บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 248
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 248
…
สองวันผ่านไป งานเลี้ยงอาหารค่ำแห่งโอกาสครบรอบได้ดำเนินไปตามที่กำหนดขึ้น
ตั้งแต่ มิสเลดี้ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าบรรดาคนรวยและมีชื่อเสียงจากชนชั้นสูงทั่วสารทิศก็พากันมารวมตัวอยู่ที่นี่ คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นคนในสังคมและผู้หญิงที่ร่ำรวย
มาเดลีนทำใจเตรียมตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ในขณะนี้ เธอรู้สึกสับสน
เธอรู้ว่าเอโลอิสจะมาที่นี่ในคืนนี้เช่นกัน
คนนี้คือแม่ของที่ให้กำเนิดเธอและอยากทำเธอสูญหายไป
ภายหลังจากที่เธอรับโทรศัพท์จากทางผู้จัดการสำนักงานใหญ่ มาเดลีนได้เดินเข้าไปในสถานที่จัดงาน
และเมื่อเธอเดินเข้าไปเธอเห็นเหล่าไฮโซและผู้หญิงที่ร่ำรวยชั้นสูงจำนวนมากมารวมตัวกันจับกลุ่มสนทนา พวกเขาคอยแต่โอ้อวดเกี่ยวกับเครื่องประดับราคาแพงที่มีไม่มากบ้างก็สั่งทำพิเศษที่พวกเขาสวมใส่อยู่ตอนนี้
เมื่อมาเดลีนเดินเข้าไปปรากฎตัว เธอมองเห็นสายตาของความตกตะลึงถูกถ่ายทอดมาทางเธออย่างเลี่ยงไม่ได้
ชุดเดรสสีแชมเปญของเธอเน้นขับรูปร่างที่สมบูรณ์แบบให้เด่นขึ้นในขณะที่ผมสีดำของเธอตัดกับความถูกต้องของผิวที่ไร้ที่ติ เธอจะทิ้งร่องรอยกลิ่นของความหอมหวานในทุกที่ที่เธอเดินไป ไม่มีใครสามารถหยุดตัวเองจากการสูดดมเพิ่มอีกสองสามครั้งได้
“ผู้หญิงคนนั้นใช่ วีล่า ควินน์ ไหม?”
“นี่ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนที่ชนะงานประมูลร้านค้าที่เฟิร์สคริสตัลสตรีทด้วยนะ แล้วเธอยังทำงานให้กับมิสเลดี้และเป็นเจ้าของร้านสาขานั้นด้วยนะเธอ”
“เธอเป็นเจ้าของร้านมิสเลดี้ที่เฟิร์สคริสตัลสตรีทใช่ไหม? เธอดูแพงและสวยไปด้วยความสามารถมากมากมาย”
“มีความสามารถงั้นหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงของผู้ชายมั่งคั่งคนนึง”
“ไม่เห็นน่าแปลก ฉันล่ะสงสัยว่าเธอมีชีวิตที่ดีแบบนี้ได้อย่างไรถ้าไมมีใครหนุนหลัง และในที่สุดเธอก็มีโอกาสได้ลอยหน้าลอยตาในตอนนี้ที่งานเลี้ยงอาหารค่ำวันครบรอบที่ มิสเลดี้ จัดขึ้นที่เมืองเกลนเดล”
มาเดลีนได้ยินคำถามและความสงสัยที่ดูไม่เป็นมิตรในทุกรูปแบบจากรอบตัวเธอ เธอเพียงยิ้มเบา ๆ และเดินเชิดหน้าต่อไป
ไม่นานนัก เธอเห็นผู้จัดการจากสำนักงานใหญ่และหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ มิสเลดี้ พวกเขากำลังคุยกับลูกค้าสองสามคน
เธอมองไม่เห็นสิ่งอื่น นอกจากในบรรดาลูกค้า สองคนมีแค่เมเรดิธและเอโลอิส
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันผู้จัดการของสำนักงานใหญ่และหัวหน้าฝ่ายออกแบบสังเกตเห็นมาเดลีน “ทุกท่านครับ ผมขอแนะนำพวกคุณให้รู้จักกับผู้หญิงคนนี้”
หัวหน้าฝ่ายออกแบบมองมาทางมาเดลีนด้วยความชื่นชม เอโลอิสและเมเรดิธหมุนตัวมามองในเวลาเดียวกัน เกิดความตกใจและประหลาดใจบนใบหน้าของพวกเขา กระทั่ง ใบหน้าแห่งการดูถูกเหยียดหยามได้เข้ามาแทนที่ความประหลาดใจที่มีในทันที ในขณะเดียวกัน ก็มีรอยยิ้มที่น่ากลัวในดวงตาของเมเรดิธเผยออกมาเช่นกัน
ในฐานะที่เป็นดาวเด่นในค่ำคืนนี้ มาเดลีนได้ก้าวเดินด้วยความเอื้ออารีพร้อมกับรอยยิ้มกว้างตลอดเวลา
หัวหน้าฝ่ายออกแบบเผยท่าทีที่มีต่อมาเดลีนพร้อมกับแนะนำเธอว่า “นี่คือ คุณวีล่า ควินน์ เธอเป็นเจ้าของร้าน มิสเลดี้ สาขาแรกในเกลนเดล แล้วเธอยังเป็นมิสเลดี้ …”
“ฉันล่ะนึกสงสัยว่าเป็นใคร ที่แท้ก็แค่ผู้หญิงคนนี้นี่เอง” เอโลอิสพูดด้วยน้ำเสียงแปลก ๆ เธอมอง มาเดลีนด้วยความรังเกียจ “เมอร์ไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ แม่กลัวว่าจะกินอะไรไม่ลงถ้าขืนอยู่ที่นี่ต่อไปและมองเห็นผู้หญิงคนนี้”
มาเดลีนรู้สึกเหมือนมีคนวิ่งเอามีดมาแทงหัวใจของเธอ แต่เธอก็ยังยิ้มออกมา
เธอไม่เคยนึกเลยว่าแม่ที่เธอเฝ้าฝันถึงในความฝันมานานนับไม่ถ้วนเกือบจะทั้งชีวิตจะเป็นผู้หญิงที่รู้สึกรังเกียจเพียงแค่สบสายตามองมาที่เธอ
แม่ที่เธออยากกอดมานานเป็นเช่นนี้ได้ไงกัน?
