บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 290
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 290
“ขอให้สนุกนะ วีล่า ควินน์! พวกเขาก็ไม่เลว!”
“เธอไม่อายบ้างหรือไง เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า … บางทีถ้าเธอขอร้องฉันดี ๆ ฉันอาจจะคิดอีกทีว่าจะปล่อยเธอไปก็ได้ แต่น่าเสียดาย ถ้าเธอดื้อดึงขนาดนี้ก็ตายไปซะ!” ดวงตาของเมเรดิธแข็งกร้าวพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ถูกผ้าพันแผลปิดไว้
มาเดลีนปฏิเสธที่จะยอมให้เมเรดิธทำร้ายเธอได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่เธอจะได้แก้แค้นกับทั้งหมดที่เคยทำกับเธอในตอนนั้น
ขณะที่มองชายสี่คนที่เข้ามาใกล้เธอมา มาเดลีนค่อย ๆ ยกหมัดขึ้น
เธอยอมสู้ตายดีกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเองตกไปอยู่ในเงื้อมมือของคนทรามพวกนี้
สายตาของเธอมองไปเจอเข้ากับท่อนไม้ข้างกำแพ งเธอรีบหยิบมันขึ้นมาก่อนที่ใครจะหยุดเธอได้ทัน
“โอ้? ช่างเป็นอะไรที่น่ากลัวแบบนี้ ฉันชักตื่นเต้นซะแล้วสิ” ชายที่มีแผลเป็นยิ้มออมมาอย่างน่าเวทนาพร้อมกับเอามือถูคางของเขา ขณะที่เขาจ้องไแท่งไม้ในมือของมาเดลีนอย่างไม่พอใจ “ฉันจะไม่ต่อสู้ถ้าฉันเป็นเธอนะ คนสวย กลัวว่าเธอจะถูกตีซะเปล่า ๆ สำหรับพฤติกรรมที่ไม่น่ารักนี้”
มาเดลีนเดินไปหาชายที่มีแผลเป็นพร้อมกับรอยยิ้มเยาะเย้ยที่ดึงดูดความสนใจ “คนที่ควรกังวลคือตัวนายเอง!”
“ฮ่า ฮ่ าฮ่า…” ชายมีแผลเป็นตะคอกพร้อมกับเสียงหัวเราะ เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับคำขู่ของมาเดลีนเลย พร้อมด้วยอันธพาลอีกสามคนเดินหน้าเข้ามาพร้อมกัน
จากนั้น มาเดลีนยกขาขึ้นไปเข้าระหว่างกาง ขาของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า!
“โอ๊ย!” ชายคนนั้นร้องโหยหวน! ชายคนนั้นกลิ้งไปรอบ ๆ พื้นด้วยความเจ็บ “นังตัวดี! ฉันต้องการให้ลูกเจี๊ยบตัวนี้ถูกทำลาย! ให้เธอชดใช้ซะ!”
“ครับ เจ้านาย!” อันธพาลที่เหลือปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายนี้ซ้ำขึ้นอีกครั้ง หนึ่งในนั้นจึงนำสเปรย์ยาสลบออกแล้วเล็งไปที่ใบหน้าของมาเดลีน
มาเดลีนพลาดท่าหายใจเอากลิ่นของสเปรย์นั้นเข้าไป ทำให้เธอเกิดอาการเวียนหัว
มาเดลีนกลั้นหายใจอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็เริ่มมองเห็นดวงดาวระยิบระยับบ้างแล้ว รอยยิ้มของผู้ชายที่น่าสมเพชไม่กี่คนแบ่งออกเป็นหลาย ๆ คนและแต่ละคนได้รุมล้อมรอบเธออยู่
มาเดลีนรู้สึกว่าขาของตัวเองอ่อนลง ถึงแม้จะใช้ไม้ค้ำยันตัวเองเธอก็ไม่สามารถขจัดเสียงหัวเราะที่น่าสะอิดสะเอียนจากรอบตัวเธอได้
“ไปสิ! วิ่ง! ทำไมเธอไม่วิ่งล่ะ ฮ่ะ?”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”
“ฉันจะให้เธอชดใช้! ถอดเสื้อผ้าของเธอออก!”
