนึ่งได้อย่างยอดเยี่ยมแต่สัตว์ทิพย์ชั้นหนึ่งเหล่านั้นโจมตีเข้ามาอย่างบ้าคลั่งทำให้พวกเขาต่อสู้ด้วยความยากลำบากหลังชนกันโดยที่ไม่สามารถประมาทได้แม้แต่วินาทีเดียวแต่กู่ซงดูผ่อนคลายอีกทั้งยังดูเหมือนยากลำบากทำให้คนอื่นคาดเดาศักยภาพของที่มีอยู่ได้ยาก
แต่สายตาของเขามองไปที่จูนจิ่วในใจของทุกคนตอนนี้มีแค่ความเห็นเดียวคือจูนจิ่วเพี้ยนไปแล้ว!
เมื่อทุกอย่างผ่านไปมีแค่จูนจิ่วที่ยังอยู่ที่เดิมความเร็วของนางเร็วมาก!นางกำมือข้างหนึ่งพร้อมทั้งบินขึ้นบินลงทุกๆการปะทะจะมีหยดเลือดหยดลง!จริงๆแล้วการต่อสู้ในครั้งนี้เห็นได้อย่างแจ่มแจ้งว่าเป็นการต่อสู้แบบทารุณแต่เนื่องจากจูนจิ่วเข้าไปต่อสู้อยู่ในวงล้อมของสัตว์ทิพย์การเข่นฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณนี้กลายเป็นสิ่งที่สวยงาม
งดงามจนแยกแยะไม่ออกเลย
ความสวยงามที่ดุร้ายและเด็ดขาดชุดสีแดงสดดั่งเปลวไฟหน้าผากแผ่กระจายสายตาที่เย็นยะเยือกที่ไร้ซึ่งความปรานีหยดเลือดที่กระเด็นและเสียงร้องโหยหวนที่ดังก้องอยู่นั้นไม่สามารถทำให้นางเผลอเลยแม้แต่น้อยริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มอย่างไม่สนใจสิ่งใดเลย
นางจ้องเขาไปในดวงตาของสัตว์ทิพย์อย่างเสือจนกระทั่งเลือดของมันพุ่งออกมาจูนจิ่วเอียงตัวลอยขึ้นขาข้างนึงยกขึ้นถีบที่หัวของสัตว์ทิพย์อย่างหมาป่าเข้าอย่างรุนแรงมือข้างนึงของนางเหยียดกับพื้นจูนจิ่วกระโดดตัวขึ้นพร้อมทั้งลอยออกไป……
มีเงาบนคอของสัตว์ทิพย์อย่างเสือดาวเสียงที่กระทบกับพื้นดังขึ้นร่างของจูนจิ่วเหยียดลงพื้นพอดีจากนั้นก็ดึงหัวของสัตว์ทิพย์อย่างโดยที่ไม่กลับมา
ในสายตาของนางสัตว์ทิพย์แต่ละตัวพวกนี้ต่างก็รอความตายกันทั้งนั้น
บรู้ว——!
เสียงร้องอันแหลมคมของหมาป่าสัตว์ทิพย์อย่างหมาป่าที่มีลำตัวยาวเกือบสองเมตรยืนอยู่ตรงหน้าจูนจิ่วและหางของมันสองอันก็แกว่งไปมา!
หยูนเฉียวหันกลับมาเห็นพร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง“มันเป็นสัตว์ทิพย์ขั้นสองแม่นางจูนระวัง!”
สัตว์ทิพย์ขั้นสองอย่างนั้นเหรอ?
