บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 332
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 332
ถ้างั้นหมายความว่าเมเรดิธไม่ใช่คนโปรดของเจเรมี่อีกต่อไปสินะ กลับกลายเป็นว่าคนที่เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษตอนนี้เป็นคนที่ตายไปแล้ว…
“คุณกำลังมองหาอะไรงั้นเหรอ? ให้ฉันช่วยหาไหม?” มาเดลีนเอ่ยถามขึ้นอย่างใจเย็น ในขณะที่เธอเห็นว่าเจเรมี่หยุดเคลื่อนไหวเหมือนจะบอกว่าเขาเพิ่งรับรู้ว่ามีใครบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่อยู่ที่นี่ด้วย
เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ รูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของเขาแปลกไปด้วยความเศร้าที่ไม่อาจบรรยายได้ปะปนไปด้วยความกลัวในขณะที่ดวงตาของเขา เต็มไปด้วยความดุร้ายน่ากลัวและรุนแรง เขาดูราวกับว่าเขากลัวว่าเขาอาจจะไม่สามารถกู้คืนบางสิ่งหรือหาบางสิ่งนั้นกลับคืนมาได้อีก
มาเดลีนเริ่มสับสนมากขึ้นและเธอถามเขาอีกครั้งในขณะที่เดินเข้าไปหาเขา “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ผมจะไปส่งคุณที่บ้านตอนนี้” ในที่สุดแล้วเขาก็ยอมพูดออกมา แต่ไม่มีความอบอุ่นหรืออารมณ์ใด ๆ ที่สามารถสัมผัสได้ในน้ำเสียงของเขา มีเพียงความเย็นยะเยือกที่น่ากลัวแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา
มาเดลีนได้ถูกพาตัวกลับมาส่งที่อพาร์ตเมนต์ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจเรมี่มักจะรอให้เธอเดินเข้าไปในตึกที่พักก่อนที่เขาจะจากไป แต่วันนี้ ทว่าเขาขับรถออกไปทันทีที่เธอก้าวลงจากรถได้ไม่ถึงเสี้ยววินาที
เธอกำลังยืนอยู่ในจุดที่กำลังสับสน อย่างหาคำตอบไม่ได้ในขณะที่มองไปยังรถที่เพิ่งขับออกไป ดวงตาของเธอแคบลง ผู้หญิงที่อยู่ในหลุมศพนั้นเป็นใครกัน? เธอมีความสำคัญกับเขาอย่างมากในขณะที่หลุมศพของเธอถูกทำลายเมื่อเขาเห็นจนแทบจะบ้าคลั่งในนาทีนั้น
อีกด้านหนึ่ง เจเรมี่กำลังเร่งความเร็วมุ่งไปที่ประตูคฤหาสน์ตระกูลวิทแมน ก่อนที่แม่บ้านจะเดินเข้าไปแจ้งคนในบ้าน เจเรมี่รีบวิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกับกลิ่นอายที่ไม่เป็นมิตร
ในเวลาเดียวกัน เมเรดิธกำลังดื่มน้ำชายามบ่ายและมองดูเครื่องประดับกับเอโลอิสอย่างสบาย ๆ ทันทีที่พวกเธอเห็นเจเรมี่เดินเข้ามาข้างในอย่ารีบร้อน พวกเธอทั้งสองต่างพากันผงะ “เจเรมี่” เมเรดิธมีอาการตกใจและเธอก็วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เจเรมี่ คุณมาที่นี่เพื่อมาพบฉันใช่ไหม?”
เจเรมี่จ้องใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าเขา ด้วยดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณใช่ไหมที่เป็นคนทำ คุณใช่ไหม?”
“…” เมเรดิธทำหน้ามึนงงด้วยความไร้เดียงสา
“เจเรมี่ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรงั้นเหรอ? ฉันไปทำอะไร? ฉันอยู่กับคุณแม่ที่นี่ตั้งหลายวันและแทบไม่ได้ออกจากบ้านเลยสักก้วเดียว”
“เจเรมี่ ที่พูดหมายความว่ายังไง? คุณรีบมาที่นี่แทบจะในทันทีเพื่อจะมายัดเยียดข้อกล่าวหา มันเป็นเพราะวีล่าพูดอะไรบางอย่างออกมาอีกแล้วงั้นเหรอ? ทำไมยัยนั่นชอบทำให้เกิดปัญหา!”
“ผมไม่ได้กำลังพูดอยู่กับคุณกรุณาหุบปากตัวเองไว้จะดีกว่าและอย่าให้ได้ยินว่าพูดใส่ร้ายวีล่าอีก” เจเรมี่ ไม่ได้มองไปที่เอโลอิส ดวงตาคมเข้มอันย็นชาขจ้องไที่เมเรดิธ เท่านั้น
“ผมยังไม่ได้คุยอะไรกับคุณเลยนะ คุณควรปิดปากตัวเองดีกว่าและอย่าให้ผมได้ยินการใส่ร้ายต่อวีล่าอีก” เจเรมี่ไม่ได้มองไปที่เอโลอิส ดวงตาที่คมและเย็นชาของเขาจับจ้องไปที่เมเรดิธเท่านั้น
“ผมจะให้โอกาสคุณสารภาพอีกครั้ง คุณเป็นคนที่สั่งให้คนไปรื้อถอนหลุมศพ หมายเลข 97 ถนนสันติภาพหรือไม่?”
