บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 249
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 249
เสียงของผู้หญิงคนนี้ดังทะลุแก้วหูของทุกคน ความดังของเสียงกลายเป็นที่จับตาของความสนใจจากผู้คนจำนวนมากที่อยู่ล้อมรอบ
มาเดลีนเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าที่เอาแต่ใจของผู้หญิงคนนั้น ขณะเดียวกันนั้นเอง ฉากเก่าของเธอที่ถูกกล่าวหาอย่างไร้การตรวจสอบและต้องแบกรับภาระที่ถูกเรียกว่าขี้ขโมยก็ปรากฏขึ้นมาในหัวเธออย่างชัดเจน
หลังจากที่เธอทราบข่าวอาการป่วยของเธอในวันนั้น เธอจำได้ว่าต้องไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณแม่ของเจเรมี่ที่คฤหาสน์วิทแมนตามคำสั่งที่เจเรมี่ได้เอ่ยออกมา
ไม่ว่าอย่างไร ในขณะที่เธอเดินเข้าไปในงาน ผู้หญิงคนตรงหน้าเธอได้วิ่งเข้ามาชนเธอ อีกทั้งผู้หญิงคนนี้ไม่ได้กล่าวขอโทษอะไรทั้งนั้นทั้งยังกล่าวหาว่ามาเดลีนเป็นคนเข้ามาชนเธอก่อนด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดเธอยังตั้งข้อกล่าวหาโทษว่ามาเดลีนขโมยสร้อยข้อมือของเธอไป
และในบทสรุป เมเรดิธเข้ามาช่วยมาเดลีนแสดงออกถึงความ ‘มีจิตใจดี’ ในระหว่างความสับสนวุ่นวายนั้น เธอได้เอาสร้อยข้อมือมาใส่ไว้ในกระเป๋าของมาเดลีน และตอนนั้นมาเดลีนอ่อนแอมาก เธอจึงถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนที่ขโมยสร้อยข้อมือและถูกทำร้ายอย่างน่าสยดสยองหลังจากพยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอ
และส่วนที่น่าอับอายที่สุดคงจะเป็นหลังจากที่เฟลิเป้ส่งหลักฐานที่พอจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์มาให้เธอแล้วนั้น เจเรมี่กลับทำลายมันลงอย่างเปิดเผย เขารักเมเรดิธมาก ดังนั้นเขาจึงตามใจเมเรดิธทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอทำอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ
มาเดลีนยังไม่ลืมเรื่องที่ว่านี้ มองย้อนกลับไปตอนนั้น ผู้หญิงคนนี้เรียกเธอว่าขอทานข้างถนนในขณะที่เมเรดิธพูดกับผู้หญิงคนนี้ว่า คุณนายแลงฟอร์ด อย่างให้ความสนิทสนม
“มองหน้าฉันทำไม? ถอดสร้อยข้อมือของฉันออกมาเดี๋ยวนี้!” คุณนายแลงฟอร์ดที่แต่งตัว อลังการจับข้อมือมาเดลีนอย่างแน่นขณะที่เธอเตือนอย่างกรี้ยวกราด
มาเดลีนหยุดนึกถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าและมองไปที่มือของผู้หญิงคนนั้นภายใต้ดวงตาที่งดงามคู่นั้น “ปล่อยมือของคุณด้วยค่ะ”
น้ำเสียงของเธอเย็นชา แม้จะมีรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า แต่มีออร่าที่ทรงพลังมากอยู่รอบตัวเธอ
หญิงสาวตกใจกับรัศมีที่เกินต้านนั้น เธอยังลังเลอยู่พักหนึ่งขณะที่คลายมือมาเดลีนออกเล็กน้อย กระนั้น เมื่อเธอรู้ว่ามาเดลีนกำลังพูดกับเธอด้วยท่าทีเช่นไร เธอก็จับข้อมือของมาเดลีนแน่น อีกครั้ง
“ฮ้ะ! นี่แกกล้าขู่ฉันหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นสบถ “มองดูตัวเองซะบ้าง นี่ใจกล้าหน้าด้านขโมยไปจากฉันได้ยังไงในงานเลิศหรูแบบนี้?” เธอพูดออกมาอย่างหยิ่งผยองในขณะที่เธอจ้องมาเดลีนอย่างดูถูกดูจากหัวจรดเท้า
“จิ๊ จิ๊ ดูเหมือนว่าเธอจะขโมยของไปมากมายสินะในช่วงนี้ ถ้าไม่งั้น เธอจะมีเงินแต่งตัวแบบนี้ได้ไงกันล่ะ? หรือบางทีอาจได้รับการเลี้ยงดูจากผู้ชายรวยที่โง่เขลาหรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมเธอถึงขั้นมาเป็นขโมยในงานเลี้ยงกันล่ะ?!”
