บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 212
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 212
“เจเรมี่! เจเรมี่ คุณต้องเชื่อฉัน! คุณอย่ามากล่าวโทษฉันสำหรับเรื่องไร้สาระบ้า ๆ กับเรื่องที่แทนเนอร์บ้าคลั่งพูดออกมา! คุณลืมวันที่เราอยู่ด้วยกันที่ชายหาดไปแล้วหรอไง? คุณบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ไร้เดียงสาและใจดีที่สุดเท่าที่คุณเคยพบเจอ! คุณบอกเองว่าคุณจะอยู่กับฉันตลอดไปและจะยกให้ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ คุณจะปกป้องฉันและเชื่อใจฉันตลอดไป เจเรมี่ เจเรมี่ เจเรมี่!”
เมเรดิธไม่คิดว่าเจเรมี่จะเพิกเฉยกับเธอได้ถึงเพียงนี้
เมื่อเห็นรถสปอร์ตกำลังทยานออกไปอย่างไม่ลดคว่มเร็ว เมเรดิธกระทืบเท้าลงพื้นด้วยความโกรธ
“มาเดลีน นังสารเลว! ทำไมถึงตายอย่างสงบไม่ได้?!”
เธอหันหลังกลับเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยความโกรธ และเมื่อเห็นแจ็คสันที่ถือกระเป๋านักเรียนกำลังมุ่งหน้าออกไปโรงเรียน เมเรดิธก้าวไปข้างหน้าและขณะนี้เธอได้สั่งให้คนรับใช้ไปซื้อผักที่ตลาด เวลานี้เหลือเพียงเธอเเละแจ็คสันที่อยู่ในบ้าน
แจ็คสันมองไปที่เมเรดิธ ดวงตาสีดำที่สวยงามของเขาเต็มไปด้วยการป้องกันและความรังเกียจ มือเล็ก ๆ ของเขากำลังจับสายสะพายกระเป๋านักเรียน
ยิ่งเธอมองเขา เขาก็ยิ่งเกลียด!
เมเรดิธกลอกตาไปที่แจ็คสันด้วยความรังเกียจอย่างมาก ทันใดนั้นเองเธอยื่นมือไปคว้าแขนเล็ก ๆ ของแจ็คสัน
แจ็คสันไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ร่างกายของเขาต่อต้าน ท้ายที่สุด เขาก็ยังเป็นแค่เด็กห้าขวบที่ไม่สามารถขจัดแรงแข็งเกร่งของผู้ใหญ่ได้
เมเรดิธลากเขาไปที่ห้องเก็บของใช้ ผลักเขาเข้าไปโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ก่อนจะล็อกประตู
ปังงง!
แจ็คสันใช้มือน้อย ๆ ทุบประตูอย่างแรง
เมเรดิธเตะประตูอย่างโหดเหี้ยม “หุบปาก เจ้าเด็กน่ารำคาญ! ฉันรู้ว่าฉันควรจะบีบคอแกตอนที่แกยังอยู่ในท้องของนังสารเลว มาเดลีนนั่น!”
เธอพูดออกมาด้วยความขุ่นเคืองและความไม่พอใจที่มีทั้งหมดของเธอต่อแจ็คสัน
หลังจากดิ้นรนและร้องขอความช่วยเหลือเต็มที่เเล้ว ในที่สุดแจ็คสันทำได้เพีบงย่อตัวลงอย่างไร้ประโยชน์ในมุมมืดพร้อมกับกอดร่างเล็ก ๆ ของตัวเองไว้แน่น
“พี่วีล่า … ” เขาพึมพำในความมืด ดูเหมือนว่าเพียงแค่เรียกชื่อนี้เขาก็สามารถมองเห็นแสงสว่างเล็กน้อย
เมเรดิธรู้ดีว่าเจเรมี่ไม่สามารถรับอนุญาตให้ตรวจสอบความจริงของเหตุการณ์การลักพาตัวในเวลานั้นได้ มิฉะนั้น เธอคงนึกไม่ออกว่าเจเรมี่จะลงโทษเธอแบบไหน ไม่ต้องพูดถึงเธอคงไม่สามารถเป็นสะใภ้ของตระกูลวิทแมนได้
หลังจากคิดเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว แทนเนอร์ยังคงเป็นคนเดียวที่รู้ความจริง
มาเดลีนตายไปแล้วและคนตายไม่สามารถพูดได้
ดังนั้น ตอนนี้เพียงพอแล้วที่เธอจะจัดการกับแทนเนอร์อีกคน!
ไม่ว่าด้วยวิธีใด เธอไม่สามารถปล่อยให้แทนเนอร์พูดเรื่องไร้สาระออกมาอีกได้!
…
หลังจากมาเดลีนส่งลิเลียนไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว เธอเดินทางกลับไปที่อพาร์ตเมนต์
เธอจุดธูปกลิ่นหอมใหม่ที่เพิ่งทำขึ้นอาทิตย์ก่อนและหยิบแปรงอย่างดีมาวาดภาพบุคคลบนกระดาษ
‘เจเรมี่ โอ้ ฉันเคยรักคุณมากแค่ไหนและตอนนี้ฉันเกลียดคุณมากแค่ไหนรู้ตัวบางไหม
‘ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นหน้าของคุณตอนที่คุณพบเจอใบหน้าที่แท้จริงของเมเรดิธ’
โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะสั่นอย่างกะทันหัน เมื่อเห็นหมายเลขผู้โทร มุมปากของมาเดลีนยิ้มมุมปากขึ้นมา เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มบนใบหน้าเผยให้เห็นความสุขของเธอในขณะนี้ “คุณต้องการกลับมาตอนนี้หรอ? มันช่างดีจริง ๆ ลิเลียนและฉันจะไปรับคุณนะ”
หลังจากได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นเงียบไป น้ำเสียงเงีบยสงบเป็นน้ำเสียงอีกด้านของของปลายสาย มาเดลีนรู้สึกดีขึ้นมาก หลังวางสายไป
จากนั้นไม่นานเสียงกริ่งห้องได้ดังขึ้นและมาเดลีนเห็นใบหน้าบึ้งตึงของเจเรมี่ผ่านช่องตาแมวของประตูโดยไม่คาดคิด สีหน้าของเขาลึกในขณะที่คิ้วของเขาขมวดแน่น เขาดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีในขณะนี้
หากนึกย้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน มาเดลีนเดาได้คร่าว ๆ ว่าทำไมเจเรมี่ถึงอารมณ์ไม่สู้ดีนัก
หลังจากที่เขากดออดอีกครั้ง เธอค่อย ๆ เปิดประตูออกด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณวิทแมน? มาทำอะไรที่นี่ค่ะ?”
เจเรมี่มองมาเดลีนด้วยสายตาเหนื่อยล้าขณะที่ริมฝีปากของเขาขยับเบา ๆ “คุณวีล่า ผมอยากให้คุณช่วยอะไรหน่อย”