บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 615
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 615
ณ สนามบินเกลนเดล
เมเดลีนกำลังจูงมือแจ็คสันเดินไปที่ห้องพักเอกเขนกระดับวีไอพีของสนามบิน
เอโลอิสและฌอนเดินตามพวกเขาไม่ห่าง
พนักงานนำอาหารหน้าตาน่ารับประทานมาบริการพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าเมเดลีนจะไม่ค่อยมีความอยากอาหารมากเท่าไหร่นัก
ความกระสับกระส่ายหมุนวนอยู่ภายใน ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมาจากอะไรกันแน่
หลังจากลังเลใจอยู่นาน เอโลอิสก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างเมเดลีนก่อนจะกุมมือเธอเอาไว้ “เอวลีน”
เธอเรียกชื่อนั้นออกไป ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว
“ดูแลตัวเองให้ดี ๆ นะลูก เอวลีน กลับมาเกลนเดลบ้างตอนที่หนูว่างนะ…” เธอหยุดพูดชั่วขณะพลางหันหน้าไปทางฌอน “มาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก”
เมเดลีนหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับน้ำตาเอโลอิส “หนูจะกลับมาค่ะ”
เอโลอิสรู้สึกว่าจมูกเธอร้อนผ่าวในขณะที่โอบกอดเมเดลีนเบา ๆ “แม่เสียใจจริง ๆ นะลูก เอวลีน… แม่หวังว่าลูกจะไม่ต้องเจ็บปวดอีกแล้วนะ”
เมเดลีนลูบไหล่ของเอโลอิสเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม แต่เธอรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจเมื่อเห็นว่าฌอนเองก็นั่งปาดน้ำตาอยู่
แม้ว่าเธอจะสูญเสียความทรงจำในอดีตไปทั้งหมด แต่ความรู้สึกเจ็บปวดนี้เกินกว่าคำว่าจริงเสียอีก
เมื่อขั้นตอนเช็คอินทุกอย่างเรียบร้อย เฟลิเป้เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มอันอบอุ่น ในขณะที่เห็นว่าเอโลอิสนั่งซบอยู่ในอ้อมแขนของเมเดลีน
“ผมจะพาเอวลีนกลับมาหาบ่อย ๆ ครับคุณป้า คุณป้ากับคุณลุงไม่ต้องเสียใจไปนะครับ”
เอโลอิสพยักหน้า แต่อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาแทบจะไม่สามารถชะล้างความเศร้าโศกที่เธอมีให้หมดไปได้
พวกเขาใช้เวลากว่า 20 ปี และผ่านอะไรมากเท่าไหร่ก่อนที่ครอบครัวจะได้กลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า และก่อนที่จะได้ยินเมเดลีนเรียกพวกเขาว่า ‘แม่’ กับ ‘พ่อ’ จากปากของเธอเอง
แต่ตอนนี้พวกเขากำลังจะต้องแยกจากกันอีกครั้ง ในตอนที่พวกเขาจะเก็บเกี่ยวความอบอุ่นที่คำว่าครอบครัวมอบให้
“พวกเราจะต้องขึ้นเครื่องในอีก 20 นาที เอวลีน คุณยังไม่ได้ทานอาหารเช้าเลยนะ กินเถอะนะ” เฟลิเป้กล่าวเตือนอย่างอ่อนโยน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “หนูด้วย แจ็ค”
แจ็คสันส่ายหัวในขณะที่เล่นอยู่กับของเล่นหุ่นยนต์รุ่นลิมิตเต็ดอิดิชั่น ไจแอนท์ โรโบที่เขาประกอบเสร็จเมื่อคืน เด็กน้อยหันไปหาเมเดลีนพลางยกหุ่นยนต์ตัวนั้นให้เธอดู “ดูสิครับแม่ แจ็คต่อหุ่นยนต์ตัวนี้เสร็จแล้ว แล้วทำไมพ่อยังไม่มาถึงสักทีล่ะครับ? พ่อจะไม่มาส่งแจ็คกับแม่จริง ๆ เหรอ? แจ็คอยากจะอวดหุ่นยนต์ ไจแอนท์ โรโบให้พ่อดู แจ็คอยากให้พ่อชมเยอะ ๆ”
จังหวะการเต้นของหัวใจเมเดลีนกระตุกทันทีที่ได้ยินแจ็คพูดถึงเจเรมี่
ใบหน้าของเฟลิเป้ยังคงเปื้อนยิ้มอยู่ แต่แซมด้วยความขุ่นเคืองที่แผ่ซ่านไปทั่ว
เขามองดูเวลา และกำลังจะสั่งให้ทั้งสองคนที่กำลังจะออกจากเกลนเดลไปขึ้นเครื่อง ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็พุ่งตัวเข้ามาภายในห้องวีไอพี
“คุณปู่!” แจ็คเรียกและมองไปที่เขา แต่กลับไม่เห็นคนที่เด็กน้อยต้องการจะเจอ “พ่อล่ะครับ คุณปู่?” เด็กน้อยตั้งคำถามด้วยดวงตาโตที่เป็นประกาย
วินส์ตันก้มลงลูบหัวแจ็คสันอย่างรักใคร่ “อยากเจอพ่อเหรอ แจ็ค?”
“อื้ม”
“ดีเลย ถ้างั้นตามปู่มา นะ?
“แจ็คจะไม่ไปไหนกับคุณทั้งนั้น” เฟลิเป้ยืนขึ้นและปฏิเสธเสียงแข็ง “คุณมาที่นี่ทำไม? เจเรมี่บอกให้มาล่ะสิ?”
เมเดลีนรู้สึกได้ถึงความรังเกียจที่แฝงมาในน้ำเสียงของเฟลิเป้ ขณะที่รังสีแห่งความอำมหิตบดบังความใจดีและคำพูดอ่อนหวานของเขาจนหมดสิ้น
วินส์ตันและเฟลิเป้จ้องมองกันอย่างไม่ลดละ ในขณะที่วินส์ตันเดินตรงไหนหาเมเดลีน สายตาของเขาเผยให้เห็นความจริงใจที่มีเมื่ออยู่ต่อหน้าความไม่พอใจของเธอ “ฉันต้องขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จริง ๆ นะ เมเดลีน ฉันหาโอกาสมาขอโทษเธอไม่ได้เลย”
คำขอโทษของวินส์ตันทำให้เมเดลีนระวังตัวน้อยลง แต่ว่าความจริงใจที่แฝงมากับคำขอโทษ เป็นหลักฐานชั้นดีว่าเขาต้องลดทิฐิลงขนาดไหน ถึงเอ่ยคำขอโทษออกมาในสถานการณ์แบบนี้ได้
เมเดลีนตอบกลับพร้อมรอยยิ้มอันบางเบา “ฉันรับคำขอโทษของคุณค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ? ฉันต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว”
“มีสิ” ดวงตาของวินส์ตันอ่อนโยน “เจเรมี่ เขารักหนูมากจริง ๆ นะ เขารู้ตัวแล้ว ว่าเขาทำผิดพลาดไป”
เฟลิเป้แสดงท่าทีไม่พอใจ “ถ้าเจเรมี่รักเธอจริง ๆ ก็คงจะหมายความว่าเอวลีนก็ต้องเจ็บปวดทรมานแบบนี้ต่อไปสินะ? เขาไม่หันหลังกลับมามองแม้สักวิเดียวตอนที่เมเดลีนกำลังจะจมน้ำตาย นี่เรียกว่ารักแท้อย่างนั้นเหรอ?”