จูนจิ่วชูคิ้วขึ้นพร้อมทั้งยิ้มอย่างหยิ่งผยองนางควบคุมเงาร่างไปที่ลำตัวที่ยาวและสูงของหมาป่ามันจ้องมองจูนจิ่วอย่างเด็ดเดี่ยวจากนั้นมันก็พ่นพลังสีเขียวออกมาและไปกระทบกับสิ่งของจนมันระเบิดขึ้นพลังอานุภาพมันร้ายแรงมาก
ทุกคนดูเป็นกังวลใจเมื่อเห็นฝีเท้าของจูนจิ่วเคลื่อนเบาๆและเริ่มถอยจากพลังสีเขียวไปหลบที่ก้อนหินก้อนใหญ่แต่ก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
จริงๆแล้วสัตว์ทิพย์ขั้นสองยากที่จะรับมือ!
วิเคราะห์จากภายนอกสัตว์ทิพย์ขั้นสองกับนักจิตชั้นสองมีความเหมือนกันแต่สัตว์ทิพย์ขั้นสองนั้นทรงพลังมากกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ยาวกว่ามนุษย์มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ทิพย์ความสามารถและความเชี่ยวชาญของมันนั้นเก่งกาจมากแต่ระดับความอันตรายนั้นไม่สามารถเทียบกับนักจิตชั้นสามได้
ดูพวกเขาเหมือนตื่นตระหนกและร้อนใจเป็นอย่างมากแต่ด้านหน้าเขานั้นยังมีสัตว์ทิพย์ขวางอยู่จึงไม่สามารถเข้าไปช่วยจูนจิ่วได้
เสี่ยวอู่สองจิตสองใจเล็กน้อยเอาจริงๆมันจะเข้าไปช่วยก็ย่อมได้แต่มันรู้สึกว่าเจ้านายของมันไม่ชอบให้มันเข้าไปแส่ในขณะที่นางกำลังลงมืออยู่!ม๊าว!หรือว่าข้าจะฆ่าเหล่าสัตว์ทิพย์พวกนี้ให้ตายเสียเพื่อให้เจ้านายเก็บหัวเยอะๆการทำเพื่อเจ้านายไม่ใช่เป็นปัญหาของแมว!
เสี่ยวอู่ตัดสินใจลงมาช่วยเจ้านายของมันจากนั้นก็พุ่งเข้าไปในวงล้อมของเหล่าสัตว์ทิพย์และเอาเล็บอันแหลมคมของมันข่วนเหล่าสัตว์ทิพย์มันชอบกลิ่นของกัญชาแมวแต่ยาตัวนี้สามารถทำให้แมวชอบได้เท่านั้นมันกับบรรดาสัตว์ทิพย์เหล่านี้ไม่เหมือนกันมันทำให้หมดสติหรือๆไม่ก็อาละวาดขึ้น
ปัง!
จูนจิ่วเตะที่หลังของหมาป่าเข้าอย่างแรงตัวของหมาป่าแกว่งไปแกว่งมามันหมุนหัวไปกัดจูนจิ่วอย่างไร้ความปรานีและได้ยินเสียงปังเข้าหูแรงกัดของหมาป่าน่าทึ่งมาก
มันกัดไม่โดนจูนจิ่วมันจึงโกรธมากและพ่นพลังแสงสีเขียวออกมาอีกครั้ง
สายตาของจูนจิ่วลังเลเล็กน้อยท่าทางของนางเคร่งขรึมขึ้นพลังของสัตว์ทิพย์เหล่านี้แกร่งกล้ามาก!การเคลื่อนที่ของพลังแสงสีเขียวนี้ไปไกลกว่าครั้งแรกมาก
จะให้มันพ่นออกมาอีกไม่ได้แล้ว!
จูนจิ่วเหลียวหลังวิ่งเข้าหาหมาป่าโยวยิ่งในมือก็กลายเป็นป๋ายเย่นางง้างมือและรวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่ป๋ายเย่จากนั้นก็ฟันลงทันที!
เสียงคำรามคร่ำครวญ——
หมาป่าคำรามพร้อมทั้งปล่อยพลังแสงสีเขียวออกมาดาบของจูนจิ่วปะทะกับพลังของหมาป่าเปรี้ยง!