มาเดลีนค่อย ๆ สูญเสียสติของเธอที่มีไปอย่างช้า ๆ แต่คำพูดพวกนั้นทำให้เธอกำหมัดแน่นและเหวี่ยงไม้กระจายใส่ผู้ชายทุกคนกที่กล้าเข้าใกล้เธอ สุดท้ายแล้ว เธอล้มลงบนพื้นอย่างอ่อนแรงในวินาทีถัดมา
“อย่าแตะต้องฉัน!”
ในขณะที่ลมหายใจของมาเดลีนเริ่มสั่น แต่คลอนวิญญาณของเธอไม่ได้อ่อนลง
ในหมอกควันที่เลือนลาง เธอเฝ้ามองผู้ชายที่ยื่นมือมาหาและขณะที่เธอเห็นเมเรดิธนั่ง ยิ้มอย่างสบาย ๆ เฝ้าดูอยู่ไม่ไกลเกินไป
‘เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ด เธอฆ่าลูกของฉัน แล้วผลักดันฉันไปยังที่อันตรายที่ที่คุกคามขอชีวิตฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันสาบานว่าถ้าต่อให้ฉันกล้องตายวันนี้ ฉันก็จะลากเธอไปลงนรก!
ความเกลียดชังเผาเป็นสีแดงอยู่ในอกเธอ มันแข็งแกร่งพอที่จะทำให้มาเดลีนมีพลังที่เพิ่งค้นพบในตอนนี้เพื่อลุกขึ้นยืนสู้อีกครั้งอย่างมุ่งมั่น
เมเรดิธถึงกับตกตะลึงอีกครั้งเมื่อเห็นมาเดลีนยืนขึ้นมาได้อีก แต่เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีแรงที่จะต่อสู้กลับได้
พวกผู้ชายไม่สามารถรอได้อีก ไม่มีความอดทนใด ที่พวกเขาต้องอดกลั้น พวกเขาดึงมาเดลีนโดยกระชากแขนของเธอเมื่อเธอยืนและเริ่มถอดเสื้อผ้าของเธออย่างแรง
ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าสองดวงส่องตรงมาที่พวกเขาทันทีในขณะที่พวกเขาจัดการถอดแจ็คเก็ตของเธอออก รังสีของแสงทำให้พวกเขาแสบตาจนมองไม่เห็นและบังคับให้พวกเขาปิดตาหลีกเลี่ยงแสงนั่น
เจเรมี่นั่งอยู่ในรถซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาล้อมวีล่าไว้ยังไง ชุดของเธอบางส่วนหลุดออกไป โดยที่ไหล่เปลือยเปล่าของเธอถูกเปิดออก
เจเรมี่เม้มริมฝีปากบางของตัวเองแน่นเป็นเส้นตรงขณะที่นิ้วของเขาที่จับพวงมาลัยแน่น เกิดเปลวไฟที่ไร้การควบคุมเข้ารุมเร้าที่หน้าอกของเขาทันที!
เขาเหยียบคันเร่งมิดจนสุด เขาเล็งไปที่ชายคนหนึ่งที่ไม่ยอมปล่อยมาเดลีนไปอย่างแม่นยำ ชายคนนั้นกระเด็นถอยหลังเมื่อได้รับแรงกระแทก เจเรมี่ลงจากรถอย่างรวดเร็ว ด้วยความโกรธและอำนาจที่เหนือกว่าทำให้ชายคนนั้นกระเด็นออกไปขณะที่เขาเตะอันธพาลอีกสองคนที่จับมาเดลีนด้วยขาเพียงข้างเดียว
ไม่นานนัก มาเดลีนเสียการทรงตัวทันทีและล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
เจเรมี่รู้สึกว่าหัวใจของเขาดิ่งลงในขณะที่เขาเอื้อมมือออกไปอย่างกังวล เขาดึงมาเดลีนเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของตัวเองอย่างปลอดภัยและความโล่งใจสว่างวาบผ่านดวงตาเขา เมื่อรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของร่างกายเธอมีเมื่อเทียบกับเขาแล้ว “ไม่เป็นไรนะ มาเดลีน ไม่เป็นไร ผมมาช่วยคุณแล้ว”