เขากล่าวออกมาอย่างไม่อ้อมค้อม ถึงสถานที่ตั้งของสุสาน
เมเรดิธตาเบิกกว้างพร้อมกับทำท่าทางสงสัย “หมายเลขที่ 97 ถนนสันติภาพ งั้นเหรอ? เจเรมี่ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณกำลังพูดอะไร”
ดวงตาเย็นชาของเจเรมี่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอมรับใช่ไหม หืม?”
“ฉัน …ฉันไม่รู้เรื่องอะไรเลยนี่ เจเรมี่…”
“ถ้าภายในคืนนี้คุณไม่มาสารภาพกับผมโดยตรง ก็ขอให้คุณคิดถึงผลที่จะตามมาอย่างรอบคอบให้ดี”
หลังจากที่เจเรมี่ทิ้งคำพูดเหล่านั้นเอาไว้ เขาก็หันหลังจากไปอย่างไม่แยแส
“เจเรมี่ เจเรมี่!” เมเรดิธรีบวิ่งไล่ตามเขาในขณะที่เขาก้าวเดินออกไปแล้ว แต่เจเรมี่ก็ยังคงเดินหนีไป
หลุมศพของมาเดลีนถูกทำลาย โกศของเธอและแหวนแต่งงานที่เขาวางไว้หลังหลุมฝังศพก็หายไปเช่นกัน
เขาคิดไม่ออกแล้วว่าจะมีใครเกลียดมาเดลีนมากขนาดนี้ได้นอกเสียจากเมเรดิธ
มาเดลีนตายจากเขาไปแล้วและขี้เถ้าของเธอเป็นเพียงความทรงจำที่เหลือไว้บนโลกเพียงอย่างเดียวที่เขาสามารถสัมผัสมันได้ แม้ว่าตอนนี้สิ่งนั้นหายไป
ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาโดยที่เขาไม่รู้ตัวหลังจากที่เขากลับมาที่คฤหาสน์ของตัวเอง
เขากระวนกระวาย ความคิดของเขาถูกดึงให้คิดอย่างรุนแรงไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ดูเหมือนเขาจะดูซีดมากขึ้นเมื่อช่วงบ่ายผ่านไป
เขามองไปที่ห้องครัวคล้ายกับว่าเขาเห็นมาเดลีนทำอาหารอยู่ในนั้นขณะที่เธอสวมผ้ากันเปื้อนลายดอกโรสแมรี่ แล้วเธอก็หันหน้ามา เธอยิ้มและพูดกับเขาด้วยเสียงที่นุ่มและอ่อนโยนว่า “เจเรมี่ อาหารเย็นของเราเสร็จแล้วนะ” รอยยิ้มของเธอสวยงามจริง ๆ ลักยิ้มและคิ้วที่โค้งเข้ากับใบหน้าอ่อนหวาน แต่ในขณะที่เขายื่นมือออกไป เธอก็หายไป
ทั้งหมดเป็นเพียงแค่จินตนาการของเขาเท่านั้น
ดวงตาของเขาในขณะนี้แดงขึ้น และความคิดของเขาย้อนกลับไปในช่วงที่ทั้งสองพบกันครั้งแรก—ช่วงเวลาที่แสนสวยงามครั้งนั้น ในตอนที่ พวกเขาสบตากันทุกการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธออยู่ในใจเขามาตั้งแต่แรกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีตัวตนอีกต่อไปและทุกอย่างเป็นความฝันอันสวยหรูในคืนที่มืดมิด
ทันใดนั้น เขาได้ยินการเคลื่อนไหวบางอย่างจากทางเข้าของตัวบ้าน เจเรมี่เบิกตาแดงคู่นั้นแต่ยังคงมีความเย็นชาอยู่ในสายตา
เขายังไม่ปิดประตูบ้านเพราะเขารู้ดีว่าจะต้องมีคนมา
อย่างแน่นอน เธอจะต้องมาหาเขาก่อนมืดแน่นอน
เมเรดิธแสดงสีหน้าออกมาอย่างแบกรับโลกทั้งใบในขณะที่เธอเห็นชายที่หล่อเหลานั่งอึมครึ้มอยู่บนโซฟา เธอเดินก้าวเข้าไปหาเขาทีละก้าวด้วยหัวใจที่เต้นระรัว แต่หลังจากที่หายใจเข้าลึก ๆ หนึ่งครั้งก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อยและพูดว่า “คุณพูดถูกแล้ว ฉันเป็นคนสั่งให้ใครบางคนไปทำเอง ฉันจ้างให้คนไปทำลายหลุมศพมาเดลีนเองแหละ”