บุปผาเสน่ห์หา หมอยายอดฝีมือ - บทที่116เขาคือนักจิตชั้นห้า
บทที่116เขาคือนักจิตชั้นห้า
ถึงแม้ว่ากู่ซงจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยและหมดเรี่ยวแรงลงไปแต่เขาก็กินยาของจูนจิ่วไปสองเม็ดหลังจากนั้นก็นั่งพักลง:“จูนจิ่วพวกเราโดนนักฆ่าตามฆ่าเกือบจะไม่ได้เจอเจ้าแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”จูนจิ่วถามขึ้น
กู่ซงและหยูนเฉียวเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้จูนจิ่วฟังเมื่อจูนจิ่วฟังแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นครุ่นคิดทันทีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตรงตามที่นางได้คาดเอาไว้แปดในสิบแต่เป้าหมายของนักฆ่าพวกนั้นคืออะไรยังไม่มีใครรู้
จูนจิ่วถามขึ้นว่า:“รู้หรือไม่ว่าพวกมันเป็นใคร?”
“ข้าไม่รู้แต่ไม่ใช่คนของแคว้นเทียนโจ้งแน่แคว้นเทียนโจ้งไม่มีอำนาจขนาดนั้นพวกมันเก่งกาจมากผู้นำมันเหมือนจะเป็นนักจิตชั้นหก!”
นักจิตชั้นหกเหรอ?เชอะ!
รองผู้นำของสำนักเทียนโจ้งเป็นนักจิตชั้นหกเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของแคว้นเทียนโจ้งไท่ซ่างหวังเป็นนักจิตชั้นเจ็ดผู้นำนักฆ่าเป็นนักจิตชั้นหกถือว่าเป็นผู้ที่มีคามสามารถมากช่างน่าทึ่งจริงๆ!
หยูนเฉียวพูดถูกคนของแคว้นเทียนโจ้งไม่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้
และตอนนี้กู่ซงก็พูดขึ้นว่า:“ข้าพอจะรู้ว่าพวกมันเป็นใคร
“เจ้ารู้อย่างนั้นเหรอ?มันเป็นใคร”จูนจิ่วหันไปมองกู่ซง
เดิมทีกู่ซงนั้นนอนเอนตัวอยู่หลังจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองจูนจิ่วที่ยืนอยู่ด้วยความปวดคอทันใดนั้นเขาก็พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งพิงกำแพงไว้
เขาพูดขึ้นว่า“พวกเจ้าเคยได้ยินพวกกลุ่มหมาป่าละโมบไหม?”
“กลุ่มหมาป่าละโมบเป็นพวกของสิบแคว้นที่มีความสามารถมากพวกกลุ่มหมาป่าละโมบเพื่อเงินแล้วสามารถฆ่าได้ทุกอย่างใช่หรือไม่?”
“ใช่!จูนจิ่วเจ้ารู้จักกลุ่มหมาป่าละโมบพวกนี้ไหม?”กู่ซงถามด้วยความแปลกใจ
จูนจิ่วเหลือบมองเขาและพูดออกมาว่า“เคยเห็นผ่านๆมาจากตำรา”
กลุ่มหมาป่าละโมบหนึ่งในสิบแคว้นมีการพูดถึงเล็กน้อยในแคว้นเทียนโจ้งและในขณะเดียวกันหากคิดจะต่อสู้กับพวกมันอย่างน้อยต้องเป็นนักจิตชั้นหกนี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย!
กู่ซงยกมือขึ้นคนแรกพูดว่า“ถึงอย่างไรแล้วนักฆ่าพวกนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าและแน่นอนว่าไม่เกี่ยวกับจูนเสี่ยวเหล่ยเจ้าคุณชายหยูนรองหรือไม่ก็จูนจิ่วหนึ่งในสองคนนี้ต้องมีคนใดคนหนึ่งที่เป็นเป้าของพวกมัน”
“หากเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นข้าพวกเจ้าก็พลอยซวยไปด้วย”
“หา?จะเป็นเจ้าไปได้อย่างไรกัน!”กู่ซงบอกว่าเป้าของพวกนักฆ่าคือนางและหยูนเฉียวแต่จูนจิ่วก็บอกแล้วแต่กู่ซงก็ยังคงสงสัยอยู่
ปฏิกิริยาของหยูนเฉียวก็ชัดไม่แพ้กัน“แม่นางจูนอาจจะไม่ใช่เจ้าก็เป็นไปได้!นักฆ่ามันเห็นพวกข้าแล้วก็ตามฆ่าทันทีพวกข้าต่างหากน่าจะเป็นเป้าของมัน”
การตอบสนองของหยูนเฉียวเร็วจึงทำให้แผลที่บาดเจ็บอยู่นั้นเจ็บปวดขึ้นมาใบหน้าของเขาซีดเซียวศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อเทื่อจูนจิ่วเห็นเช่นนี้แล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นหยิบไม้คฑาขึ้นมากดที่จุดฝังเข็มของเขาจากนั้นเขาก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
จูนจิ่วพูดว่า:“ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ก็ตามขอแค่เราหาพวกนักฆ่านั่นเจอพวกเราก็จะรู้เองแต่ข้าก็ยังสงสัยอยู่ในกลุ่มนักฆ่าเหล่านั้นยังมีนักจิตชั้นหกอยู่พวกเจ้าหนีรอดกันมาได้อย่างไรกัน?”
