บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 629
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 629
เมเดลีนหันไปเห็นเจเรมี่ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้า
แม้ว่าจะรู้สึกตกตะลึงกับภาพของเจเรมี่ที่เพิ่งจะกลับมาถึง แต่เธอมั่นใจว่าคำพูดของเธอทั้งไม่ได้ทำร้ายจิตใจใครทั้งนั้น
เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเจเรมี่จะได้ยินคำพูดของเธอหรือไม่
“เจเรมี่! นายได้ยินสิ่งที่นังผู้หญิงคนนี้พูดแล้วสินะ? มันยอมรับแล้ว! มันยอมรับว่าทำร้ายป้าคาเลนจริง ๆ! ทำไมจิตใจของเธอถึงได้เลวร้ายขนาดนี้? หลังจากที่ทำเรื่องแบบนั้นลงไป เธอยังมีหน้ามาชูคอว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่อีกเหรอ!” อีวอนฉวยโอกาสนี้ซ้ำเดิมเมเดลีนให้จมดินลงไปอีก
“ทีนี้ แกคงทำใจเชื่อไม่ลงแล้วสินะว่ามันเป็นผู้บริสุทธิ์น่ะ เจเรมี่? สิ่งที่ฉันทำลงไปก็เพียงแค่ยั่วยุมันให้พูดความจริง และท้ายที่สุดมันก็คายออกมาเองจนหมดเปลือก! ทำไมถึงเป็นคนชั่วร้ายแบบนี้ไปได้นะ?” ไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวลุกโชติช่วงอยู่ภายในดวงตาของคาเลน
เจเรมี่จ้องมองไปยังเมเดลีนที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงกับคำพูดเหล่านั้น แล้วเดินเข้าไปหาเธออย่างช้า ๆ
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ สายตาของเขารังแต่จะมัวหมองมากขึ้นเท่านั้น สายตาที่เขามองเธอค่อย ๆ มีแต่ความผิดหวังมากขึ้น
“ผมไม่เชื่อว่าคุณจะเป็นคนทำจริง ๆ ลินนี่” ดูเหมือนเขายังมีศรัทธาในตัวเธออยู่
ดอกไม้แห่งความโล่งอกผลิบานพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของคาเลนเมื่อหล่อนได้เสียงถอนหายใจของเจเรมี่
อีวอนปลาบปลื้มเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าตอนนี้เจเรมี่เลิกปกป้องเมเดลีนแล้ว!
แม้ว่าคำสารภาพบาปของเมเดลีนจะเป็นไปด้วยเชื้อเพลิงแห่งความโกรธ แต่ตราบใดที่เจเรมี่เชื่ออย่างสนิทใจว่าเมเดลีนเป็นคนที่ทำร้ายคาเลน เมื่อนั้น มันจะเป็นความจริงอันบริบูรณ์
ท้ายที่สุด สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงสิ่งเดียว คือ ทำให้แน่ใจว่านายท่านอาวุโสวิทแมนจะไม่มีโอกาสกลับมาพูดได้อีก ถ้าทุกอย่างสำเร็จแล้วละก็ อีวอนจะลอยนวลจากทุกข้อกล่าวหาแน่นอน!
อีวอนที่รู้สึกปีติยินดีมองไปยังหน้าอันบูดบึ้งของเจเรมี่ ในตอนนี้เขามองหน้าเมเดลีนด้วยดวงตาดอกท้อที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความผิดหวัง
ช่างเป็นจุดหักเหของเรื่องที่น่าดูชมจริง ๆ!
“ตอบผมมาที ลินนี่ เป็นคุณจริง ๆ ใช่ไหม?” เจเรมี่ถามย้ำ แสดงออกว่ายังไม่ปักใจเชื่อว่าเธอทำจริง ๆ
เมเดลีนมองหน้าเขาอย่างเมินเฉยพลางตอบ “ถ้าทำแล้วจะทำไม? นายเรียกตำรวจมาแล้วไม่ใช่เหรอ? จับฉันเลย ถ้ามีหลักฐานมัดตัวฉันน่ะ”
“แก… เมเดลีน ครอว์ฟอร์ด แกเสียสติจนสัญชาตญาณการเอาตัวรอดหายไปแล้วรึไง?” คาเลนเดือดดาล
อีวอนแสร้งทำเป็นพูดปลอบประโลมเธอ “อย่าโกรธไปค่ะ คุณป้าคาเลน คนอย่างมันต้องโดนลงโทษไม่ช้าก็เร็วแน่นอนค่ะ!”
