บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 255
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 255
“เอาสิตามสบายเลยค่ะ คุณวิทแมน” มาเดลีนพูดออกมาอย่างใจเย็น “ฉันเองก็อยากรู้ว่าคุณจะประกาศอะไรเหมือนกัน”
เจเรมี่เม้มริมฝีปากอันแสนเย้ายวนของตัวเองเเน่น “คุณคงจะรู้มันอีกไม่นานเกินรอ” เขาเอ่ยขึ้นมาก่อนจะมองไปยังฟลิเป้ที่ยืนอยู่ด้านหลังมาเดลีน จากนั้น เขาหันหน้ากลับมาประจันหน้ากับสารธารณชนและสื่อมวลชนที่ถือกล้องอยู่ในมือ
เมเรดิธรู้ดีแก่ใจแล้วว่าบางทีเจเรมี่อาจจะประกาศว่าเขาต้องการยกเลิกงานแต่งงานกับเธอก็เป็นได้ หัวใจของเธอเริ่มระส่ำระส่ายขณะที่เธอจับแขนของเจเรมี่อย่างไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
“เจเรมี่เชื่อฉันเถอะนะ วิดีโอนั้นเป็นของปลอม อย่าไปเชื่อ! อย่าประกาศเรื่องนั้นออกไปได้ไหม ได้โปรด? ฉันขาดคุณไม่ได้ ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปเลย…”
เสียงของเธอนุ่มนวลจนแทบไม่มีเสียงเปล่งออกมาให้ได้ยิน แต่เจเรมี่เองสามารถได้ยินที่เธอพูดสื่อออกมาอย่างเเจ่มชัด
เจเรมี่ฟังคำอ้อนวอนเหล่านั้น พร้อมกับหรี่ตาที่ลึกแคบลง “คุณไม่ต้องอธิบายอะไรกับผมทั้งนั้น ถ้าเป็นเรื่องที่อยู่ในวิดีโอนั้นล่ะก็ ผมเองก็บอกได้เลยว่าผมได้เห็นมันมาตั้งแต่สามปีก่อนเเล้ว”
“อะ – อะไรนะ?” หน้าเมเรดิธซีดเผือกในขณะที่ดวงตาของเธอเบิกกว้างโตขึ้น
เขาเห็นวิดีโอนั้นเมื่อสามปีที่เเล้ว?
อะไรกัน?
แต่ทำไมเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลยล่ะ!
ซึ่งหมายความว่าเขายังเข้าข้างเธอ!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เมเรดิธเรียกความมั่นใจกลับมาได้อีกครั้ง
“เจเรมี่ ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็ นั่นหมายความว่าคุณยังเชื่อใจฉันอยู่ งั้นได้โปรดเถอะนะ อย่าประกาศมัน ตกลงไหม? ฉันขาดคุณไม่ได้คุณก็รู้…” เธอวิงวอนเขาเบา ๆ มีการเผยสีหน้าที่น่าสงสารบนใบหน้าที่งดงามของเธอ
เจเรมี่มองใบหน้าและดวงตาของเธอ ภาพของลินนี่ก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขาในทันที
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที เขาดึงแขนออกจากเมเรดิธและเผชิญหน้ากับมวลชนอีกครั้ง
“ทุกคน ผมอยากจะประกาศอย่างเป็นทางการว่าการแต่งงานระหว่างผมและทายาทของมอนต์โกเมอรีนั้นถืองว่ายก—”
พรึบ!
“เมอร์! เมเรดิธ !”
ขณะที่เจเรมี่กำลังจะพูดส่วนที่สำคัญที่สุดออกไป เมเรดิธได้ทรุดตัวล้มลงตรงหน้าเขาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
เอโลอิสรีบวิ่งไปหาเมเรดิธ เธอร้องไห้ออกมาอย่างลนลาน
“เจเรมี่ มัวทำอะไรอยู่? รีบพาเมอร์ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” เอโลอิสเอ่ยปากกระตุ้นเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารและกังวลที่มีต่อเมเรดิธ “เมอร์! เมอร์ ต้องไม่เป็นอะไรนะ!”