ขณะที่พูดนั้นจูนจิ่วก็หันไปจ้องหน้ากู่ซงคนเดียว
หยูนเฉียวกับจูนเสี่ยวเหล่ยเป็นแค่นักจิตชั้นหนึ่งถึงได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้พูดตามความจริงสองคนนี้ไม่มีทางหนีรอดแน่คนที่ช่วยสองคนนี้ไว้ก็คือกู่ซงและคนที่หนีได้รอดเพียงคนเดียวนั่นก็คือกู่ซง
โดนจูนจิ่วมองขนาดนี้แล้วกู่ซงรู้สึกเสียวหลังทันทีเขาเอามือลูบปลายจมูกเบาๆและพูดด้วยเสียงที่แหบแห้งว่า“ข้าเป็นคนพวกพวกเขาทั้งสองออกมาเอง”
“เจ้ารับมือกับนักจิตชั้นหกได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าเปล่าหรอกข้าก็แค่มีพรสวรรค์ในการวิ่งก็เท่านั้น!”กู่ซงพูดไปแบบนี้แต่ทันใดนั้นหยูนเฉียวก็พูดแทนเขา
หยูนเฉียวบอกว่า:“เขาคือนักจิตชั้นห้า”
“เป็นไปได้อย่างไร!หยูนเฉียวเจ้าพูดผิดไปหรือเปล่า?”กู่ซงโต้แย้งทันที
หยูนเฉียวอดทนกับความเจ็บและหันไปกวาดสายตาที่กู่ซงจากนั้นก็มองไปยังจูนจิ่ว“ข้าได้ยินผู้นำนักฆ่าคนนั้นบอกว่าเขาคือนักจิตชั้นห้าข้าได้ยินไม่ผิด!”
หยูนเฉียวอายุเยอะสุดแต่ไม่ถึงสิบแปดปีแต่กลับเป็นนักจิตชั้นห้าแล้ว!เห็นได้ว่าความสามารถของเขานั้นยอดเยี่ยมมากถึแม้ว่าจูนจิ่วจะเดามานานแต่ก็ไม่ได้เดาถึงขั้นนี้หลังจากที่รู้ถึงความสามารถของกู่ซงนางก็ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่
ถูกเปิดโปงขนาดนี้แล้วเสแสร้งไปก็เท่านั้น
กู่ซงยกมือยอมรับด้วยความลำบากใจ“ก็ได้ข้ายอมรับก็ได้ข้าเป็นนักจิตชั้นห้าถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะพาพวกเขาทั้งสองหนีจากกลุ่มหมาป่าละโมบพวกนั้นได้อย่างไรกันล่ะ”
จูนจิ่วหันไปมองหน้ากู่ซงแต่ก็ไม่ได้ทดสอบตัวตนของเขาที่เป็นนักจิตชั้นห้าแต่อย่างใดแค่เปรียบเทียบความสามารของเขากับรองผู้นำสำนักเทียนโจ้งอ่อนกว่าแค่ชั้นเดียวเพราะอะไรถึงยังไปเป็นลูกศิษย์ของสำนักเทียวโจ้งอีกและอีกอย่างเพราะอะไรถึงได้มาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเขาและเพราะอะไรถึงได้บอกว่าเพื่ออนาคตของนาง
นางปิดตาอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ลืมตาขึ้นมาด้วยความเยือกเย็นและพูดขึ้นว่า:“พวกเจ้ารักษาตัวอยู่ที่นี่ส่วนเรื่องนักฆ่าเหล่านั้นข้าจะจัดการเองข้าให้เวลาพวกเจ้าสามวันหลังจากสามวันพวกเราจะเดินทางเข้าไปในหุบเขาลึกในเขาปู้หว่ง”
“ไม่”หยูนเฉียวส่ายหน้า“แม่นางจูนข้ากับจูนเสี่ยวเหล่ยได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเวลาแค่สามวันพวกข้ายังรู้สึกอ่อนแรงอยู่แม่นางจูนเจ้าไม่ต้องสนใจพวกข้าหรอกเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือนเจ้าควรจะไปฝึกวิชาเถอะหากรอพวกข้าจะเป็นการเสียเวลาเจ้าเปล่าๆ”
“พี่หยูนเฉียวพูดถูก”จูนเสี่ยวเหล่ยฟื้นขึ้นมาแล้ว
นางได้ยินที่จูนจิ่วและหยูนเฉียวพูดหมดแล้วด้วยความที่จูนเสี่ยวเหล่ยได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสจึงไม่สามารถลุกขึ้นมาได้นางทำได้แค่มองหน้าจูนจิ่วแล้วกระพริบตาเท่านั้นและพูดต่ออีกว่า:“ฝีมือของพี่จูนจิ่วเห่งกาจและยอดเยี่ยมพี่ต้องฝึกได้ที่หนึ่งแน่ๆ!”