“หุบปาก” เจเรมี่ตอกกลับอีวอน เขาไม่ละสายตาออกจากเมเดลีนแม้แต่น้อย “ทำไมคุณถึงทำเรื่องแบบนี้ ลินนี่?”
เมเดลีนหัวเราะ “ทำไม? ตอนนี้นายยังตั้งคำถามฉันว่า ‘ทำไม’ อยู่อีกเหรอ?”
เธอถามกลับอย่างแดกดันในขณะที่เดินตรงมาหาเจเรมี่ ดวงตาที่ไร้อารมณ์ของเธอเชือดเฉือนคนตรงหน้าเรื่อย ๆ
“ถามตัวเองกับแม่บังเกิดเกล้าของนายดูสิว่าในอดีตพวกนายทำอะไรกับฉันไว้บ้าง ฮื้ม? แค่เลือดหยดเล็ก ๆ ไหลออกมาจากหัวแม่นายในวันนี้ มันเทียบกับเลือดที่ไหลรินออกมาจากบาดแผลของฉันได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าหน้าผากหล่อนจะเป็นแผลแล้วยังไง? พวกคุณหลายคนก็เคยเล่นบทบาทคอยร่วมมือให้หน้าของฉันเสียโฉมเหมือนกัน แล้วยังจะมีหน้ามาเรียกร้องอะไรอีก?
เมเดลีนตั้งคำถามพลางขว้างสายตาอันแหลมไปปักกลางแสกหน้าคาเลน
“แล้วยังมาจะบ่นอะไรอีกก็ในเมื่อหล่อนไม่เคยรับผิดชอบตอนที่ผลักฉันล้มลงกับพื้นเลยนี่? หน้าผากฉันฟาดเข้ากับขอบโต๊ะกาแฟจนเลือดอาบ แต่หล่อนก็ไม่เคยขอโทษฉัน ไม่เคยเลยสักครั้งเดียว!”
“…” ความตั้งที่จะแหกปากใส่เมเดลีนให้ตอนแรกหดกลับเข้าไปหมด “แก… ถ้างั้น แกทำทั้งหมดนี่ลงไปเพราะการแก้แค้นสินะ เมเดลีน ครอว์ฟอร์ด! แกเป็นคนทำร้ายฉัน!”
“ถ้าฉันทำแล้วจะทำไม? หรือจะบอกว่าคุณไม่เคยทุบตีฉันเลย? คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามากล่าวหาฉัน?
“…” คาเลนพูดไม่ออก ความเดือดดาลที่เคยมีแปรเปลี่ยนเป็นความอัปยศอดสูในทันตา เธอสั่งอีวอน “โทรเรียกตำรวจมาเดี๋ยวนี้ อีวอน! โทรเรียกตำรวจ! นังผู้หญิงคนนี้ยอมรับสารภาพทุกอย่างแล้ว!”
อีวอนทำตามในทันที เธอทนรอดูเมเดลีนเข้าไปนอนในลูกกรงไม่ไหว เมื่อเห็นว่าเจเรมี่ไม่ได้ห้ามปราม ยิ่งทำให้เธอได้ใจมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วพร้อมกับที่คาเลนและอีวอนกำลังกล่าวหาเมเดลีนอยู่
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถามสิ่งใด เมเดลีนยอมรับขึ้นอย่างสงบนิ่ง “อันที่จริง ฉันเป็นคนพูดทั้งหมดเองค่ะ”
“ได้โปรดตามพวกเรามาที่สถานีเพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดด้วยครับ พวกเราจะปล่อยตัวคุณก็ต้องเมื่อสรุปได้ว่าคุณเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ”