บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 388
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 388
มาเดลีนยืนมองดูรถที่ขับออกไปอย่างเงียบ ๆ จริง ๆ แล้วสิ่งที่พูดไป มันไม่ใช่เรื่องโกหก
ลูกสาวของพวกเขายังมีชีวิตอยู่จริง
คนที่เสียชีวิตคือ มาเดลีน ครอว์ฟอร์ด ที่งี่เง่าและโง่เขลา เอวลีน มอนต์โกเมอรี ไม่ใช่ลูกสาวของพวกคุณ
เจเรมี่วางแผนที่จะพามาเดลีนไปที่คฤหาสน์วิทแมน หลังจากที่พวกเขามาเยี่ยมเอโลอิส
ทว่า เขาได้เปลี่ยนใจเมื่อเหตุการณ์พลิกผันอย่างกะทันหัน “ผมเพิ่งจำได้ว่า ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ ผมจะไปส่งคุณกลับบ้านก่อนและไปรับคุณในคืนนี้ได้ไหม?”
มาเดลีนยิ้มอย่างอ่อนโยน “ไปเถอะ เจเรมี่ ฉันจะรอให้คุณมารับ เมื่อคุณทำเรื่องที่ต้องทำเสร็จแล้ว”
เจเรมี่ยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นไม่ได้มาจากใจ
เขาแค่ฝืนยิ้มออกมา
มาเดลีนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตัวเขา นับตั้งแต่ที่เขาได้ยินว่าเมเรดิธเป็นของตัวปลอม
หลังจากเธอลงจากรถ มาเดลีนเห็นเจเรมี่ขับรถออกไปโดยก่อนหน้านี้ไม่ได้เหลียวหลังมองเลย
ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับวิธีที่เขาเฝ้ามองเธอตั้งแต่ลงจากรถก่อนที่เขาจะขับรถจากไป
เมื่อเธอคิดได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มาเดลีนจึงเรียกรถอีกคันเพื่อตามเขาไป
เธอพบว่าเจเรมี่หยุดรถที่ศูนย์กักกัน
เขามาเยี่ยมเมเรดิธเหรอ?
ดวงตาของมาเดลีนแสดงถึงความรู้สึกที่เยือกเย็น ขณะที่ริมฝีปากของเธอมีรอยยิ้มเย้ยหยัน
“คุณยังรักเธออยู่ ใช่ไหม เจเรมี่?”
…
เมเรดิธดีใจเมื่อเธอรู้ว่าเจเรมี่มาเยี่ยมเธอ!
โอ้ เมเรดิธนึกในใจว่าเธอจะอาบน้ำและแต่งหน้าสวย ๆ ได้ยังไงกัน สถานกักกันทำให้การนอนหลับไม่สนิทมันเป็นเรื่องยากสำหรับการอยู่ที่นี่ แม้เธอจะไม่ชอบรูปร่างหน้าตาของเธอตอนไม่แต่งหน้า แต่เมเรดิธก็ชอบคิดว่าตัวเองค่อนข้างสวยอยู่แล้ว นอกจากนี้ เธอยังมีกลเม็ดเด็ดที่เธอซ่อนไว้ ดังนั้นเมเรดิธก็ยังรู้สึกสบายใจอยู่ดี
เมเรดิธเดินออกมาอย่างสบายใจและไม่คิดอะไรมาก เธอยังคิดขึ้นมาได้ว่าเธอต้องตรวจเสื้อผ้าหน้าผมของเธอทันทีก่อนที่จะออกมาถึงห้องกักขังเพื่อพบกับเขา
เมเรดิธรู้สึกว่าเท้าของเธอเย็นเฉียบ ขณะที่ดวงตาของเธอจ้องมองไปที่การแสดงออกที่เหินห่างของชายที่นั่งอยู่ไม่ไกลในตอนที่ประตูเปิดออก
เธอแสดงรอยยิ้มของเธอออกมา แล้วค่อย ๆ เดินไป เธอสาบานได้เลยว่าสำหรับอุณหภูมิรอบตัวเธอมันรู้สึกลดลงหนึ่งองศาในทุก ๆ ครั้งที่เธอเดินเข้าไป
เมเรดิธทำใจของเธอให้สงบลงด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีและนั่งลงต่อหน้าเจเรมี่
เธอบีบน้ำตาออกจากดวงตาของเธอ เธอเปิดปากที่กำลังแสดงอารมณ์สะอึกสะอื้นของเธอ “ในที่สุดคุณก็มาหาฉัน เจเรมี่ ฉันคิดถึงคุณมาก มันแย่มากเลยที่นี่ ฉันถูกใครบางคนในที่นี้ทำร้ายฉันเมื่อคืนนี้ด้วย พวกเธอบอกว่าวีล่าเป็นคนบอกให้ทำร้ายฉัน เจเรมี่ ฉันกลัวมาก…”
เมเรดิธสะอื้นแล้วพูดต่อว่า “วีล่าใส่ร้ายฉันจริง ๆ เจเรมี่ เธอถึงกับติดสินบนพ่อแม่บุญธรรมของฉันเพื่อให้พวกเขาเป็นพยานต่อต้านฉัน ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เจเรมี่ อย่าปล่อยให้เธอหลอกคุณ!”
“หลอกผมงั้นเหรอ?”
เสียงที่เย็นยะเยือกของเจเรมี่ก็ดังทันทีที่เธอพูดแบบนั้นออกมา
เมเรดิธสั่นสะท้านขณะจ้องไปที่ดวงตาที่ลึกล้ำของเจเรมี่
มองเห็นชายผู้นี้ที่แต่งตัวติดกระดุมสีดำมิดชิดแล้วยังคลุมเสื้อกันลมข้างนอกอีกชั้นหนึ่ง เขาดูไม่สนใจเธอเลยสักนิดด้วยออร่าที่เย็นชาจากตัวเขา ช่างดูเย็นยะเยือกต่อสิ่งรอบ ๆ
“ทุกสิ่งที่ฉันบอกคุณ มันคือเรื่องจริง เจเรมี่ คุณไม่เชื่อฉันแล้วเหรอ? คุณลืมสัญญาที่ให้ไว้กับฉันที่ริมทะเลหรือเปล่า? คุณบอกว่าคุณจะปกป้องฉัน รักฉัน และแม้กระทั่งจะแต่งงานกับฉัน”
“ฮึ้มม”
เจเรมี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ
เมเรดิธสั่นสะท้านอีกครั้งด้วยความกลัว เธอสูญเสียความกล้าที่จะพยายามพูดโกหก
เธอจ้องไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างตั้งใจ อารมณ์ของเขาไม่สามารถเข้าใจได้เลย “เกิดอะไรขึ้น เจเรมี่? อะไร—”
เขาขัดจังหวะคำถามของเมเรดิธ เจเรมี่ยืนขึ้นทันที ร่างสูงผอมเพรียวของเขาทำให้เกิดเงาปกคลุม น้ำตาปลอม ๆ เกิดประกายในดวงตาของเมเรดิธ เขาเอื้อมมือไปจับคอเมเรดิธ เขาดึงเธอเข้าหาตัวเองอย่างรุนแรง
ดวงตาอันชั่วร้ายของเขาจ้องไปที่เมเรดิธ “คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมพบที่ริมทะเลในเอพริลฮิลล์ตั้งแต่แรก!”