บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 149
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 149
เป็นไปได้ไง?
เขาไม่เคยสนใจเธอ เขาไม่เคยสนใจเธอเลย
เจเรมี่เอาแต่สะกดจิตตัวเองในขณะที่ระงับอารมณ์ แต่แล้ว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในหัวใจของเขาเป็นเครื่องย้ำเตือนความจริงที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
เขาตกหลุมรักมาเดลีน
ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นตอนไหน แต่มาเดลีนได้สร้างพื้นที่ในใจของเขาอย่างช้า ๆ
เขาจำได้ว่าเขารักเมเรดิธ เขารักเมเรดิธ ที่เขาเคยสัญญาไว้เมื่อพวกเขายังเด็ก ทำไมคน ๆ นั้นถึงกลายเป็นมาเดลีนแทนได้?
เจเรมี่นวดขมับของเขาอย่างร้อนรน สายตาของเขาจ้องมองไปที่แสงไฟของห้องปฏิบัติการที่ยังเปิดอยู่ เขารู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญในความทรงจำถูกบ่อดูดทรายดูดไปและไม่สามารถเรียกมันกลับคืนได้อีกต่อไป
วันทั้งวันได้ผ่านไปแสงของห้องผ่าตัดยังไม่ดับลง
เมเรดิธใจร้อนเป็นปกติอยู่แล้ว แต่เจเรมี่ดูน่ากลัวเกินไปในตอนนี้ เธอจึงไม่กล้าที่จะทำโดยไม่คิด เธอทำได้เพียงรอให้หมอประกาศว่าพวกเขาล้มเหลวในการช่วยมาเดลีนและหล่อนได้เสียชีวิต
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเอโลอิสเห็นเจเรมี่ที่ทางเข้าห้องผ่าตัด เธอจึงเข้าไปต่อว่าเเละเรียกร้องความเป็นธรรมให้เมเรดิธ
“เจเรมี่ ทำไมยังอยู่ที่นี่? ปล่อยให้เมเรดิธเสียเวลามากับคุณที่นี่ได้ยังไง? จากประสบการณ์ของฉันเกี่ยวกับนางร้ายคนนั้น เธอกำลังเล่นละคร! เธอแค่พยายามดึงดูดความสนใจของนายและทำลายพิธีหมั้นของเมอร์!”
“มาเถอะ เมอร์ พาเจเรมี่กลับโรงแรมไปด้วย” เอโลอิสพูดก่อนจะดึงเจเรมี่ขึ้นมา เมื่อเมเรดิธ กำลังจะช่วยเธอดึงเจเรมี่ขึ้น เจเรมี่กลับผลักมือของเอโลอิสที่พยายามจะคว้าเขาออกไปอย่างไร้ความปราณี ดวงตาสีแดงของเขามองไปที่เธออย่างทะลุปรุโปร่งมันเป็นแววตาที่น่ากลัวอยู่ในตัวเขาเอง
“แล้วมันทำไมถ้าเธอเสเเสร้ง? แม้ว่าเธอจะทำมัน แต่เธอก็ทำมันเพื่อผม มันเกี่ยวอะไรกับพวกคุณสองคนกัน? ไปซะ!”
เอโลอิสคิดไม่ถึงว่าเจเรมี่จะตอบกลับเธอแบบนี้ เธอตกใจมากจนอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้น เธอลองพูดกับอีกครั้ง
“เจเรมี่ นายผิดแล้ว ตอนนี้คุณหย่ากับมาเดลีนแล้ว และตอนนี้เมอร์เป็นคู่หมั้นของคุณ…”
“แล้วไง? นั่นมันจะไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าเธอเคยเป็นผู้หญิงของผมไปจากเดิมนะ! นอกจากนี้มันยังจะไม่เปลี่ยนความจริงที่ว่าชื่อของเธอได้รับการลงนามในแผนผังครอบครัวของฉัน! หยุดสร้างความรำคาญให้ผม! ถ้าไม่ ผมจะโทษพวกคุณถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับมาเดลีน!”
เอโลอิสและเมเรดิธเงียบหลังจากได้ยินสิ่งที่เจเรมี่พูด พวกเขาไม่กล้าพูดอะไรมาก
ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวโดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น ราวกับว่าพวกเขาสามารถเจาะทะลุใครก็ตามที่มองเข้าไปในนั้น
เมเรดิธกำหมัดแน่นอย่างลับ ๆ เธอไม่สามารถยอมรับได้ว่าเจเรมี่มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อสภาพของมาเดลีนในตอนนี้
อันที่จริง เธอสังเกตเห็นแล้วว่าเจเรมี่ให้การดูแลเป็นพิเศษกับมาเดลีน
ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือเขายอมให้เธอตั้งครรภ์และให้กำเนิดลูกของเขา
แล้วเธอล่ะ? แม้ว่าเธอจะดื่มแอลกอฮอล์และพยายามทำความสนิทสนมกับเขา แต่เขาก็มักจะหลับไปทุกครั้ง เธอไม่เคยได้มันมาครอบครองเลยสักครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญในห้องผ่าตัดเปลี่ยนกะหลายครั้งในคืนเดียว
เจเรมี่ยังติดต่อแพทย์ที่ดีที่สุดของเขาเพื่อมาช่วยมาเดลีน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจเรมี่รู้สึกราวกับว่าวันนั้นกำลังลากยาวไปถึงหนึ่งปี เขาไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้สึกว่ามันยากขนาดนี้เลยหรือกว่าที่จะผ่านคืนนี้มาได้
วันรุ่งขึ้นไฟของห้องผ่าตัดดับลงและท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทา
เจเรมี่รู้สึกราวกับว่าเส้นประสาทของเขาถูกดึงโดยบางสิ่ง เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและเดินไปที่ประตู มีความหวังในดวงตาของเขา เขาหวังว่าจะได้ยินข่าวมาเดลีนถูกช่วยชีวิตได้สำเร็จ
เพียงแค่คืนเดียว หนวดเคราได้ขึ้นรอบคางของเขา นอกจากนี้เขายังดูอ่อนล้าและไม่มีแรง
ผู้เชี่ยวชาญเดินออกจากห้อง เมื่อพวกเขาเห็นเจเรมี่ พวกเขาส่ายหัวด้วยความเสียใจ “คุณวิทแมน เราพยายามเต็มที่แล้ว”