บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 309
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 309
เมเรดิธมองเจเรมี่ด้วยดวงตาเหมือนเม็ดอัลมอนด์ทรงเสน่ห์ในสายตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจขณะที่เธอพูดอย่างโกรธเคืองว่า “เจเรมี่ แจ็คเป็นลูกชายที่มีค่าที่สุดของเรา ฉันจะไม่มีทางยอมให้เขาเจ็บปวดเลยทั้งชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับเขา ฉันจะยอมทิ้งให้เขาเจ็บปวดได้ไงกัน?”
ไม่นาน เอโลอิสเดินเข้าไปหาแจ็คสันอย่างช้า ๆ เธอปลายสายตามองมาเดลีนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก “คุณควินน์ ฉันได้ยินมาว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับลุงของเจเรมี่ แล้วทำไมถึงใช้เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันทั้งวันกับคู่หมั้นลูกสาวของฉัน? พ่อแม่ของเธอไม่เคยบอกเหรอว่าการกระทำแบบนี้มันน่าละอาย?”
ในขณะที่เจอกับคำถากถางของเอโลอิส มาเดลีนเพียงแค่ยิ้มให้เธอด้วยความสงบ “นั่นเป็นคำถามที่ดี คุณนายมอนต์โกเมอรี ก็จริงที่พ่อแม่ของฉันไม่เคยสอนเรื่องแบบนี้หรอกเพราะหลังจากที่เกิดไม่นานพวกเขาพาลูกคนอื่นกลับไปเลี้ยงดูที่บ้านและดันทิ้งลูกสาวตัวจริงของพวกเขาไว้ที่ไหนก็ไม่รู้เนื่องจากความประมาทของพวกเขาเอง”
ขณะที่เธอเล่าเรื่องจริงของตัวเองทั้งหมด เจเรมี่มองเธออย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งนี้เคยเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างเขาคนนี้
ในขณะที่เห็นเธอเผยรอยยิ้มที่แสนสง่างามออกมา เขารู้สึกว่าหัวใจของเขาเจ็บโดยไม่ทราบสาเหตุ
ทั้งเอโลอิสและเมเรดิธต่างพากันผงะตาม ๆ กัน
‘นี่มันคล้ายกับประสบการณ์ชีวิตของมาเดลีนจริง ๆ?’ เมเรดิธคิดอย่างเงียบ ๆ คนเดียว
ทว่า เอโลอิสสะอึกเล็กน้อย และใบหน้าของเธอไม่มีรอยยิ้มดูถูกอีกต่อไป
เมื่อเห็นถึงสีหน้าท่าทางของเอโลอิสและเมเรดิธแล้ว ริมฝีปากบางสวยมาเดลีนกระตุกยิ้มที่มุมปาก
“แม้ว่าพ่อแม่ที่ให้กำเนิดฉันมาจะไม่เคยสอนเรื่องนี้ แต่คนที่เลี้ยงดูฉันมาได้สอนฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้และหลายสิ่ง เอาล่ะถึงตาฉันถามคุณบ้างแล้ว คุณนายมอนต์โกเมอรี ในเมื่อคนเป็นแม่ตัวอย่างที่ดีขนาดนี้แล้ว ทำไมลูกสาวของคุณถูกเลี้ยงมาให้เป็นคนน่ารังเกียจและเฉยเมยที่จะให้ความรักแก่คนในครอบครัว ตลอดจนในช่วงเวลาที่อันตรายขนาดนั้น เธอยังสามารถทิ้งลูกชายของตัวเองให้เดินหนีไปคนเดียวได้? มันดูเหมือนว่าการเลี้ยงดูของคุณจะไม่ได้ดีไปกว่าฉันสักเท่าไหร่เลยนะ คุณนายมอนต์โกเมอรี”
“เธอ กำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร?!” เอโลอิสพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “เธอกล้าใส่ร้ายลูกสาวของฉันแบบนี้ได้ยังไง? เธอต้องขอโทษเมเรดิธเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้น ฉันจะทำให้เธอรู้จักสำนึกเอง!”
