บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 110
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 110
ทันใดนั้นมาเดลีนรู้สึกว่าร่างกายของเธอเย็นลง เลือดในร่างกายของเธอดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง
เธอจ้องมองชายที่เยาะเย้ยคนนี้ด้วยความงุนงง เขาเหมือนกับซาตานในคืนที่มืดมิด ทั้งตัวของเขาเป็นสีดำ
ปรากฎว่าเขาอยากเห็นเธอตายจริงๆ
‘เจเรมี่ เร็วๆนี้มันจะเป็นไปตามที่คุณต้องการ’
‘ขอให้คุณยังคงสงบเหมือนในช่วงเวลานี้เมื่อวันนั้นมาถึง’
แต่นั้น แม้ว่าเมื่อเธอเริ่มมีความคิดที่จะจากโลกนี้ไปอย่างไม่หวนกลับและลืมผู้ชายคนนี้ไปตลอดกาล ถึงอย่างนั้น เธอ ยังคงรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากในส่วนลึกในใจ
จนถึงทุกวันนี้ เธอยังคงมีความรู้สึกบางอย่างให้กับเขา
น้ำตาของเธอเริ่มร่วงหล่นในทันที แต่ไม่ว่าน้ำตาของเธอจะร้อนแรงแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเธออบอุ่นได้
“ร้องไห้ทำไม? พยายามที่จะแกล้งทำเป็นน่าสงสารอักแล้วเหรอ?”
เจเรมี่หัวเราะเยาะ ความอบอุ่นนั่นคือ นิ้วเรียวอันอบอุ่นของเขาบีบคางเล็กนั่น เพื่อบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา
“คิดว่าฉันจะตกหลุมพรางของเธอเหมือนผู้ชายพวกนั้นเหรอ? ใบหน้าก็หายเป็นปกติแล้วทำไมยังเอาผ้าก๊อซมาพันอยู่อีกล่ะ? ไม่ต้องใช้กลอุบายนี้ต่อหน้าผม ผมกำลังรู้สึกขยะเเขยงเท่าที่ผมรู้สึกได้เลย!”
เขาพูดคำเหล่านั้นด้วยความรังเกียจ ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาสังเกตเห็นว่าสีแดงสดค่อยๆซึมผ่านผ้าก๊อซทันทีหลังจากที่แผลมาเดลีนฉีกขาด
สายตาที่มองของเจเรมี่เปลี่ยนไปในทันที เขาค่อยๆฉีกผ้าก็อซบนใบหน้าของมาเดลีน ผิวหนังเผยให้เห็นมีเนื้อเยื้อและบาดแผล และเลือดสีแดงของเธอสะท้อนภาพเข้ามายังม่านตาคู่นั้นของเขาในทันที
เจเรมี่ตกใจมาก การเยาะเย้ยและการดูถูกของเขาที่สบประหม่าเธอก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะกลับมากัดกินเขาในตอนนี้
“เอาคืนมานะ!” มาเดลีนรีบดึงผ้าก๊อซที่เปื้อนเลือดออกจากมือของเจเรมี่ จากนั้นเธอจับมันแปะเข้าที่เดิมด้วยมือที่สั่นเทา “อย่ามอง! หยุดมอง!”
เธออดทนต่อความเจ็บปวดที่แสนสาหัส ในขณะที่ใช้มือข้างหนึ่งปิดแก้มเธอและยืนขึ้นโดยใช้มืออีกข้างพิงกำแพงอย่างไม่มั่นคง
เจเรมี่มองไปที่รูปลักษณ์ของมาเดลีนในขณะนี้ สติของเขาหายไปไปชั่วขณะแต่เมื่อสติของเขากลับมา มาเดลีนได้วิ่งออกไปแล้ว
ร่างกายที่อ่อนแอลงของมาเดลีนกำลังแกว่งไปมาในขณะที่เธอสะดุดขณะลงบันได น้ำตาของเธอปนไปด้วยเลือดหยดลงตามนิ้วของเธอ เลือดของเธอไหลออกมาทำให้ใบหน้าของเธอซีดลง
บางอย่างในร่างกายของเธอกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง และค่อยๆแผดเผาชีวิตของเธอจนเกือบตาย
ละอองหิมะตกลงมาทีละเม็ด ทำให้ความรู้สึกหนาวเย็นที่มีของเธอลึกขึ้นกว่าเดิม
เธอมองไปเบื้องหน้าพร่ามัวมากขึ้นเรื่อยๆอย่างว่างเปล่า แต่ในใจของเธอ เธอหวนนึกถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในความทรงจำของเธอ
‘มันจะดีมากถ้าสิ่งต่างๆสามารถหยุดได้ในช่วงเวลาที่ดีเพื่อที่จะไม่มีการแยกกันระหว่างเรา และไม่มีการพบกันใหม่ ไม่มีความทุกข์ทรมานจากความทรมานในตอนนี้…’
ในที่สุดมาเดลีนก็ไม่มีแรงที่จะเดินต่อไป เธอล้มลงกับเสาและเลือดจากบาดแผลที่ไหลซึมบนแก้มของเธอเปื้อนหิมะที่ตกลงมา
เธอได้ยินเสียงคนเรียกเธออย่างเลื่อนลอยเจเรมี่ตะโกนเรียกชื่อเธอ เธอเห็นแม้กระทั่งเห็นชายคนนั้นวิ่งมาหาเธออย่างใจจดใจจ่อ จากนั้นเขาอุ้มเธอขึ้นมาด้วยความกังวลทั้งหมดที่มี
มาเดลีนรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังมีความฝันที่สวยงามอีกครั้ง จากความฝันที่ฝันถึงเขาจากที่ก่อนหน้านี้เขาคอยเป็นห่วงเธอมากขณะที่เขาอุ้มเธอที่ได้รับบาดเจ็บและมีเลือดออกที่หลังของเขา เธออิงแนบอกขณะที่เธอพูดอย่างเขินๆว่า “เจซ ฉันอยากอยู่ด้วยกันตลอดไป …”
…
มาเดลีนตื่นขึ้นมาก็เป็นวันรุ่งขึ้นแล้ว ในขณะที่เธอขยับตัว สิ่งแรกที่เธอรู้สึกคืออสการปวดแสบปวดร้อนที่แก้มขวา
เธอพยายามยกมือขึ้นโดยไม่รู้ตัวเพื่อสัมผัสใบหน้าของเธอแต่แล้วเธอรู้สึกว่ามือของเธอถูกบางสิ่งบางอย่างรั้งไว้ เธอหันหน้าสำรวจไปรอบๆสายตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นเจเรมี่กำลังนอนอยู่ข้างๆเธอ
มาเดลีนสติเลือนลอยคล้ายคนเพิ่งตื่นนอนของเธอหายไปในทันที เธอนึกไม่ถึงว่าเจเรมี่จะเบียดตัวเองลงบนเตียงเดี่ยวคับแคบกับเธอแบบนี้
เมื่อมองไปที่ ใบหน้ายามหลับที่มีเสน่ห์ของเขาใกล้ๆและการได้กลิ่นลมหายใจของเขา ส่งผลต่อหัวใจของมาเดลีนให้เต้นเร็วมาก
เธอหันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังไม่สามารถเพิกเฉยต่อลมหายใจของเจเรมี่ที่กระพริบอยู่ข้างหลังหูของเธอได้ เธอไม่สามารถเพิกเฉยต่อความอบอุ่นของหน้าอกกว้างของเขาที่แนบติดกับหลังเธอได้ ซึ่งมันร้อนมาก