บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 305
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 305
เมเรดิธถึงกับตะลึงและมีความกังวลเล็กน้อยเริ่มก่อตัวขึ้น “ทำไมจู่ ๆ คุณถึงถามฉันแบบนี้ล่ะ เจเรมี่?”
“คุณทำมันหายไปเหรอ?” เจเรมี่ถามอย่างเย็นชา
“ไม่! มันจะหายได้ไงกัน?!” เมเรดิธมั่นใจทันทีโดยพูดว่า “นั่นเป็นสิ่งที่คุณให้นะ ฉันเก็บมันไว้อย่างดีเลยล่ะ”
เจเรมี่จ้องมองเมเรดิธด้วยความสงสัยในดวงตาของเขา “แล้วมันอยู่ไหนกัน?”
“… ” เมเรดิธชะงักก่อนจะยิ้มเล็ก ๆ อย่างอ่อนโยน “คุณสงสัยไหมว่าทำไมฉันโหยหาคุณตลอดหลายปีที่ผ่านมา? แน่นอน ฉันเก็บไว้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทุกสิ่งที่คุณมอบให้ฉันถูกเก็บดูแลไว้อย่างดี ฉันเอามันออกมาให้ดูได้นะถ้าคุณไม่เชื่อฉัน!”
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบวิ่งออกจากประตูไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมเรดิธกลับมาพร้อมกับที่คั่นหนังสือขนาดเล็กที่ทำจากใบไม้ในมือของเธอ
ใบไม้เป็นของจริง เพราะมันถูกเคลือบระหว่างพลาสติกสองชิ้นทั้งใบและไม่แตกหัก—หลังจากเก็บไว้หลายปีที่ผ่านมา
“ดูสิ เจเรมี่” เมเรดิธยื่นที่คั่นหน้าหนังสือให้เขาพร้อมรอยยิ้มหวานบนใบหน้า น้ำเสียงของเธอฟังดูต้องการสื่อความหมาย “ฉันคิดถึงเมื่อก่อนมาก เจเรมี่ เมื่อย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่ฉันยังเป็นหนึ่งเดียวในใจของคุณ”
เจเรมี่เอื้อมมือไปหยิบที่คั่นหนังสือออกมากอย่างใจเย็นขณะที่เขาฟังที่เมเรดิธพูดทุกคำ
อันที่จริง มันเป็นสิ่งที่เขาสร้างขึ้นกับมือเมื่อหลายปีก่อน
เมเรดิธเป็นผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ
เขาล้มเลิกความคิดที่จะสงสัยนั้นออกไป ก่อนที่จะวางที่คั่นหนังสือไว้ข้าง ๆ
เมเรดิธถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เมเรดิธได้ให้คนตรวจสอบที่อยู่ของเจเรมี่ในขณะที่เขาได้เดินทางกลับ โดยสายสืบรายงานว่าเจเรมี่ต้องสงสัยบางอย่าง เขาได้เดินทางไปที่เอพริลฮิลล์
มีความเป็นไปได้สูงที่เกิดความสงสัยขึ้นหากเขาพบบางสิ่งหรือใครบางคนที่นั่น
ขอบคุณพระเจ้าที่เธอพบไดอารี่ที่เธอขโมยมาจากมาเดลีนที่บ้านและที่คั่นหนังสือถูกแนบระหว่างหน้ากระดาษไว้ หรือบางทีใครจะรู้ว่าหากไม่มีมันเมเรดิธจะต้องเจอกับปัญหาแบบไหน
ตอนนี้สีหน้าของเจเรมี่ไม่ได้แสดงออกอย่างเยือกเย็นอีกต่อไป เมเรดิธตัดสินใจหงายไพ่แสดงอารมณ์และบังคับให้น้ำตาร่วงหล่นลงมาจากดวงตาของเธอ
“ฉันขอโทษ เจเรมี่ ฉันเข้าห้องของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต ยกโทษให้ฉันเถอะนะ ได้โปรด?”
เธอค่อย ๆ ยกมือขึ้นจับแขนของเจเรมี่
“ฉันอยากอยู่ที่นี่จริง ๆ ฉันกลัวว่าจะมีใครโผล่มาข้างหลังฉันและจะพยายามข่มขืนฉันอีก ฉันกลัวมากจริง ๆ …”
“แต่คุณกับแจ็ค คือคนที่ฉันรักมากที่สุด เพราะฉะนั้นฉันคิดว่าอยากอยู่ใกล้ ๆ ทั้งสองคนแล้ว ทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดและช่วงเวลาที่เลวร้ายที่ผ่านมาได้โดยเร็วที่สุด”
เจเรมี่ดึงแขนของเขากลับอย่างเย็นชากับคำพูดของเธอ
“ถ้างั้นก็อยู่ถ้าเธอต้องการแบบนั้น” ปากของเขาเอ่ยขึ้นอย่างไร้อารมณ์
ไม่สำคัญว่าเมเรดิธจะอยู่ที่นี่หรือไม่อยู่ที่นี่ เพราะจุดที่สะอาดที่สุดมุมเดียวที่เขาเก็บรักษาไว้ตอนนี้ได้แปดเปื้อนไปแล้ว
เมเรดิธมีความสุข “คุณพูดจริงใช่ไหม เจเรมี่? ถ้างั้นครอบครัวของเราก็คงไม่ต้องแยกจากกันอีกแล้ว!”
เธอมองไปทางเจเรมี่ด้วยสายตาที่รักใคร่ “ฉันเพิ่งรู้ว่าคุณจะไม่ทิ้งฉันแบบนั้น เจเรมี่ คุณสัญญาว่าจะดูแลฉันตลอดไปนี่นา…”
ตลอดไป
รอยยิ้มที่ไม่สามารถระบุนิยามของมันได้กระตุกริมฝีปากเจเรมี่ที่คำนั้น
…
มาเดลีนเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้เฟลิเป้ฟัง โดยไม่ปิดบังอะไรไว้เลยส่วนเขาก็ตั้งใจฟังเงียบ ๆ พิงที่กำแพงใหญ่ที่มีหน้าต่างข้าง ๆ ด้วยท่าทีที่เขาใช้ความคิด
“เขาเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด เขาคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเราจริง ๆ เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะแต่งงานกับฉัน”
แววตาเย้ยหยันเปล่งประกายในดวงตาที่สวยงามของมาเดลีนขณะที่เธอจ้องร่างที่สว่างไสวของเฟลิเป้
“เจเรมี่ปฏิเสธที่จะเชื่อในสิ่งที่ฉันบอกเขาในตอนนั้นมาโดยตลอดและเลือกที่จะเชื่อเมเรดิธแทน เธอใส่ร้ายฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ตอนนี้ ฉันจะให้คนพวกนั้นได้ชิมความรู้สึกของการถูกใส่ความว่ารู้สึกยังไง”
คำพูดของเธอจบลง ทั้งคู่ตกอยู่ในความเงียบ