บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 286
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 286
“แล้วนายล่ะ? นี่นายอย่าบอกนะว่าลืมทาโกที่นายและภรรยาฉันกินกันอย่างเพลิดเพลินอยู่ริมถนนด้วยความรักไปแล้วหรือเปล่า แดเนียล?” จากนั้นนายก็เป็นคนเดินไปส่งเธอที่บ้าน นายเป็นคนแบบไหนกัน นายอาจลืมเรื่องที่พยายามจูบตอนกลางวันแสก ๆ ไปแล้วหรือเปล่า?” เจเรมี่ซักถามอย่างเยือกเย็น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปนานและตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยสายตาที่เหมือนน้ำค้างแข็งจ้องอย่างไม่ละสายตา
“จะบอกอะไรให้นะ แดเนียล มาเดลีนจะเป็นผู้หญิงของฉันตลอดไป แม้กระทั่งตายไปแล้ว ขี้เถ้าของเธอก็ยังเป็นของฉัน! คิดว่านายเป็นใคร? นายไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าคนทำลายครอบครัวคนอื่นและพยายามขโมยผู้หญิงมาจากสามีของเธอก็เท่านั้น”
แดเนียลหัวเราะเบา ๆ
“คนที่สร้างความร้าวฉาน? นายก็รู้จักคำนั้นดี บางทีมาเดลีนอาจจะไม่ได้ถูกใส่ร้ายครั้งแล้วครั้งเล่าก็ได้ถ้าเมเรดิธคนที่สร้างความร้าวฉานตัวจริงได้ทำกับเธอไว้แแล้วนายไม่เมินทุกครั้งไป! นายเป็นเหมือนผู้สมรู้ร่วมคิด!”
คลื่นอารมณ์พัดผ่านใบหน้าของเจเรมี่
เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารับบทเป็นเพชฌฆาตไปจริง ๆ เมื่อเทียบกับความเสียหายที่มาเดลีน ได้รับ
เขาเองเป็นสาเหตุของบาดแผลอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของบาดแผลและเลือดที่ไหลของเธอ
เจเรมี่ขมวดคิ้ว “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อคุยเรื่องนี้กับนาย แดเนียล”
แดเนียลรับรู้ว่าบทสนทนาของเขาในตอนนี้เริ่มนอกเรื่องเช่นกัน เขามองเจเรมี่อย่างมีความสงสัย “นายไม่ใช่คนที่ลักพาตัวมาเดลีนไปเหรอ?”
“เธอไม่ใช่มาเดลีน” เจเรมี่ย้ำอีกครั้ง
“นี่นายพยายามที่จะโกหกฉันอยู่อีกหรอ?” แดเนียลยังยืนกราน “ฉันขอปฏิเสธที่จะเชื่อว่าในโลกใบนี้ยังจะมีคนที่หน้าตาคล้ายกันทุกอย่างโดยบังเอิญอยู่อีก นายต้องล้างสมองมาเดลีนไปแล้ว”
“ฮะ” เจเรมี่หัวเราะเบา ๆ ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ถูกความเหงาที่ไม่มีจุดลบล้างเผยมา “คงจะดีถ้านายพูดถูก อย่างน้อย เธอก็ยังมีชีวิตอยู่”
…
หลังจากนอนหลับไปนาน มาเดลีนก็ตื่นขึ้นมาอย่างหนักหัว
ขณะที่เธอลืมตาขึ้น มาเดลีนรู้สึกถึงมือและขาของเธอถูกมัด ตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในที่มืด
มีเพียงแสงเล็ก ๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างที่อยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้นที่ให้ความสว่างในห้องนี้ ณ ขณะนี้ท้องฟ้ามีสีอะไรไม่รู้เลย แต่เธอสันนิษฐานว่าตอนนี้จะต้องเป็นตอนเย็นแล้ว
จากนั้น ประตูกดัง “เอี๊ยด” และเปิดออกและมีแสงส่องเข้ามาด้านใน มาเดลีนรีบหลับตา แสร้งทำเป็นว่ายังไม่ได้สติ
ชายสองคนเดินเข้ามาข้างใน หนึ่งในชายฉกรรจ์หยุดอยู่ตรงหน้ามาเดลีนและเขาบีบคางบอบบางของเธออย่างเกรี้ยวกราด
“จิ๊ จิ๊ ช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารักอะไรแบบนี้ เราจะสนุกกับการเล่นกับเธอภายหลังนะสาวน้อย!”
“เราลองชิมก่อนได้ไหมจะได้รู้รสชาติ?”
“ใช่! ฉันรอไม่ไหวแล้ว!”
หลังจากบรรลุข้อตกลงแล้ว ดวงตาของชายทั้งสองคนก็ส่องประกาย
หนึ่งในนั้นวางมือบนเสื้อผ้าของมาเดลีนและเริ่มถอดแจ็คเก็ตของเธอออก
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ พวกนายทั้งสองคนกำลังทำอะไร?”
ใครบางคนหยุดคู่หูคู่นี้ไว้ในขณะที่มาเดลีนกำลังเริ่มจะดิ้นรน
“นังตัวดีเพิ่งโทรมาและบอกว่าเธอจะมาที่นี่ในอีกไม่กี่นาที เธอบอกว่าอยากดูเราเล่นสนุกกับผู้หญิงคนนี้ปละอัดวีดีโอไว้ ถ้างั้นอย่าเพิ่งแตะต้องลูกเจี๊ยบนั่น”
“เซ็งชิบ! นังนั้นรู้ดีได้ไงว่าจะสนุก!” ชายที่จับเสื้อแจ็คเก็ตมาเดลีนอุทาน ทั้งสองเดินตามชายอีกคนออกไปและล็อคประตูไว้เหมือนเก่า
มาเดลีนลืมตาขึ้นค่อย ๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง หลังจากสงบสติอารมณ์แล้ว เธอประเมินมองดูสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัว ลังกระดาษแข็งทุกชนิดถูกทิ้งเกลื่อนห้องและเศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วพื้นตรงข้างล่างหน้าต่าง
เธอลากตัวไปข้างหน้า มาเดลีนจับเศษแก้วชิ้นใหญ่ด้วยมือของเธอและเริ่มถูไถกับเชือกที่อยู่ด้านหลังของเธอ
มือของเธอเริ่มมีเลือดออกจากเชือกก่อนที่เเชือกจะขาด
บาดแผลแค่นี้ทำอะไรเธอไม่ได้ ถ้าเทียบกับบาดแผลที่เธอเคยมีบนใบหน้าที่ต้องทนทุกข์ทรมานมาเมื่อก่อนมันเทียบไม่ได้เลยจริงไหม?
จากความเจ็บปวดท้ายที่สุด มาเดลีนตัดเชือกที่มัดมือของเธอได้สำเร็จ เธอเริ่มเชือนเชือกที่ข้อเท้า
ขณะจ้องมองหน้าต่างบานเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเธอและกล่องรก ๆ ที่เกลื่อนกลาดไปทั่วห้อง แผนการหลบหนีได้ก่อตัวขึ้นในความคิดของมาเดลีน
โอ้พระเจ้า ในขณะนั้นเสียงฝีเท้าเริ่มดังมาจากนอกประตูซะแล้ว …