“คุณแม่ … ” ดวงตาของเมเรดิธมีน้ำตาคลอที่แสดงความเสียใจ “เจเรมี่ นายได้ยินแล้วใช่ไหม? ฉันยอมให้คุณควินน์คนนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เธอก็ยังโต้ฉันไม่หยุดและเธอยังคอยใส่ร้ายฉันเสมอ ตั้งแต่ที่เจอเธอจนถึงตอนนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากก็เป็นเพราะเธอ ทำใมฉันต้องมีชีวิตที่ข่มขืนแบบนี้…”
ขณะที่ได้ยินเสียงมเรดิธร้องไห้ เอโลอิสกอดปลอบเธออย่างไม่สบายใจก่อนจะชี้นิ้วไปที่มาเดลีน
“วีล่า ควินน์ วางแผนจงใจลูกสาวของฉันโดยไร้ทางสู้! เธอมันเป็นผู้หญิงหน้าด้าน! เธอทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เข้ามาเป็นมือที่สามของเจเรมี่กับเมเรดิธเพื่อที่จะได้เขา เธอ…”
“คนที่เข้าไปเป็นมือที่สามไม่ใช่วีล่า มันคือผมต่างหาก”
เสียงนุ่มทุ้มต่ำของเจเรมี่เอ่ยขัดเอโลอิสอย่างดุดันและชัดเจน
เขาขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับแสดงสีหน้าที่เย็นชาดุจน้ำแข็ง
“ขอให้เรื่องนี้จบลงตรงนี้ และอย่าให้ใครได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก”
“อะไรกัน? ผู้หญิงคนนี้ลักพาตัวเมเรดิธไปแล้วตอนนั้นและนายยังจะให้ลืมเรื่องนี้ไปเฉย ๆ เหรอ?” และแน่นอนว่า เอโลอิสไม่มีทางยอมรับมันได้ ในดวงตาของเธอมีแต่ความโกรธขณะที่พูดว่า “ฉันไม่มีทางยอมให้ลูกสาวของฉันถูกรังแกโดยเสียเปล่าแน่! เมเรดิธ ไม่ต้องกังวลนะ แม่จะตามหาความยุติธรรมคืนให้เอง!”
เมเรดิธกระพริบตา เพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย เธอทำได้เพียงเล่นละครต่อไป “ความยุติธรรมเป็นสิ่งที่ทุกคนควรได้รับ ฉันเชื่อว่าใครที่เคยทำสิ่งไม่ดีจะได้รับผลตอบแทนที่สาสมอย่างแสนสาหัสแน่นอน!”
ขณะที่เธอพูด เธอหันหน้าไปมาเดลีนอย่างแน่วแน่และมั่นใจในคำพูด
มาเดลีนเปิดปากเพื่อพูดบางอย่างที่มีความหมายออกไป “คุณครอว์ฟอร์ดพูดถูก และฉันก็เชื่อด้วยว่าอีกไม่นานคนที่ทำสิ่งเลวทรามต่ำช้าจะต้องถูกลงโทษอย่างแสนสาหัสในความผิดที่พวกเขาก่อ”
“… ” เมเรดิธตกตะลึงและเริ่มหลีกเลี่ยงสายตามาเดลีนกับสายตาบางอย่างที่ยังไม่สำนึกผิด
“ในเมื่อแจ็คไม่เป็นอะไรแล้ว ฉันก็คงกลับเลยแล้วกัน” มาเดลีนยิ้มอย่างอ่อนโยนและมองแจ็คสันที่มองมาทางเธอ “ไปก่อนนะ แจ็ค”
แจ็คสันมองเธอ ดวงตากลมโตของเขากระพริบถี่ ๆ เหมือนต้องการที่จะพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายแล้ว เขากลับไม่ทำมัน
“คุณจะกลับแล้วเหรอ?” สายตาของเจเรมี่ที่มองดูลึกลับ
“แล้วจะให้ฉันอยู่ที่นี่แล้วโดนคนอื่นสาปแช่งต่อ หรือไง?” มาเดลีนยิ้ม ขณะที่รู้สึกว่าเอโลอิสที่มองเธอนั้นยังเต็มไปด้วยความรังเกียจมากมาย
แม้ว่าเธอจะบอกตัวเองว่าเธอไม่สนใจ แต่สุดท้ายแล้ว เอโลอิสก็เป็นสายเลือดเดียวกับเธอและเธอไม่สามารถเพิกเฉยที่จะเห็นท่าทีที่แม่ตัวเองแสดงออกมาว่ารังเกียจเธอได้นานนัก
“ฉันจะไปส่งคุณกลับ” เจเรมี่เสนอ
สีหน้าของเมเรดิธหม่นหมอง “เจเรมี่ แจ็คกับฉันเพิ่งได้เจอเรื่องสะเทือนขวัญ คุณยังทิ้งให้พวกเราอยู่กันตามลำพังอีกเหรอ?”
“คุณวิทแมน คุณอยู่ที่นี่ไปเถอะ ไม่ต้องกังวลฉันหรอก ฉันมันก็แค่คนนอก” มาเดลีนมองไปทาง เจเรมี่ จากนั้นเธอก็หันหลังจากไปด้วยความเต็มใจ
“ฮึ่ม ก็ยังดีที่เธอยังรู้จักประมาณตัว!” เอโลอิสกลอกตา
เมเรดิธพอใจมากที่เห็นเช่นนั้น แต่ความสุขของเธอมีได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นหลังจากที่มาเดลีนหันหลังไปได้สักพักเจเรมี่ก็เดินตามหลังเธอไป
“เจเรมี่!” เธอตะโกนเรียกเขา แต่ว่าเขาไม่แม้แต่จะเหลียวหลังกลับมามองเธอสักนิด