ดูเหมือนว่าเอโลอิสไม่ได้ใส่ใจอะไรในตอนที่เมเรดิธยอมรับว่าร่วมมือกับแทนเนอร์เพื่อทำร้าย มาเดลีน ตรงกันข้าม เธอกลับเอาใจช่วยหล่อนมากยิ่งขึ้นไปอีกในตอนนี้
ใช่แล้ว เมเรดิธเป็นลูกล้ำค่าของเธอ จะดุเธอได้ยังไงกัน?
“คุณแม่ อย่าพูดแบบนั้นสิคะ” เมเรดิธยิ้มและพูดเบา ๆ ว่า “การจะเข้าร่วมกับมิสเลดี้สำหรับ คุณควินน์ แล้วมันไม่ง่ายเลยนะคะ มันจะแย่กับคุณควินน์เอานะคะกับการสูญเสียคุณสมบัติหลังจากที่คุณแม่พูดแบบนั้น เคยได้ยินมาว่า พวกเขามีมาตรฐานสูงสำหรับคนที่ต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท”
เมเรดิธพูดออกมาอย่างไร้เดียงสา ทว่า มันชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอพยายามเริ่มต้นบางอย่างอยู่
ผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายออกแบบมองหน้ากันอย่างสงสัยขณะยิ้มออกมา “คุณผู้หญิงทั้งสองจาก มอนต์โกเมอรีกำลังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวอะไรบางอย่างกับคุณวีล่าหรือเปล่าครับ?”
“ไม่!” เอโลอิสเอ่ยขัดขึ้นด้วยด้วยความปั่นป่วน น้ำเสียงของเธอเย็นเยือกลงเช่นกัน “ฉันดีใจที่มิสเลดี้เปิดตัวในใจกลางเกลนเดลสักที แต่การที่ผู้หญิงชั่วร้ายอย่างเธอมาร่วมงานกับคุณและจัดการร้านนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เธอได้สัมผัสกับเครื่องประดับที่ละเอียดอ่อนวิจิตรงดงามของมิสเลดี้และทำมันสกปรกแค่ไหน! คุณไม่ควรปล่อยให้ผู้หญิงอย่างเธอเข้าร่วมบริษัทของคุณ! เธอไม่คู่ควร! ไม่รู้หรือไง!”
เมเรดิธมีความสุขมากเมื่อเธอได้ยินเอโลอิสดูถูกมาเดลีน นอกจากนี้เธอยังรับรู้ด้วยว่ามีผู้คนจำนวนมากมองมาเดลีนด้วยความสงสัยที่มีอยู่ในสายตาของพวกเขา
และนี่เป็นเรื่องที่ดีเพราะเธอต้องการได้รับความสนใจแบบนี้ ตอนนี้ เธอกำลังจะให้ ‘ของขวัญ’ ชิ้นใหญ่แก่มาเดลีนเพื่อทำให้เธอดูแย่!
“…” จบประโยคที่เธอพูด ผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายออกแบบมีสีหน้าเคร่งขรึม พวกเขาเริ่มมองมาเดลีนอย่างประหม่า
ทว่า มาเดลีนทำเพียงแค่ยิ้มมองเอโลอิสด้วยแววตาแปลก ๆ ในดวงตา “คุณนายมอนต์โกเมอรีคุณบอกว่าฉันไม่คู่ควร งั้นฉันล่ะสงสัยว่าถ้าเจ้าของเป็นลูกสาวของคุณ เธอจะคู่ควร —”
“เธอมันขโมย! เธอขโมยสร้อยข้อมือของฉันไปอีกแล้ว!” ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาขัดมาเดลีนขึ้น
มาเดลีนรู้สึกราวกับว่าเธอเคยได้ยินน้ำเสียงนี้มาก่อน
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน ทว่า เธอคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นจะเอื้อมมือมาจับข้อมือเรียวของเธอไว้เเน่น พลางชี้ไปที่สร้อยข้อมือพลอยสีม่วงที่มีพู่ระหงในข้อมือเธอ
“ฉันสงสัยซะจริงว่าใครจะกล้าขโมยสร้อยข้อมือของฉันในงานแบบนี้ เธอเป็นคนทำผิดซ้ำซาก! เธอเคยขโมยของฉันมาแล้วครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงครบรอบของมอนต์โกเมอรีและตอนนี้ยังสวมสร้อยข้อมือของฉันอย่างหน้าด้าน ๆ หลังจากขโมยไปแล้ว! อีกงั้นหรอ โชคดีนะที่ตอนนั้น คุณนายวิทแมนออกหน้าปกป้องเธอ แต่ตอนนี้ ฉันต้องการจับเธอส่งตำรวจ!