บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 362
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 362
“ผมประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมาและมอบให้กับวีล่าเองครับ” แจ็คสันพูดออกมาอย่างนุ่มนวล
เจเรมี่มองดูเด็กน้อยตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ “นี่นายฝังชิพไว้ที่สร้อยเส้นนี้เหรอ?” เขาเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
แจ็คสันยืนขึ้นมองกวาดไปทั่วทะเลสาบ บนพื้นผิวที่สงบของทะเลสาบแห่งนี้โดยขณะที่กำลังถูกฝนกระหน่ำเป็นเวลาเดียวกัน และดวงตาของแจ็คสันดูว่างเปล่า
กระนั้น ในขณะนี้ เจเรมี่ถอดเสื้อของตัวเองออกและกระโดดลงไปโดยไม่ลังเลอะไรทั้งสิ้น ในหัวของเขาคิดเพียงแค่ว่าเขาต้องตามหาเธอให้พบ…
เวลาล่วงเลยผ่านไปท้องฟ้าเริ่มมืดเข้ามาทุกที
ในตอนนี้ฝนจะหยุดตกไปแล้วแต่การค้นหาร่างของเธอยังคงดำเนินต่อไป
ณ ตอนนี้เป็นช่วงฤดูต้นใบไม้ร่วงทำให้ลมหนาวที่พัดผ่านในตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวเย็น ส่งผลให้ทั้งคู่หนาวจนเข้ากระดูกเพราะเสื้อผ้าที่เปียกปอน
เป็นเวลากว่าหกชั่วโมงแล้วที่วีล่าพลัดตกลงมา เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเมเรดิธจึงรู้ว่าแผนการของเธอสำเร็จ
นักดำน้ำมืออาชีพมากมายเข้าร่วมการค้นหาแต่ก็ยังไม่มีใครพบวีล่า แน่นอนว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังพบเจอกับความตายของตัวเองอย่างแน่นอน
เมเรดิธแทบจะร่าเริงออกมาให้เห็น เธออยากจะกลับบ้านไปพักผ่อนให้สบายใจ แต่เมื่อเธอเห็นเจเรมี่ยังยืนอยู่ตรงนั้น เธอรู้สึกหงุดหงิด
ถ้าต้องการบอกให้เขากลับบ้านพร้อมกันกับเธอ แต่เธอไม่กล้าเข้าใกล้เขาเมื่อเขาเป็นแบบนี้
เวลาที่เธอมองดวงตาเย็นชาของเขา เธอรับรู้ได้ถึงความเย็นที่ร้าวเข้ามาจนถึงกระดูก
เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้ว เธอตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับเขาด้วยความลังเลเล็กน้อย
“เจเรมี่ คุณอยู่กลางสายฝนมานานมากพอแล้วและกำลังเปียกมากในตอนนี้ด้วย คุณควรกลับไปก่อน ถ้าไม่อย่างนั้น คุณอาจจะป่วยได้นะ” น้ำเสียงของเธอดูนุ่มนวลเมื่อแสดงความเป็นห่วงเป็นใย
เจเรมี่ทำหูทวนลม ใบหน้าของเขาหลงเหลือไว้ซึ่งความหล่อและไร้อารมณ์ใด ๆ ทั้งนั้น
เมเรดิธสวมบทบาทเป็นคนดูอ่อนโยน “เจเรมี่ ได้โปรดเชื่อฉันสักครั้ง ฉันไม่ได้เป็นคนผลักวีล่านะ เธอก็แค่ต้องการใส่ร้ายฉัน ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพราะว่าเธอต้องทนทุกข์กับผลที่มาจากการกระทำของตัวเองเท่านั้น”
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอเห็นเจเรมี่ปลายสายตาจ้องเธออีกครั้ง
หัวใจของเมเรดิธเต้นแรง เธอไม่สามารถทนมองเข้าไปในตาของเจเรมี่ได้อีกต่อไป
ในขณะนี้เขามีสีหน้าและท่าทางคล้ายกับวันที่เขายืนรออยู่นอกประตูในวันเดียวกันกับที่มาเดลีน ถูกรีบพาไปยังห้องฉุกเฉิน ย้อนกลับไปในตอนนั้น ดวงตาของเขาน่ากลัวมาก ดวงตาทั้งสองข้างมืดมนจนดูเหมือนว่ากำลังจะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังขวางทาง สายตานั่นดูน่ากลัวมากแม้เพียงแค่การจ้องของเขาเพียงครั้งเดียวสามารถเชื่อมตัวเธอแตกสลายออกได้เป็นล้านชิ้น