เสียงปะทะกันระเบิดขึ้นรอบๆผลพวงของพลังนั้นพลิกตัวมากระแทกกับสัตว์ทิพย์ตัวอื่นๆใบหน้าของหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ยซีดเซียวขึ้นพร้อมทั้งเอามือปิดหูไว้ในขณะที่กู่ซงและเสี่ยวอู่นั้นไม่มีปฏิกิริยาใดใดเลยพวกเขาแค่เหลือบไปมองตรงที่ระเบิดขึ้น
หลังจากที่ควันหายพวกเขาก็เห็นเงาด้านหลังที่เฉยเมยของจูนจิ่วจึงโล่งใจขึ้น
เมื่อมองดูจูนจิ่วสัตว์ทิพย์ขั้นสองอย่างหมาป่าก็เบิกตาโตขึ้นจากนั้นก็ล้มลงไปกับพื้นเห็นแค่ดวงตาของมันมีรอยดาบหมาป่าคิดไม่ถึงว่าตนเองจะต้องตายมันเป็นสัตว์ที่มีพลังแกร่งกล้ามากแต่ยังโดนจูนจิ่วทำร้ายด้วยดาบเช่นนี้
วิ๊ง!
เสียงวิ๊งของป๋ายเย่ดังขึ้นดูเหมือนว่ามันดีใจแทนจูนจิ่วที่ฆ่าศัตรูได้สำเร็จ
นี่เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์อย่างหนึ่งมันเหมือนโยวยิ่งกับป๋ายเย่มีชีวิตอย่างไรอย่างนั้นเลยพวกมันมีความสามารถหากำมันอยู่ในมือก็จะรู้สึกว่ามีพวกมันอยู่ด้วยนี่เป็นความชอบที่เรียบง่ายจูนจิ่วยิ้มมุมปากจากนั้นนางก็ใช้ผ้าไหมเช็ดเลือดออกจากโยวยิ่งและป๋ายเย่
นางเก็บโยวยิ่งและป๋ายเย่จากนั้นก็หันกลับไปมองทุกคน“พวกเจ้าจัดการเรียบร้อยดีไหม?”
“อืออือ!”สามคนพยักหน้าและนิ่งอึ้งไป
ดาบของจูนจิ่วเล่มนั้นยอดเยี่ยมไปเลย!
ต่อให้พวกเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเองแต่ดาบเล่มเดียวเท่านั้นที่ฆ่าสัตว์ทิพย์ขั้นสองอย่างหมาป่าลงได้หากเป็นคนอื่นไม่มีทางทำได้เด็ดขาด!จูนจิ่วยอดเยี่ยมจริงๆคารวะ!
“ยินดีด้วยที่เจ้าฆ่าหมาป่าได้สำเร็จหัวของสัตว์ทิพย์ขั้นสองหนึ่งหัวต้านทานต่อหัวของสัตว์ทิพย์ขั้นหนึ่งสิบหัว”กู่ซงกล่าวขึ้นด้วยความยินดี
จูนจิ่วยิ้มมุมปากจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมทั้งพูดขึ้นว่า:“แค่เจ้าคิดเจ้าก็ทำได้เช่นกัน”
กู่ซงได้ยินแล้วใจเต้นเล็กน้อย
จู่ๆก็ตะลึงขึ้นมาชั่วขณะจูนจิ่วรับรู้ถึงพลังของเขาเหรอ?ไม่สิเป็นไปไม่ได้!เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรในตัวเลยแล้วจูนจิ่วจะรับรู้ได้อย่างไรกันต้องเป็นแผนการของนางที่จะหลอกให้ตนเองเผยความจริงแน่
เมื่อคิดถึงตอนนี้แล้วกู่ซงก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อยจากนั้นก็เอามือลูบท้ายทอยไปมาด้วยความเก้อเขิน“จูนจิ่วเจ้าอย่าพูดล้อเล่นเช่นนั้นเลยข้าจะทำได้อย่างไรกัน?เหอะ”