“ใช่แล้ว!แม่นางจูนเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราเจ้าไปเถอะ!กู่ซงเป็นนักจิตชั้นห้าพวกเจ้าทั้งสองก็เพียงพอแล้วส่วนข้ากับจูนเสี่ยวเหล่ยจะใช้ดอกไม้ไฟเพื่อขอความช่วยเหลือ”
“หุบปาก!”น้ำเสียงที่เย็นชาและแหบแห้งดังก้องขึ้น
เสี่ยวอู่ที่เงียบมาตลอดดั่งภาพวาดติดผนังเมื่อได้ยินเสียงที่ก้องขึ้นมันแกว่งหางไปมาทันทีมันร้องม๊าวม๊าวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเจ้านายของมันโกรธแล้ว!
สีหน้าของจูจิ่วเย็นชาจนทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก
นางชายตามองไปยังหยูนเฉียวและจูนเสี่ยวเหล่ย“พวกเจ้าสงสัยในวิธีการรักษาของข้าเหรอ?”
“เปล่านะเปล่า”สีหน้าของจูนเสี่ยวเหล่ยแทบจะร้องไห้ออกมาไม่เป็นเป็นเพราะนางกลัวแต่อย่างใดหยูนเฉียวและกู่ซงก็ตกใจเช่นกันแต่ก็ไม่ได้เปล่งเสียงอะไรออกมา
พวกเขาไม่เคยเห็นจูนจิ่วโกรธมาก่อนเมื่อเห็นเช่นนี้แล้วก็ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาน่ากลัว!เวลาที่จูนจิ่วโกรธน่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ?
“อย่าพูดว่าพวกเจ้าได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสต่อให้กระดูกหักสองท่อนหรือขาขาดข้าก็จะต้องช่วยให้เป็นเหมือนเดิมให้ได้เวลาแค่สามวันยังไม่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ?ข้าพูดคำไหนคำนั้นหรือพวกเจ้าเป็นอัมพาตเหรอ?”
ทั้งสามได้ยินแล้วก็กลัวขึ้น!
จูนจิ่ว:“ตอนนี้พักผ่อนกันก่อนรอตอนค่ำพวกเจ้าดีขึ้นข้าจะฝังเข็มให้”
“ได้!!”
เมื่อเห็นทั้งสามคมพยักหน้าอย่างเชื่อฟังจูนจิ่วเหอะขึ้นอย่างเย็นชามีนางอยู่ทั้งคนจะกลัวอะไร?มีคนอย่างจูนจิ่วที่มีความสามารถขนาดนี้ไม่พอหรือไง?หรือกลัวพวกนักฆ่าพวกนั้นจนอยากจะหนี?
ให้พวกเขาพักผ่อนเก็บเรี่ยวแรงเอาไว้เพื่อคืนนี้จะได้ทำการรักษาต่อ
ยามราตรี
โม่อู๋เยว่ยืนอยู่ด้านนอกจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้าทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องขึ้นในหลุมงูด้านหลังเหลิ่งยวนเดินเข้ามาด้วยความเงียบจากนั้นก็คุกเข่าทำความเคารพพร้อมกล่าวขึ้นว่า:“ท่านอาจารย์พวกนักฆ่ามันตามรอยพวกเรามาได้แล้วจะจัดการกับพวกมันยังไงดี?”
หมอคุณหนูจิ่ว