บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 603
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 603
มีดอันแหลมคมสะท้อนแสงอยู่ตรงหน้าอกของเจเรมี่
แพขนตาของเจเรมี่มองลงต่ำ จากนั้นรอยยิ้มที่ใครเห็นเป็นต้องมนตร์ก็ปรากฏอยู่บนใบหน้าพร้อมกับดวงตาที่ค่อย ๆ เงยมอง
เขากำลังจ้องมองไปยังดวงตาคู่งามของเมเดลีน ซึ่งกำลังส่องประกายความกล้าหาญและแสนวิเศษอยู่
ดูเหมือนว่าไม่ใช่แค่ขู่เจเรมี่เล่น ๆ แต่เธอเอาจริง
อย่างไรก็ตาม เจเรมี่เองก็จริงจังไม่ต่างกัน
“ลินนี่” เขาเอ่ยชื่อเธอย่างนุ่มนวล แทนที่จะถอยหลัง แต่เขากลับเดินตรงเข้ามา ปลายมีดอันแหลมคมปักเข้าลึกเข้าไปในเสื้อของเขา
เธอตกตะลึงเพราะไม่คาดคิดว่าเจเรมี่จะเดินตรงเข้ามาหามีดแบบนี้
ในเวลาเดียวกัน เขากำลังยิ้มให้เธออยู่
“ลินนี่ ผมรู้ว่าคุณลืมทุกอย่างในอดีตไปหมดแล้ว แต่มันไม่สำคัญอะไรเลย เพราะว่าผมยังจำได้ทั้งหมด” เขาพูดพลางยิ้ม จ้องมองเธอไม่วางตา
“ในปีนั้นที่หิมะตกหนัก ผมลงมือทำสิ่งที่ไร้มนุษยธรรมลงไป ผมขุดหลุมศพคุณปู่ของคุณขึ้นมาและโปรยเถ้ากระดูกเพื่อเป็นการเหยียดหยามคุณ ครั้งนั้นคุณกัดฟันแน่นซะจนเลือดไหล แล้วบอกกับผมอย่างกล้าหาญว่า ‘เจเรมี่ ถ้านายไม่ฆ่าฉันทิ้งซะตั้งแต่วันนี้ สักวันฉันจะต้องฆ่านายให้ได้’ ”
เขาเอ่ยสิ่งที่เมเดลีนเคยกล่าวในอดีตซ้ำอีกครั้ง แสงพระอาทิตย์อันอบอุ่นสาดส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ แต่เขากลับรู้สึกถึงเพียงความหนาวเหน็บในจิตใจ
เมเดลีนจำไม่ได้เลยว่าเคยพูดแบบนั้นกับเจเรมี่ แต่ถึงอย่างไรเธอก็รู้สึกได้ว่าเธอต้องเกลียดเขาเข้ากระดูกดำแน่
เธอกำมีดในมือแน่นขึ้น ไฟแห่งความโกรธแค้นลุกโชนในดวงตาของเธอ
เจเรมี่สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่เล็ดลอดออกมาจากแววตาของหญิงสาว เขายกมือขึ้นมากำมีดปอกผลไม้ในมือเมเดลีนช้า ๆ ก่อนที่จะพูดอย่างไร้กำลังด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวล “บอกผมหน่อยสิ ลินนี่ ผมควรจะทำยังไงให้คุณยกโทษให้? หรือไม่ว่าผมจะทำอะไร คุณก็จะไม่ยกโทษให้ผม?
“ก็ใช่น่ะสิ นายพูดถูก! ไม่ว่านายจะทำอะไรก็ตาม เจเรมี่ ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้นายเด็ดขาด!”
