บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 597
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 597
‘อะไรนะ?!’
คาเลนไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าเมเดลีนจะกล้าเรียกเธอว่าคนโง่ในสถานการณ์แบบนี้
แม้ว่าสถานะของเธอจะแตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้ แต่ผู้คนส่วนใหญ่ในเกลนเดลก็รู้กันดีว่าเธอเป็นภรรยาของเจเรมี่ ดังนั้น พวกเขาจึงรู้ได้ในทันทีว่าแม่สามีที่เมเดลีนเอ่ยถึงนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคาเลนนั่นเอง!
ความวุ่นวายได้เริ่มขึ้นเมื่อผู้ชมต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันจนน้ำลายแตกฟอง
เจเรมี่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก หน้าของเขาถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งแผ่นหนา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำก็ตาม
เอโลอิสและฌอนซึ่งนั่งอยู่ด้านหน้าของคาเลนได้หันหน้าไปหาเธอ “คาเลน นี่หล่อนทำอะไรไม่ดีกับลูกสาวของฉันอีกแล้วใช่ไหม? แล้วคำที่หลานสาวของหล่อนโพล่งออกมากลางงานเมื่อกี้นี้หมายความว่ายังไงกัน?!” เอโลอิสถาม
เพราะคำพูดของเอโลอิส ผู้คนโดยรอบจึงตระหนักได้ว่าคาเลนคือแม่สามีหน้าโง่ที่เมเดลีนเอ่ยถึง
เพราะว่าต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากสายตาคลางแคลงใจนับไม่ถ้วน จู่ ๆ คาเลนก็พลันยืนขึ้น “เมเดลีน ในสถานการณ์แบบนี้ เธอพล่ามถึงเรื่องอะไรอยู่มิทราบ? แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการรักษาชื่อเสียงของตัวเอง แต่ฉันยังต้องการรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่นะ!”
เมเดลีนเลิกคิ้วขึ้น “ถ้าอยากจะรักษาหน้าของตัวเองเอาไว้จริง ๆ คุณแม่ก็ไม่น่าวางแผนทั้งหมดนี่กับหลานสาวสุดที่รักตั้งแต่แรกนะคะ”
ท่าทีของคาเลนแข็งทื่อราวกับน้ำแข็งในขณะที่แก้มของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “แก… แกกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่กันแน่?! แล้วฉันกับอีวอนวางแผนทั้งหมดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ?”
อีวอนปฏิเสธทันควัน “เมเดลีน อย่ากล่าวหากันซี้ซั้วแบบนี้นะ! เธอเองไม่ใช่เหรอที่ไปลอกเลียนแบบงานคนอื่นเขามาแล้วก็ส่งเข้าแข่งขัน ฉันเองเป็นคนที่โดนลูกหลงจากการกระทำของเธอด้วย!”
“โดนลูกหลง งั้นเหรอ?” เมเดลีนเอ่ยถามพร้อมสายตาที่เย็นยะเยือก
“อีวอน คิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
…
สายตาของเมเดลีนทิ่มแทงเข้าไปในส่วนลึกของอีวอนจนทำให้เธอหายใจไม่เป็นส่ำ
“เธอกับคุณป้าตัวดีของเธอ วางแผนที่จะทำให้ฉันมีปัญหา เธอต้องการจะแหกหน้าฉันในฐานะดีไซน์เนอร์ของมิสแอลเลดี้ และพังชีวิตฉันให้ย่อยยับ คิดว่าแค่นี้ฉันไม่รู้เรื่องเลยรึไง?”
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เมเดลีนรู้แผนการพวกนี้ทั้งหมด!
สิ่งนี้ทำให้คาเลนและอีวอนตกตะลึง
เมเดลีนหันไปจ้องมองคาเลน “ฉันรู้มานานแล้วว่าคุณแม่ต้องการขโมยดีไซน์ของฉัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงตั้งใจปล่อยให้คุณทำ ปล่อยให้คุณเข้าไปในห้องทำงานและใช้คอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำ ทำแม้แต่ปล่อยให้คุณเข้าไปดูแบบร่างของงานที่ฉันตั้งใจจะส่งเข้าแข่งขันเลยนะ”
…
“คุณแม่คิดว่าพอส่งก๊อปปี้ผลงานของฉันให้อีวอนเสร็จแล้ว เธอก็จะกลายเป็นเจ้าของงานโดยสมบูรณ์เลยสินะคะ แล้วตอนที่ฉันโชว์ผลงานออกมา ทุกคนก็คงจะคิดว่าฉันเป็นนังแมวขโมย นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกคุณวางแผนกันเอาไว้เหรอ?
เมเดลีนร่ายแผนการของคาเลนกับอีวอนออกมาโดยไม่มีผิดแม้แต่วรรคเดียว
พวกเธอทั้งคู่วางแผนการอันแยบยลเพื่อให้เมเดลีนเข้ามาติดกับ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเธอกลายเป็นหมากบนกระดานของเมเดลีนไปเสียนี่
อีวอนเลือดขึ้นหน้าด้วยความโกรธ “เมเดลีน นังตัวดี! แกกล้ามาใช้แผนสกปรกแบบนี้กับฉันได้ยังไง?!”
“เงียบปากเสียที” เจเรมี่เดินขึ้นมาบนเวทีและดึงตัวเมเดลีนมาไว้ข้างกาย สายตาดุจคมมีดของเขากรีดเฉือนไปที่อีวอนอย่างจัง “ใครวางแผนใส่ร้ายใครกันแน่? เธอกล้าดียังไงมาถามลินนี่แบบนี้?”
อีวอนกัดปากอย่างเคียดแค้น พร้อมพูด “มันก็ชัดเจนแล้วหนิคะ ว่าเธอเป็นคนที่วางกับดักฉัน!”
“ใช่ ฉันวางกับดักเอง แผนการของฉันก็คือใช้แผนการของพวกเธอตลบหลังพวกเธอเอง ถ้าพวกเธอสองคนไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี คิดจะเล่นไม่ซื่อกับฉันตั้งแต่แรก เรื่องมันก็คงไม่จบแบบนี้หรอก”
“เธออยากจะเห็นชีวิตฉันพังไม่เป็นท่าไม่ใช่เหรอ? ก็ ขอโทษด้วยแล้วกันที่ทำให้เธอผิดหวัง คนที่ชีวิตจะพังไม่เป็นท่ามันคือเธอต่างหาก อีวอน” เมเดลีนทิ้งคำพูดสุดท้ายที่ราวกับใบมีดกรีดเข้าไปที่ร่างกายของอีวอน
หน้ากากใสซื่อที่เธอสวมใส่เอาไว้ค่อย ๆ เลื่อนออก เผยให้เห็นเนื้อหนังของนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนอยู่ภายใน สายตาคู่นั้นจับจ้องไปที่เมเดลีนด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ฉันเชื่อไม่ลงจริง ๆ ว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลก”
“ก็นะ ทุกวันนี้ มีหลายคนที่ยอมทำได้ทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ได้ชื่อเสียงมาครอบครองนี่”