บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 188
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 188
เสียงนั้นฟังคุ้นเคยประสาทสัมผัสของเธอกำลังบอกว่าเจ้าของเสียงนั้นต้องการปฏิเสธเธอกับสิ่งที่เห็นตรงหน้าอย่างแปลกประหลาด
เธอเงยหน้าขึ้นมอง ไฟทางเดินสว่างมากพอที่จะทำให้เห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจของเทนเนอร์ อย่างชัดเจน เธอปรากฎเข้ามาในสายตา
ขณะนี้เทนเนอร์เมาได้ที่ เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดูคุ้นเคยเพียงเล็กน้อยหากมองจากรูปลักษณ์ด้านข้างของเธอ ทว่าตอนนี้ เขาสามารถเห็นใบหน้าของมาเดลีนได้อย่างชัดเจน และนั่นทำให้เขาตกใจทันที! เขาถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า และเป็นผลให้ เท้าทั้งสองสะดุดเข้าด้วยกัน เขาล้มลงในท่าคุกเข่า
มาเดลีนยืนอยู่ที่ประตูห้องอย่างสงบ ดูเทนเนอร์หน้าซีดด้วยความตกใจ เขาดูเหมือนกำลังคลานถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก และเธอยิ้มอย่างสดใสด้วยมุมริมฝีปากที่สวยงามของเธอ
“คุณ…เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอถามเขาด้วยรอยยิ้มที่งงบนใบหน้าที่สวยงาม “คุณเป็นไงบ้าง? ต้องการให้ฉันช่วยไหมคะ?”
เทนเนอร์มองไปที่เธออีกครั้ง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความสยดสยอง “มา มาเดลีน! อย่าเข้ามา!”
‘อย่าเข้ามางั้นเหรอ?
‘ฮึ่ม!’
มาเดลีนยิ้มอย่างสดใสย่างเท้าเดินเข้าไปหาเขา “ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงกลัวฉัน? ฉันเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ผี ทำไมคุณถึง—”
“ผี! เธอเป็นผี! มาเดลีน เธอเป็นผีไปแล้ว! อย่าเข้ามามากกว่านี้! อย่ามาหาผม ผมสารภาพเรื่องโกหกที่ดีที่สุดให้ฟัง ผมไม่ได้ทำอะไรกับเธอเลย ผมไม่ได้เป็นคนที่ฆ่าเธอ ถ้าเธอต้องการล้างแค้น ไปลงที่เมเรดิธ! อย่ามาหาผม!”
หลังจากเทนเนอร์ตะคอกใส่มาเดลีน เขาก็รีบวิ่งหนีไป
ราวกับว่าเขาจะถูกฆ่าโดยผีของมาเดลีนในไม่กี่วินาที
มาเดลีนหัวเราะอย่างสนุกสนานขณะยืนมองหลังของเทนเนอร์ที่วิ่งหายไป
เธอไม่เคยทำอะไรที่ขัดต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเธอเลยสักครั้งในชีวิต แต่เธอกลับถูกทรมานจนร่างกายไม่สมบูรณ์และมีเลือดซึมตลอดเวลาที่ผ่านมา
คนเหล่านี้ที่ทำร้ายและรังแกเธอ แทนที่พวกเขาจะได้รับผลกรรมใด ๆ แต่แล้วพวกเขายังคงไปที่ผับบาร์เพื่อดื่มให้เมามายและเต้นรำตามปกติเช่นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นึกถึงปฎิกิริยาการตอบสนองที่น่าสยดสยองของเทนเนอร์ มาเดลีนกรีดริมฝีปากของเธอแสยะยิ้มเล็กน้อยขณะประมวลแผนที่จะเชื่อมโยงไปยังการแก้แค้นของเธอ
เธอหันหลังกลับมาและในที่สุดเธอผลักประตูห้องหนาทึบให้เปิดออกต่อหน้า
แสงไฟในห้องนุ่มนวลมากและไม่มีสีสันแห่งความยุ่งเหยิงเหมือนไฟในห้องโถง แต่ว่ามันยังไม่สว่างและแพรวพราวเท่ากับไฟในทางเดิน
เธอเดินเข้าไปเห็นเจเรมี่เอนกายพิงมุมโซฟาอย่างเหนื่อยหน่าย
เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวคอเปิดเล็กน้อย สามารถมองเห็นกระดูกไหปลาร้าของเขาที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อเชิ้ต มันดูเย้ายวนมาก
ตาที่ปิดสนิทราวกับว่าเขากำลังนอนหลับ แสงไฟอันอบอุ่นนุ่มนวลของโคมไฟคริสตัลสาดส่องลงบนใบหน้าที่ดูเหลี่ยมสันและหล่อเหลา แต่ดูเหมือนว่าความเมื่อยล้าระหว่างคิ้วของเขาจะไม่สามารถขจัดออกไปได้
นี่เป็นครั้งแรกที่มาเดลีนตระหนักว่าเขามีสีหน้าเหนื่อยล้าในขณะที่เขาหลับไป
แต่ว่า เขาจะเหนื่อยล้าได้ไงกัน?
เขามีทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนล้านมีผู้หญิงที่เขาชื่นชอบอยู่เคียงข้างกายและลูกชายที่น่ารัก เพียบพร้อมขนาดนี้ ทำไมเขายังเหนื่อยล้า?
เธอวางกระเป๋าลงแล้วเดินเข้าไปหาเขา “คุณวิทแมน”
มาเดลีนเอ่ยเรียก แต่เจเรมี่ไม่ตอบสนอง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของไวน์ลอยอยู่รอบ ๆ ตัวปกคลุมกลิ่นของลมหายใจ มาเดลีนเหลือบมองขวดไวน์แดงบนโต๊ะด้วยความสงสัยว่า เจเรมี่ดื่มไปกี่ขวดแล้ว
“คุณวิทแมน” เธอเรียกอีกครั้งดังขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ “เจเรมี่”
ในที่สุด มาเดลีนก็เรียกชื่อเขาซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏอยู่ในใจเธอนับครั้งไม่ถ้วน เธอเคยคิดเหมือนกันว่าชื่อนี้จะอยู่ในใจเธอตลอดไปเหมือนไม้เลื้อยจนถึงวันตาย
แต่ในช่วงเวลาที่เธอกำลังจะตาย เธอตระหนักถึงความจริงที่ว่าเธอได้ไล่ตามความรักในชีวิตของเธอ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝันของคน ๆ หนึ่ง
มาเดลีนมองไปที่ชายที่กำลังหายใจอย่างสม่ำเสมอแต่กำลังนอนหลับอย่างสงบตรงหน้าเธอ ด้วยสายตาที่ไม่แยแส จากนั้น เธอก็ยิ้มเบา ๆ
‘เจเรมี่ ตอนนั้นฉันรักคุณก็จริง แต่มันก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันที่ฉันไม่ได้รักคุณอีกแล้ว’
ทันใดนั้น เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ได้ดังขึ้น ภายในที่ห้องเงียบ และเสียงเรียกเข้าชัดเจนมาก
มาเดลีนลดสายตาลงและเห็นโทรศัพท์มือถือของเจเรมี่สั่นอย่างไม่หยุดหย่อน สัมผัสที่กำลังบอกเธอว่าสายนี้น่าจะมาจากเมเรดิธ
เธอเอื้มมือออกไปโดยไม่ลังเลและกำลังจะเลื่อนปุ่มรับสายเเต่ฝ่ามือของเธอถูกจับแน่น
มาเดลีนตกใจและมองไปยังคนข้าง ๆ เธอไม่ต้องการที่เข้าไปอยู่ในดวงตาที่ลึกและสลัวขอเจเรมี่
กระนั้นแล้ว หัวใจของมาเดลีนเต้นเร็ว แต่เธอยิ้มอย่างใจเย็น “คุณวิทแมน นี่คุณตื่นหรือยัง? ฉันเพียงต้องการรับสายแทนคุณ แต่เนื่องจากคุณตื่นแล้ว คุณคงสามารถรับสายเองได้แล้วสินะ”