“ทางที่ดีคุณควรสวดภาวนาให้เธอปลอดภัยจะเป็นการดีที่สุด” คำพูดของเขาเย็นชาไร้เยื่อใยในขณะที่ดวงตาเป็นเหมือนกับมีดคม “หากเกิดอะไรขึ้นกับเธอล่ะก็ ผมจะฝังคนที่ทำร้ายเธอเอาไว้ข้าง ๆ ร่างของเธอ”
น้ำเสียงของเขาไม่ได้พูดเล่นเลย ในตอนนี้ หัวใจของเขากำลังจมลงไปในขุมนรกที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ความรู้สึกพวกนั้นกำลังบอกกับเขาว่าเขากำลังห่วงใยผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน
“…” เมเรดิธสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเธอถูกเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดจากความกลัว “เจเรมี่ ไม่ใช่ ฉันไม่ได้…” เธอร้องไห้สะอื้นออกมา “แจ็ค ลูกรู้ไหมว่ากำลังฆ่าแม่ด้วยคำพูดของลูก? พูดได้ยังไงว่าแม่เป็นคนผลักวีล่า? ลูกอายุแค่ห้าขวบทำไมถึงกลายเป็นเด็กขี้โกหกไปได้ แล้วมันจะเป็นยังไงหลังจากที่ลูกโตขึ้น?”
แจ็คสันมองเมเรดิธที่กำลังกล่าวโทษเขาอย่างไม่แยแส “ผมไม่ได้โกหกสักหน่อย”
“แจ็ค ทำไมพูดเหลวไหลอยู่ได้! ยาชนิดใดที่ถูกวีล่าป้อนใส่ปาก? ทำไมหลานถึงยังเข้าข้างเธออยู่นั่นแหละ? ” เอโลอิสพูดด้วยน้ำเสียงทำลายล้าง “เมอร์เป็นแม่ของหลานนะ ตัวหลานจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันงั้นเหรอ?”
“วีล่าเป็นคนดีครับ” แจ็คสันพูดช้า แต่ผมหนีออกมาได้ และเห็นด้วยตาทั้งสองว่าแม่เป็นคนผลักวีล่าให้ตกลงไป”
เจเรมี่ได้ฟังแบบนี้แล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองเมเรดิธด้วยสายตาที่ทวีคูณความเย็นชา “คุณต้องการกำจัดเด็กคนนี้ทิ้งไปงั้นเหรอ?”
“ไม่! ไม่ใช่!” เมเรดิธส่ายหัวปฏิเสธอย่างเร่งรีบ
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?” เอโลอิสปฏิเสธ “เมอร์ให้กำเนิดแจ็คหลังจากอุ้มเขามาสิบเดือน เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไง? แจ็ค หลานบ้าไปแล้วเหรอ? พูดจาใส่ร้ายแม่ตัวเองแบบนี้ได้ยังไงกัน?”
เมเรดิธร้องไห้อย่างเจ็บปวด “แจ็ค ทำไมถึงทำกับแม่แบบนี้? ทำไมโกหกและกล่าวหาแม่อย่างผิด ๆ แบบนี้?”
“คนที่โกหกมีคนเดียวไม่ใช่แจ็คสัน แต่เป็นเธอเองนั่นแหละ เมเรดิธ”
ท่ามกลางความมืดในตอนกลางคืน มีเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างแผ่วเบา
หัวใจที่นิ่งและดิ่งลงของเจเรมี่ดีดตัวขึ้นมาทันที เขาเลิกคิ้วตัวเองขึ้นและเห็นรูปร่างที่คุ้นเคยได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าภายใต้คืนที่เงียบสงบ
“วีล่า!” เขาร้องเรียกเธอด้วยน้ำเสียงของเขาฟังดูคล้ายกับได้เจอสิ่งของสำคัญที่ขาดหายไป
ใบหน้างดงามของเธอสะท้อนอยู่ในตาสีดำของเขาในขณะที่หัวใจของเขาค่อย ๆ ค้นพบจังหวะการเต้นของหัวใจรัว ๆ อีกครั้ง
เมเรดิธเงยหน้าขึ้นด้วยความไม่เชื่อสายตา ทั้งขาและแขนของเธอแทบหมดแรงเมื่อเห็นเจ้าของเสียงขยับเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจมากที่สุดคือเมื่อเธอเห็นบุคคลที่ถูกวีล่าจับไว้เป็นตัวประกัน เธอรู้สึกราวกับว่าทุกสิ่งได้จบสิ้นแล้ว