บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 598
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 598
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมธุรกิจของคุณชายวิทแมนถึงได้ล่มจมขนาดนี้ อาจเป็นเพราะว่ามีแม่แบบนี้ก็ได้!”
“แต่ก็นะ คุณชายวิทแมนยังโชคดีที่มีภรรยาที่มีความสามารถ ฉันมั่นใจเลยว่าการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร”
หลังจากที่ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนโดยรอบ คาเลนที่รู้สึกอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก็ได้หยิบกระเป๋าและหายตัวไปจากตรงนั้น
เธอทำได้เพียงหนีหายไปจากตรงนั้น เพื่อไม่ให้ความอัปยศอดสูเพิ่มพูนไปมากกว่านี้
“รปภ. มาพาตัวคุณผู้หญิงชั้นต่ำไปจากตรงนี้ที พวกเราจะได้ดำเนินการแข่งขันกันต่อ” คณะกรรมการจ้องมองมาที่อีวอน
อีวอนกำหมัดแน่น เธอรู้สึกได้ถึงความเดือดดาลที่พวยพุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“อย่ามาแตะ ฉันเดินเองได้!”
เธอแสดงท่าทีฮึดฮัดและผลักเจ้าหน้าที่ออกไปด้านข้าง เธอทำได้เพียงมองหน้าเมเดลีนและเดินออกไปจากตรงนั้น
เจเรมี่หลบสายตาและจับมือเมเดลีนเอาไว้แน่น “ลินนี่ ทำไมไม่บอกผมล่ะ ว่าพวกเธอกำลังวางแผนที่จะทำร้ายคุณลับหลัง?
เมเดลีนเผยรอยยิ้มออกมาและพูดด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ผู้หญิงไม่ควรจะพึ่งพาผู้ชายเสมอไปหรอกนะคะ โดยเฉพาะกับผู้ชายที่เคยทำร้ายพวกเธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ฉันจะไม่มีวันไปพึ่งพาผู้ชายพวกนั้นเด็ดขาด”
หลังจากโพล่งความคิดของเธอออกมา เมเดลีนก็สะบัดมือออกจากมือของเจเรมี่
ท่าทีของเขานิ่งราวกับน้ำแข็งเพราะเขารู้สึกว่าหัวใจของตนเต้นผิดจังหวะไปเสียแล้ว “ลินนี่?”
เสียงเรียกของเขาส่งไปถึงเธอ แต่เมเดลีนเมินเฉยต่อมันและเบือนหน้าหนี
ผู้ชมต่างพากันแสดงความอยากรู้อยากเห็นจนออกนอกหน้า พวกเขามองไปยังเจเรมี่ที่ยืนอยู่บนเวที ซึ่งในตอนนี้ราวกับว่าวิญญาณของเขาได้ล่องลอยออกไปในที่ไกลแสนไกล
‘เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?’
‘ทะเลาะกันเหรอ?’
หลังจากเจเรมี่เดินออกมาจากตรงนั้นแล้ว ในเวลาเดียวกัน เมเดลีนก็กลับไปยังที่นั่งของผู้เข้าแข่งขันเรียบร้อยแล้ว
เจเรมี่เดินตรงลงมายังด้านล่างของเวทีอย่างไร้สตินึกคิด ราวกับว่าเขาทำจิตวิญญาณหล่นหายไปกลางทาง
‘บุคลิกของลินนี่เปลี่ยนไปอีกแล้วเหรอ?
‘ไม่มีทาง
‘แต่ถ้าเปลี่ยนไปแล้วจริง เธอก็ไม่ควรจะกลับไปที่ที่นั่งผู้เข้าแข่งขันและร่วมแข่งขันต่อสิ’
ในหัวของเจเรมี่คิดถึงเรื่องนี้วนไปวนมาซ้ำ ๆ จนกระทั่งจบการนำเสนอผลงานการออกแบบทุกชิ้นและมีการประกาศผลการแข่งขันออกมา เมเดลีนได้รับรางวัลชนะเลิศ ในเสี้ยววินาทีสุดท้าย เจเรมี่ก็สามารถฟื้นคืนสติและกลับมาเป็นคนเดิมได้ในที่สุด
เขาชายตามองเมเดลีนที่กำลังจะเดินขึ้นไปบนเวที พร้อมกับผู้ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรองชนะเลิศอันดับสอง
เธอยืนอยู่ตรงกลางเวที ใต้แสงไฟที่สาดส่อง เธอเป็นเหมือนดวงดาวที่ทอประกายระยิบระยับ และมีหมู่ดวงดาวน้อยใหญ่ตระการตาหมุนวนอยู่รอบกายเธอ
เด็กหนุ่มวัยแรกรุ่นคนหนึ่งเป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้แก่เมเดลีน และตามด้วยการกล่าวบางอย่างของเมเดลีนในฐานะผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
เจเรมี่ฟังบทพูดอย่างใจลอย ขณะที่เสียงใสราวกับผลึกแก้วคริสตัลของเมเดลีนลอยเข้ามากระทบหูเขา
“ดิฉันรู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ได้รับการพิจารณาจากท่านคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากกับทุกคะแนนโหวตที่มอบให้ดิฉัน การที่ดิฉันสามารถคว้ารางวัลนี้มาไว้ในมือได้ ก็เพราะการสนับสนุนอันดีของทุกคนนะคะ อย่างไรก็ดี ท่ามกลางผู้ที่ส่งกำลังใจมาให้ดิฉันมากมาย มีอยู่หนึ่งคนที่ดิฉันต้องการจะแสดงความรู้สึกขอบคุณเขาเป็นพิเศษ”
ดวงตาที่สง่างามคู่นั้นจับจ้องมาที่เจเรมี่
“คนคนนี้ ครั้งหนึ่งในตอนที่ฉันรู้สึกสิ้นหวังที่สุดในชีวิต เขาเคยโรยเกลือใส่แผลในใจของฉันอย่างเลือดเย็น และเขาคนนั้นคือ เจเรมี่ วิทแมน สามีเก่าของฉันเองค่ะ”
เขารู้สึกว่าหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำอีกครั้ง
‘หรือว่าความทรงจำของเธอจะกลับมาแล้วจริง ๆ ?’
สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เจเรมี่ แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งในขณะที่มองเมเดลีนยืนอยู่บนเวที
เมเดลีนหันไปมองหน้าเขาเช่นกัน ถึงกระนั้น สายตาของเธอเย็นชาเสียยิ่งกว่าน้ำเสียงที่ใช้เสียอีก “เจเรมี่ วิทแมน ต้องขอแสดงความขอบคุณที่ทำให้ฉันได้เข้าใจว่า ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่มีคุณ ชีวิตฉันต้องดีกว่านี้แน่”
“วันนี้ ดิฉันขออนุญาตใช้โอกาสนี้ เพื่อบอกสิ่งสุดท้ายกับคุณ ดิฉัน เอวลีน มอนต์โกเมอรี ไม่ใช่ภรรยาของคุณอีกต่อไป นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกเราทั้งสองไม่ติดค้างอะไรต่อกันอีก และขอให้พวกเราทั้งสองต่างคนต่างเดินไปในเส้นทางของตนเอง”