บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 575
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 575
อีวอนกำลังมีความสุขจากความทุกข์ของคนอื่นขณะที่เธอรอให้ตำรวจพาเมเดลีนไป แต่เธอไม่คาดคิดว่าเจเรมี่จะกลับมาทันเวลาพอดี
เธอกังวลว่าแผนของเธอจะพังหากตำรวจมัวชักช้า อีวอนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เจเรมี่ พี่กลับมาทันเวลาพอดี เมเดลีนทำร้ายคุณปู่อีกแล้วค่ะ! ดูสิ! ที่แขนของคุณปู่มีบาดแผลใหม่เต็มเลย!”
“ฉันเป็นคนโทรแจ้งตำรวจเอง ผู้หญิงคนนี้ชั่วร้ายเกินไป เธอต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย!” ใบหน้าของวินส์ตันโกรธจนเปลี่ยนเป็นสีเขียว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ
คาเลนแสร้งทำเป็นคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง “เมเดลีน ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว แล้วทำไมเธอถึงยังคิดที่จะแก้แค้นพวกเรานักหนา? เมเรดิธเป็นคนเดียวที่ทำร้ายและใส่ร้ายเธอ มันเกี่ยวอะไรกับพวกเราตระกูลวิทแมนล่ะ? เธอทำให้เจเรมี่สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว หรือเธอจะหยุดมือก็ต่อเมื่อคุณปู่ต้องตายอย่างนั้นเหรอ?”
เธอแสร้งทำเป็นบีบน้ำตาออกมาคลอเบ้า แสดงอาการโศกเศร้าและโกรธเคือง
“ท่านปู่ผู้น่าสงสาร ท่านแก่แล้วและยังต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกทำร้ายแบบนี้ คุณตำรวจคะ คุณต้องลงโทษผู้หญิงคนนี้ให้หนักนะคะ! ให้สมกับที่เธอเป็นคนร้าย!”
คาเลนชี้ไปที่เมเดลีนอย่างมั่นใจ
ตำรวจหยิบกุญแจมือขึ้นมาอีกครั้ง “คุณเมเดลีน ครอว์ฟอร์ด พยานได้ให้การว่าคุณทำร้ายชายชรา โปรดกลับไปที่สถานีตำรวจกับเราเพื่อให้ปากคำต่อไปด้วยครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดและกำลังจะคว้ามือเมเดลีน
ภาพเดจาวูเหตุการณ์ที่เธอถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวนกลับเข้ามาในความคิดของเมเดลีนอีกครั้ง
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากครั้งที่แล้วคือ ในเวลานี้เจเรมี่อยู่ข้างเธอ
เจเรมี่เอื้อมมือออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อคว้ามือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้
เขาแสดงสายตาทิ่มแทงและน่าเกรงขามออกมาพลางพูดอย่างเยือกเย็น “ผมบอกว่าอย่าแตะต้องภรรยาของผม นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเธอเลย”
เขาผลักมือของตำรวจออกไป น้ำเสียงของเขาฟังดูมั่นอกมั่นใจ
“เจเรมี่ ทำไมแกถึงยังปกป้องผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้อยู่อีก? หล่อนเอายาอะไรให้แกกิน? นี่แกลืมไปแล้วเหรอ ว่าแกเกลียดผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน?” วินส์ตันเริ่มพูดพล่อย ๆ ด้วยความโกรธ “ดูคุณปู่ของแกสิ เขาจะตายจากการถูกยัยนี่ทารุณกรรมอยู่แล้ว!”
“เจเรมี่ พี่หยุดได้แล้ว พี่กำลังถูกแม่มดคนนี้หลอกนะ ถ้าพี่ปกป้องเธออีกครั้ง เหยื่อรายต่อไปอาจเป็นคุณป้าคาเลนก็ได้!”
คาเลนตกใจ เมื่อจู่ ๆ เธอก็ถูกเอ่ยชื่อขึ้น เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่เพื่อคว่ำบาตรเมเดลีน เธอแสร้งทำเป็นหวาดกลัว “ทำไมเราต้องรอให้ถึงคราวหน้าล่ะ? เจเรมี่ ลูกไม่รู้อะไรเลยสินะ เมื่อไหร่ที่ลูกไม่อยู่ ผู้หญิงคนนี้จะต่อต้านแม่ตลอด เธอเคยทำ…”
“พอเถอะค่ะ” เมเดลีนพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองและขัดจังหวะคาเลน
เธอเลิกคิ้วอันสมบูรณ์แบบของเธอ “เมื่อพิจารณาจากทุกอย่างแล้ว มันก็เป็นเพียงแค่คำพูดของพวกคุณฝ่ายเดียวนะคะ พวกคุณต้องแสดงหลักฐานสิคะ หากต้องการจะลงโทษฉันในคดีนี้น่ะค่ะ”
คาเลนตกใจมากเมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ วินส์ตันรู้สึกโกรธมากขึ้นเมื่อเขาเห็นท่าทีที่ดูนิ่งสงบของเมเดลีน “เมเดลีน เธอยังคงดื้อด้านจริง ๆ! ถ้าไม่ใช่เธอแล้วใครจะทำ?”
“บ้านนี้มีคนอยู่เยอะมาก นอกจากฉันแล้ว พวกคุณไม่ใช่คนเหรอ?”
“…” คาเลนรู้สึกขุ่นเคืองและเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ “เมเดลีน ถ้าเธอไม่ใช่คนที่ทำร้ายคุณปู่ ฉันจะตัดหัวแล้วยื่นให้เธอทำเป็นเก้าอี้รองนั่ง!”
“…” เมื่ออีวอนได้ยินเช่นนี้ เธอก็เหลือบมองคาเลน
เมเดลีนมองเธอด้วยความสงสัย “นี่ ฉันไม่สนใจที่จะนั่งบนหัวคุณหรอกค่ะ แต่ฉันยินดีจะยอมรับคำขอโทษจากคุณนะ”
อีวอนเยาะเย้ยเมื่อเห็นความมั่นใจของเมเดลีน “เมเดลีน เธอยังคงฝืนตัวเองอยู่อีกเหรอ เธอต้องการพิสูจน์ตัวเองใช่ไหม? ก็ไปถามหากับตำรวจที่สถานีสิ!”
“ไม่จำเป็นต้องถามหาจากพวกเขาหรอก ฉันมีหลักฐานอยู่กับตัวเองที่นี่” เมเดลีนพูดเสริมในสิ่งที่อีวอนกล่าว จากนั้นเธอก็นำเสนอชิปหน่วยความจำขนาดเล็กด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเธออย่างใจเย็น
ทุกคนตกใจและสงสัยเมื่อเห็นชิปหน่วยความจำรวมทั้งเจเรมี่ด้วย
“นั่นหลักฐานอะไร?” วินส์ตันถามอย่างไม่มั่นใจ เขารู้สึกว่าเมเดลีนจงใจทำให้เรื่องนี้ซับซ้อน
“สิ่งนี้สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้” เมเดลีนอธิบายอย่างใจเย็น จากนั้นเธอก็ส่งชิปหน่วยความจำให้ตำรวจ “นี่คือชิปหน่วยความจำจากกล้องที่ซ่อนอยู่ ฉันติดตั้งสิ่งนี้ไว้ในห้องของผู้อาวุโส หลังจากที่เขาถูกทำร้ายครั้งแรกค่ะ”