บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 137
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 137
เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังอยู่ที่ไหน แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้น กลับเห็นเพียงเมเรดิธที่ยืนสูงอยู่เหนือเธอในขณะที่หล่อนก้มมองลงไปที่เธออย่างดูถูกเหยียดหยาม
“เธอตื่นแล้วเหรอ? ฉันคิดว่าเธอตายไปแล้ว มันจะน่าเบื่อมากหากเธอตายไปจริง ๆ”
เมเรดิธเยาะเย้ยขณะนั่งยองๆ จากนั้นเธอจับใบหน้าของมาเดลีนและบีบมันแน่น
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่เสียโฉมแต่ยังคงสวย เมเรดิธมีความรู้สึกอิจฉาเริ่มก่อตัวขึ้นจนความอาฆาตพยาบาทเริ่มเติมเต็มในดวงตาของเธอ
“มาเดลีน ฉันประเมินแกต่ำไป แม้อยู่ในสภาพนี้แต่ แกยังสามารถยั่วยวนผู้ชายได้!” เธอกดไปที่แผลของมาเดลีนที่เพิ่งเริ่มหาย “เธอหลอกล่อเจเรมี่ได้อย่างไร? กับสายตาที่น่าสมเพชของเธอเนี่ยนะ?”
ในที่สุดมาเดลีนก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอได้ยินสิ่งที่เมเรดิธพูด
เมเรดิธรู้เรื่องที่เขาใช้เวลาทั้งคืนกับเธอ นอกจากนี้ เมเรดิธยังจินตนาการถึงฉากที่พวกเขาพัวพันกันบนเตียง
เธอเย้ยหยันและหัวเราะออกมา เธอหัวเราะอย่างประชดประชันและในขณะเดียวกัน เธอก็หัวเราะในขณะที่รู้สึกยินดีที่หล่อนคิดเช่นนั้น “เป็นบ้าเหรอ? ดูเหมือนว่าเจเรมี่จะไม่ได้รักเธอขนาดนั้น ฮะ? ถ้าเขารักเธอจริง ๆ แล้วทำไมเขาถึงนอนกับผู้หญิงคนอื่นอีกล่ะ?”
“แก…”
เมเรดิธโกรธมาก เธอจับใบหน้าที่บาดเจ็บของมาเดลีนให้แน่นยิ่งขึ้น เมื่อบาดแผลปริแตกออกอีกครั้งพร้อมกับเลือดที่ไหลออก เธอปล่อยให้คำพูดที่เหลวไหลพวกนั้นออกมาจากปากมาเดลีนอย่างไม่ทันได้ระวัง
มาเดลีนเจ็บปวดมากจนใบหน้าของเธอซีดเซียว อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ส่งเสียงร้องใด ๆ ออกมา
เมเรดิธอยากเห็นมาเดลีนเจ็บปวด แต่เธอปฏิเสธที่จะส่งเสียงหรือร้องไห้
สิ่งนี้ทำให้เมเรดิธร้อนรน เธอยกขาขึ้นเตะมาเดลีนที่ท้อง ในที่สุด เธอก็ได้ยินเสียงครวญครางแสนบางเบา
เมเรดิธเริ่มเตะมาเดลีนที่ไร้ที่พึ่งซ้ำ ๆ ราวกับว่าเธอเป็นบ้าไปแล้ว
“กรี๊ดดดดดดด! มาเดลีนนังแพศยา! แกยังมีหน้ามาหลอกล่อเจเรมี่และปฏิเสธที่จะหย่ากับเขา!”