ในขณะที่เมเดลีนโพล่งคำเหล่านั้นออกมา ความหวังที่เจเรมี่มีทั้งหมดได้จมดิ่งลงไปในความสิ้นหวังทันที
“เจเรมี่ แม้ว่าสิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องจริง แม้ว่านายจะรักฉันจริง แต่มันสายเกินไปแล้ว ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่ได้รักนาย หัวใจของฉันมีแค่เฟลิเป้เท่านั้น ฉันยังมีลูกสาวให้เขาด้วยนะ เขาคือคนที่ปฏิบัติตัวกับฉันอย่างจริงใจ เขาเป็นผู้ชายที่จะมอบความสุขให้กับฉันได้!”
“ไม่ คุณไม่ได้รักมัน” เจเรมี่เถียงคอเป็นเอ็น “ลิเลียนเป็นลูกสาวของเรา ไม่ใช่ของคุณกับเฟลิเป้ มันหลอกคุณ ลินนี่ อย่าไปเชื่อมัน”
“แล้วไง นายจะบอกให้ฉันเชื่อใจนายแทนอย่างนั้นเหรอ? ฉันควรเชื่อใจปีศาจร้าย ที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบจะพาฉันไปลงนรกมาแล้วอย่างนั้นน่ะเหรอ?!”
ทุก ๆ คำพูดที่เธอพูด ราวกับเข็มที่เข้าไปทิ่มแทงจิตใจและโสตประสาทของเขา
เจเรมี่ตะลึงงัน เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่มีเปลวไฟแห่งความเคียดแค้นลุกโชนอยู่คู่นั้น จิตใจของเขาก็พลันเลื่อนลอย
“นายรู้อะไรไหม เจเรมี่? แม้ว่าจะสูญเสียความทรงจำ แม้ว่าจะจำเรื่องราวอันโหดร้ายที่นายทำในอดีตไม่ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ยังรู้สึกถึงความเจ็บปวดเหล่านั้นได้อยู่เลย!”
“แม้แต่ในความฝัน ความใจดำอำมหิตของนายมันยังรู้สึกได้จริง และทำให้ฉันรู้สึกสิ้นหวังอยู่แบบนี้!
“ฉันไม่ได้ปฏิเสธหรอกนะ ว่าฉันเคยรักนายจากใจจริง แต่ฉันเชื่อว่าหลังจากที่โดนนายทำร้ายแล้ว หูตาของฉันก็สว่าง และรับรู้ได้ว่าฉันเข้าใจผิดไปเอง นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงเกลียดนายมากเสียจนอยากให้นายตายไปให้พ้น ๆ!”
ทันทีที่เมเดลีนพูดจบ เจเรมี่กำมีดปอกผลไม้ในมีดเธอแน่นและบังคับให้มันแทงเข้ามาที่หน้าอกของเขาอย่างแรง
มีดปักลงที่อกของเขา แม้ว่าจะดูเหมือนไร้เสียง แต่ก็น่าแปลกที่มันดังพอจะเสียดแทงเข้าไปในแก้วหูของเมเดลีน ราวกับว่าเสียงนั้นดังก้องอยู่ในหูของเธอและมันก็สร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เลือดสด ๆ สีแดงไหลออกมาจากปลายมีดที่ปักอยู่ ราวกับว่ามีกุหลาบสีแดงสดบานสะพรั่งอยู่บนเสื้อสีขาวสะอาดของเจเรมี่ เว้นเสียแต่ว่าดอกไม้ที่ว่านั้น มีสีแดงเข้มและขนาดค่อย ๆ ใหญ่ขึ้นมาก
เมเดลีนจ้องมองบาดแผลที่มีเลือดสีแดงไหลรินออกมาด้วยสายตาอันว่างเปล่า เธอรู้ได้ว่าบาดแผลที่ฝังลึกสักแห่งหนึ่งในจิตใจของเธออาบไปด้วยเลือดสีแดงและเจ็บปวดเช่นกัน
มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะทนไหว
เธอรีบดึงมือของเจเรมี่ออกอย่างสุดกำลัง มีดปอกผลไม้ที่อาบไปด้วยเลือดตกลงบนพื้นดังตุ้บ
‘เขาเสียสติไปแล้วรึไง?
‘เขาบ้าไปจริง ๆ แล้วใช่ไหม?’