“คุณผู้หญิง คุณอาจเข้าใจผิดอะไรบางอย่างไป? ทำไมคุณวีล่าถึงขโมยสร้อยข้อมือของคุณไปด้วยล่ะ? ได้โปรดปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” ผู้จัดการเข้าประชิดตัวพวกเขาและเริ่มหยุดการกระทำของพวกเขา
หัวหน้าฝ่ายออกแบบมายืนอยู่ฝั่งเดียวกับมาเดลีนอย่างรีบร้อนเหมือนกัน เธอจ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้นที่มาก่อกวน “คุณผู้หญิง คุณจะทำการกล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ไงกัน? คุณกำลังบอกว่าคุณวีล่าขโมยสร้อยข้อมือของคุณไปและยังกล่าวหาว่าเธอเคยขโมยสร้อยข้อมือพลอยสีม่วงของคุณไป? นี่คุณรู้ไหมว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้ —”
“นี่นายไปอยู่ที่ไหนมา? กล้ากล่าวหาว่าฉันกล่าวหาเธอได้ไงกัน” ผู้หญิงคนนั้นเย้ยเอ่ยขัดจังหวะขึ้นว่า “คุณครอว์ฟอร์ด คุณเองก็เห็นผู้หญิงคนนี้ขโมยสร้อยข้อมือของฉันตอนนั้นกับตาตัวเอง”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอมองไปทางอื่น มาเดลีนสังเกตเห็นว่าแม่ของเจเรมี่เองก็มาอยู่ที่นี่เช่นกัน ในขณะนี้ ผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “คุณนายวิทแมน คุณเองก็อยู่ที่นั่นด้วย คุณยังวิงวอนขออภัยแทนเธอ คุณบอกว่าเธอเป็นสาวใช้ของคุณ ดังนั้นฉันจึงปล่อยเธอไป คุณต้องเป็นพยานของฉันนะ!”
เธอได้ยินเรื่องนี้ในท้ายที่สุดแล้ว มาเดลีนได้รู้ว่าแม่ของเจเรมี่บอกผู้หญิงคนนี้ว่าเธอเป็นสาวใช้ในบ้านของพวกเขาตอนที่หล่อนเข้ามากระซิบข้างหูเธอในตอนนั้น และนั่นคือเหตุผลที่ผู้หญิงคนนั้นไม่เอาความกับเรื่องนี้
หึ!
คนรับใช้!
ช่างไร้สาระสิ้นดี!
นอกจากอาวุโสวิทแมนแล้ว ไม่มีคนไหนในวิทแมนที่เคยปฏิบัติกับเธอเหมือนที่เธอเป็นหนึ่งในนั้น
เธอเป็นแค่สาวใช้ในสายตาของตระกูลวิทแมน!
ไม่สิ เธอต่ำต้อยกว่าสาวใช้ด้วยซ้ำ!
“วีล่า ควินน์ เคยเป็นสาวใช้ในตระกูลวิทแมนหรอ?”
“เธอเคยเป็นสาวใช้แต่ที่เธอสามารถมายืนที่นี่ได้นั้น ฉันแน่ใจว่าเธอขโมยของมากมายมาจากเจ้านายของเธอ”
“คนอย่างเธอยังสามารถเข้าร่วมกับมิสเลดี้ได้ ฉันต้องพิจารณาใหม่ซะแล้วว่าฉันยังต้องการซื้อจากพวกเขาอีกต่อไปไหม”