“ฮ่าฮ่า…ฉันจะไม่มีวันหย่ากับเขา! เมเรดิธ เธอจะเป็นเมียน้อยตลอดไป!” มาเดลีนมองไปที่เมเรดิธด้วยสายตาที่ดื้อรั้นโดยไม่แสดงความอ่อนแอของเธอ
ตอนนี้ใบหน้าของเมเรดิธดำราวกับถ่านหิน เมื่อเธอมองไปที่ดวงตาที่ใสและสวยงามของมาเดลีน เธอได้ดึงผมของมาเดลีนอีกครั้ง
“มาเดลีน ทำไมเธอถึงภูมิใจกับตัวเองขนาดนี้? ฉันจะดูว่าเธออดทนได้นานแค่ไหน เธอมีเวลาสูงสุดแค่สามเดือนเท่านั้น เธอมันขยะไร้ค่า สมควรแล้วที่จะตายไป!” เมเรดิธตะโกนด้วยความโกรธและปลดปล่อยความโกรธทั้งหมดของเธอไปที่มาเดลีน
“นังเเพศยา! แกยั่วยวนผู้ชายได้ดีแค่ไหนกันนะ? ทำของพวกนั้นด้วยตาเหล่านี้หรือเปล่านะ? เธอคิดว่าผู้ชายจะยังคงตกหลุมรักเธอไหมถ้าเธอตาบอด?”
หลังจากที่เมเรดิธพูดอย่างนั้น มาเดลีน รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อเธอกำลังจะลุกขึ้น เธอก็ถูกชายสองคนในชุดดำรั้งเธอไว้ทันที
“เมเรดิธ บอกพวกเขาให้ปล่อยฉันไป! จะทำอะไรฉันตอนนี้? บอกเจเรมี่สิให้มาเจอฉันถ้าเธอกล้าพอ!”
“ทำไมเจเรมี่ถึงอยากเจอเธอ?” เมเรดิธถามในขณะที่รู้สึกขบขัน “โอ้ น้องสาวที่มีค่าของฉัน เธอควรรู้ว่าฉันจะไม่ทำสิ่งนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจเรมี่”
เธอหัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้น เธอก็ยกมีดที่มันวาวและคมขึ้น “ดอกลาเวนเดอร์ในโปรวองซ์ สวยงามมาก เจเรมี่บอกว่าเขาจะพาฉันไปที่นั่นและเขาเป็นคนเสนอเรื่องนี้กับฉัน เขาถึงกับบอกว่าเขาจะมอบงานแต่งงานที่น่าจดจำที่สุดให้กับฉัน แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไปแล้ว”
มาเดลีนกำหมัดแน่น ใบหน้าของเธอมีความลังเลและความเกลียดชังซึ่งเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง “เมเรดิธ กรรมจะตามสนองเธอ!”
“กรรมของฉันคือการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับเจเรมี่ แค่เราสองคน ตลอดไป ในทางกลับกัน เธอจะต้องตกนรกในไม่ช้า”
เธอหัวเราะอย่างสมเพชและเอารูปถ่ายออกมา
“เนื่องจากเธอกำลังจะตาย ฉันจะให้เธอดูอะไรบางอย่าง นี่คือสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่เจเรมี่ได้ฆ่าทันทีหลังจากที่เธอลืมตาดูโลก”
อะไรนะ?
มาเดลีนเงยหน้าขึ้นและเห็นเมเรดิธขว้างรูปถ่ายมาที่เธอด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย
รูปลูกของเธอ?
มาเดลีนหัวใจเต้นเร็วขึ้น เธอดูรูปถ่ายขณะที่มันตกอยู่ตรงหน้าเธอ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอกำลังจะไปคว้ารูปถ่าย มีคนคว้าแขนเธอไว้ ชายคนนั้นก็แทงเข็มฉีดยาที่เต็มไปด้วยยากล่อมประสาทเข้าที่แขนของเธอ การมองเห็นของเธอพร่ามัวในทันที และเธอก็ได้ยินเสียงที่น่าขนลุกของเมเรดิธในหู
“มาเดลีน ลืมตาซะ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ดูรูปลูกสาวอย่างใกล้ชิดเชียวนะ! ฮ่าฮ่า…”