“เจเรมี่ รออะไรอยู่อีก? พาเมอร์ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” แม่ของเจเรมี่เองก็ด้วย เธอเดินเข้ามาและสะกิดเขา
มาเดลีนไม่รู้ว่าเจเรมี่กำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม เธอสามารถมองเห็นว่าเขาอุ้มเมเรดิธและรีบเดินไปที่ประตูทางออกอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ทุกคนในห้องกำลังถกประเด็นพวกนี้ พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในขณะที่ใครบางคนยังสงสัยอยู่ว่าเจเรมี่ต้องการจะประกาศอะไรกันแน่
มาเดลีนเฝ้ามองเรือนร่างนั้นที่หายไปจากสายตาขณะเดียวกันรอยยิ้มแห่งความเหน็บแนมปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ
และทันใดนั้นเอง เธอรู้สึกได้ถึงการสัมผัสบนไหล่อันแสนอบอุ่น เธอเงยหน้าขึ้นมาเห็นดวงตาสีดำอบอุ่นของเฟลิเป้กำลังมองลงมาที่เธออยู่
“ไม่ต้องเสียใจไปนะ ถ้าหากพ่อแม่ของคุณรู้ว่าคุณเป็นลูกสาวที่พวกเขาให้กำเนิดล่ะก็ พวกเขาจะรู้สึกสำนึกผิดที่ไม่เห็นคุณค่าของคุณตอนนี้” คำปลอบโยนของเขาเข้ามาชะโลมหัวใจเธออย่างเงียบงัน
มาเดลีนยิ้มอ่อน ๆ “เฟลิเป้ ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ฉันในคืนนี้ และถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีแม้แต่โอกาสที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดได้ในชีวิตนี้ แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง”
“คุณมีแผนต่อไปหรือสิ่งที่จะทำต่อไปไหม?” เฟลิเป้ถามเธอเบา ๆ
มีประกายแวววาวเป็นลางร้ายในตาดำของมาเดลีน เธอเพ็งสายตาไปยังทิศทางที่เจเรมี่เพิ่งเดินออกไป “ฉันอยากรู้ว่าพวกเขาจะไปโรงพยาบาลไหนกัน”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
มาเดลีนสวมเสื้อโค้ทตัวงามและเดินเข้าไปในโรงพยาบาลที่อยู่ข้างหน้า
ณ แผนกผู้ป่วย เธอเดินเข้าไปข้างใน และในเวลาเดียวกันเธอเห็นฌอนเดินเข้าไปในลิฟต์อย่างรีบร้อน
สีหน้าเเละท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความกังวล มันชี้ชัดว่าเขาเป็นห่วงเมเรดิธมากเหลือเกิน
กระนั้น สำหรับเมเรดิธเองก็แค่แกล้งเป็นลมไปก่อนเท่านั้น มาเดลีนเคยเห็นเรื่องแบบนี้มานับต่อนับแล้ว ละมันก็เป็นแค่คนเหล่านี้ที่ยังเลือกจะเชื่อเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
แม้แต่พ่อแม่แท้ ๆ ของเธอก็ยังถือหางเมเรดิธอยู่ดี
มาเดลีนเดินไปตามทางที่เชื่อมกับห้องพักฟื้นของเมเรดิธ เมื่อเธอเลี้ยวออกมาจากมุมเสา เธอเห็นเจเรมี่ได้เดินออกจากห้องนั้นไป
ใบหน้าเด็ดเดี่ยวและทรงพลังอันหล่อเหลาของเขาดูเย็นชาสิ้นดี แต่มีความกังวลเล็ก ๆ อยู่ในตาเขาเช่นกัน นี่ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเกี่ยวกับเมเรดิธอยู่เหมือนกัน