บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 242
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 242
เธอพูดออกมาออกมาด้วยเสียงอันแสนสดใส ใบหน้าของเธอดูคล้ายกับมาเดลีนเป็นอย่างมาก
เจเรมี่นั่งลงยอง ๆ เขาเอามือลูบหัวเด็กหญิงตัวเล็กคนนี้
“สวัสดี ลิลลี่ ฉันเป็นพ่อของแจ็คสันนะ”
“หนูจำคุณได้ค่ะ” สาวน้อยเบิกตากว้างกระพริบมัน “คุณมาหาหนูที่นี่เพื่อเล่นกับหนูใช่ไหมค่ะ คุณคนใจดี?”
เจเรมี่ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นก่อนที่เขาจะหยิบตุ๊กตาออกมาจากกระเป๋าเสื้อตัวเอง
“วันนี้ฉันมาส่งแจ็ค ฉันจึงมาหาหนูด้วยและในเมื่อฉันมาที่นี่แล้ว และนี่สำหรับเธอนะ”
“ว้าว น้องกระต่ายน่ารักจังเลยค่ะ!” ลิเลียนชอบใจตุ๊กตาอ้อนแอ้นนี้เป็นที่เรียบร้อย
เขาถือโอกาสใช้สถานการณ์นี้ ดึงผมออกจากศีรษะของลิเลียนหนึ่งเส้น
เขามองไปยังเใบหน้าไร้เดียงสาและน่ารักตรงหน้านี้ เขาเองมีความคาดหวังและความปรารถนามากท่วมท้นในใจ
ไม่นานจากนั้นเจเรมี่มาที่สถาบันทดสอบและงานวิจัยต่าง ๆ ด้วยความรู้สึกที่หาคำใดมาเปรียบไม้ได้ในใจ เขาดึงเอาเส้นผมส่งให้ทำการทดสอบและได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็วที่สุด
เจ้าหน้าที่บอกเขาว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยแปดชั่วโมงก่อนที่เขาจะรู้ผล
หลังจากที่เขาออกจากหน่วยงานดีเอ็นเอ เขาขับรถที่บริษัทของเฟลิเป้
หลังจากลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายเขาก็ขับรถออกไป
ถ้าเฟลิเป้ต้องการปกปิดสถานการณ์ที่เกี่ยวกับมาเดลีนอย่างแท้จริงแล้วนั้น เขาไม่มีทางได้รับคำตอบที่เขาอยากรู้จากหมอนั่นแน่ ๆ ไม่ว่าจะถามไปมากแค่ไหนก็ตาม
แปดชั่วโมงแห่งการรอคอยนั้นทรมานมาก
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มาเดลีนได้รับพัสดุที่ถูกส่งมาจากบริษัท เธอเริ่มเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำกับเหล่านักธุรกิจ ในโอกาสครบรอบสองปีของแบรนด์เครื่องประดับของเธอ หลังจากเสร็จสิ้นจากการทำงานมาทั้งวัน เธอกำลังจะขับรถไปรับลิเลียนกลับจากโรงเรียนเช่นทุกวัน แต่เมื่อ เธอมาถึงทางเข้า เธอสังเกตเห็นรถของเจเรมี่จอดอยู่ที่ประตูหน้าร้าน
เธอจำสิ่งที่เธอพูดกับเจเรมี่เมื่อคืนนี้ได้และตอนนี้ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“คุณวิทแมน? คุณมาที่นี่เพราะฉันงั้นเหรอ? คุณไม่มีอะไรทำอีกแล้วหรือไง?” มาเดลีนฉีกยิ้มออกมาและเอ่ยถามขึ้น เเต่แล้วเธอสังเกตเห็นว่าเจเรมี่มองเธออย่างจริงจังเกินไป เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างสงบและยิ้มให้ “ทำไมคุณถึงมองฉันแบบนั้น คุณวิทแมน? มีอะไรติดอยู่บนใบหน้าของฉันงั้นหรอ?”
เจเรมี่เดินเข้าไปหาเธอและอากาศรอบตัวเขาได้ครองงำเธอในพริบตา “ผมไม่สามารถละสายตาได้จริง ๆ เพราะเธอสวยมาก คุณวีล่า”
“…” มาเดลีนคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดจาไร้สาระน่าขบขันพวกนี้ออกมาในที่สาธารณะ เธอถึงกับผงะไป “คุณวิทแมน เราทั้งคู่ต่างหมายหมั้นกับคนอื่นแล้วนะ นี่มันง่ายมากลยนะที่จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดถ้าคุณพูดแบบนั้น”
เจเรมี่เมินเฉยต่อสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปมาและพูดว่า “คุณกำลังไปรับลูกสาวที่โรงเรียนใช่ไหม?”
มาเดลีนพยักหน้า “แล้วถ้าใช่ล่ะ?”
“ผมเองก็จะไปรับลูกชายเหมือนกัน งั้นไปด้วยกันเลยนะ”
“… ”
“ทั้งนี้ ผมมีบางอย่างที่อยากจะถามคุณ มันเกี่ยวกับลูกชายของผม”
เจเรมี่พูดอย่างนั้นออกมา ทำให้มาเดลีนเองไม่ต้องการปฏิเสธเขาอีกต่อไป
แม้ว่าจะไม่รู้เหตุผล แต่เธอก็อยากรู้จักแจ็คสันมากกว่านี้
เธอเดินไปขึ้นรถเจเรมี่และเขาออกรถอย่างรวดเร็ว รถเริ่มวิ่งไปตามถนนที่การจราจรหนาแน่น
ภายในรถแสนเงียบ เจเรมี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “แล้วนี่ คุณน้าสะใภ้ในอนาคต คุณ รู้จักลุงของผมได้ไงหรอ?”
เธอรู้ดีว่าเจเรมี่สอบสวนเรื่องราวของเธออยู่ลับ ๆ มาเดลีนจึงตอบกลับโดยไม่รีรอไปว่า “บนเครื่องบิน เราตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบ”
“เรื่องจริงหรอเนี้ย?” เจเรมี่ยิ้มปลอม ๆ ออกมาก่อนจะจับพิรุธบนใบหน้าของมาเดลีนอย่างรวดเร็ว “ลุงของผมเขาเป็นยังไงกันแล้วอะไรที่เขาดึงดูดคุณมากที่สุด?”
“ฉันถูกเขาดึงดูดในทุก ๆ การกระทำ เขาเป็นผู้ใหญ่ที่เชื่อถือได้ เขาทั้งอ่อนโยนและหล่อเหลา เขาเป็นหนึ่งในล้านเชียวนะ การได้พบเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตฉันเลยก็ว่าได้”
ในขณะที่มาเดลีนหยุดพูดไป เจเรมี่เหยียบเบรกกะทันหัน สัญญาณไฟจราจรข้างหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงในขณะนี้
เธอขมวดคิ้วและเงยหน้าขึ้น โดยบังเอิญสบเข้ากับดวงตาที่ล้ำลึกของเจเรมี่
มีรอยยิ้มที่ยั่วยวนความคิดบนใบหน้าของชายคนนั้น เขาขยับตัวเข้าใกล้เธอและเอนร่างเข้าหาเธอทันที ทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาเป็นที่ดูวาบหวาม
“แล้วคุณคิดว่าผมเป็นไง?”
มาเดลีนมองเขาอย่างใจเย็นและยิ้มออกมา เมื่อเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมา โทรศัพท์ของเจเรมี่ดังขึ้นมา ขัดจังหวะในการให้คำตอบของเธอ
เจเรมี่ไม่พอใจนัก แต่หลังจากที่เขามองหมายเลขผู้โทรสีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปเมื่อเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“คุณวิทแมน ทางเรารู้ผลทดสอบความสัมพันธ์ของคุณแล้วและฉันกำลังส่งข้อมูลและผลลัพธ์เข้าอีเมลของคุณ หากคุณมีคำถามใด ๆ คุณสามารถโทรไปสอบถามเพิ่มเติมกับหมายเลขนี้ได้”