บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 632
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 632
“ไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับลินนี่ทั้งนั้น เพราะผู้หญิงคนนี้คือคนร้ายตัวจริง” เจเรมี่ส่งสายตาเย็นชาไปหาอีวอนที่ยืนสั่นเทาอยู่ในมุมของห้อง “เธอจะเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ตรงนั้นไปตลอดก็ได้นะ แต่ฉันบอกได้เลยว่าความจริงจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไป เธอคิดว่ายังจะโต้เถียงและปกป้องตัวเองได้อยู่อีกเหรอ?”
“…”
คาเลนรู้สึกสับสนมึนงง “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน?”
วินส์ตันเดินเข้าไปถอดหน้ากากอีวอนออกก่อนที่จะผลักเธอล้มลงต่อหน้าคาเลน “ดูหน้าหล่อนดี ๆ สิ ผู้หญิงคนนี้แหละ คือคนที่ทำร้ายคุณและขโมยกระเป๋าสตางค์กับเครื่องเพชรคุณไป!”
เมื่อมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า คาเลนแทบจะครองสติไว้ไม่อยู่
“อีวอน!”
“ไม่ใช่ฉันนะคะ คุณป้าคาเลน!” อีวอนแก้ตัวอย่างไร้สติ “เมเดลีนเป็นคนวางกับดักนี้ขึ้นมาเพื่อหลอกล่อฉัน! ไม่ใช่ฉันจริง ๆ นะคะ ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น คุณคือคุณป้าของฉัน เป็นครอบครัวที่ฉันเหลืออยู่เพียงคนเดียวในเกลนเดล ทำไมฉันถึงต้องตีและขโมยของของคุณป้าไปด้วยล่ะคะ? มันไม่ใช่ฉันแน่นอน!”
“เธอถูกเปิดโปงความผิดขนาดนี้ แล้วยังพยายามโยนความผิดให้กับลินนี่อีกเหรอ?” เจเรมี่หมดความอดทน “แล้วความจริงที่ว่าเธอย่องเข้ามาในห้องนอนของคุณปู่ เพื่อที่จะแอบฆ่าเขาโดยการเอาหมอนอุดจมูกให้เขาขาดอากาศหายใจ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะเป็นหลักฐานของคดีนี้ได้แล้ว”
“เปล่านะ ฉันไม่ได้…” อีวอนพยายามบีบน้ำตาเรียกความสงสาร “ไม่ใช่ฉันนะคะ คุณป้าคาเลน คุณป้าต้องเชื่อฉันนะคะ!”
คาเลนซับน้ำตาหลานสาวผู้เป็นที่รัก และหันมามองหน้าเมเดลีน “เป็นแก ไม่ใช่เหรอ นังเมเดลีน? การที่แกทำทั้งหมดเป็นเพราะว่าแกอยากจะโยนความผิดให้อีวอนสินะ! อีวอนเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาที่ฉันเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก แล้วเธอจะทำแบบนั้นได้อย่างไร? และนี่ยังไม่ได้นับว่าฉันเป็นป้าแท้ ๆ ของเธออีกนะ!”
เมเดลีนไม่มีอารมณ์จะโต้เถียง เธออธิบายเรื่องาวอย่างสงบนิ่ง “ที่ฉันจงใจบอกคุณว่าฉันเป็นคนทำร้ายคุณเอง ทั้งหมดทำไปเพื่อให้คนร้ายตัวจริงหลงกล ฉันจงใจให้คนร้ายตัวจริงระแวดระวังตัวให้น้อยลง”
“อะไรนะ?” คาเลนตะลึงงัน ที่เธอสารภาพออกมาเพื่อว่ามีจุดประสงค์แบบนี้เองเหรอ?
เมเดลีนอธิบายต่อโดยไม่ได้รอให้คาเลนไตร่ตรองเรื่องราวอย่างถี่ถ้วน
“คุณจำได้ใช่ไหมคะ ตอนที่คุณปู่ชี้ไปตรงทางเข้าและเอาแต่พูดว่า ‘วอน’ ในวันนั้น? ทั้งเจเรมี่และฉันต่างคิดว่าพวกเราหูฝาดไป คุณปู่อาจพยายามบอกว่า ‘พื้น’ ก็ได้เพราะว่ามีเลือดกระเด็นอยู่ที่พื้นเต็มไปหมด แต่ความจริงแล้ว คุณปู่พยายามชี้นิ้วไปที่อีวอนซึ่งกำลังเดินออกไปจากบ้านพร้อมคุณต่างหาก”
“…”
“คุณปู่พูดคำว่า ‘วอน’ อีกครั้งหนึ่งตอนที่เห็นอีวอนกำลังขึ้นไปชั้นบน ฉันเลยเข้าใจทันที แต่แสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องด้วยเหตุผลเดียวกัน”
“ฉันสังเกตเห็นสายตาที่อีวอนมองไปที่คุณปู่เช่นกัน ดังนั้นฉันเลยสรุปได้ว่าคุณปู่จะต้องเห็นถูกคุณทำร้ายแน่นอน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอีวอนกำลังวางแผนฆ่าพยานรู้เห็นเพียงคนเดียวเพื่อให้ตัวเองพ้นจากความผิดไปได้ เมื่อพิจารณาจากสุขภาพของคุณปู่ในตอนนี้ คงไม่มีใครเอะใจแน่นอนถ้าเขาไหลตายไปตอนนอน”
“…”
“…”
อีวอนหน้าซีดเผือด
เมเดลีนมองแผนการของเธอได้ทะลุปรุโปร่ง!
แม้แต่เจเรมี่เองก็แสร้งทำเป็นว่าผิดหวังในตัวเมเดลีนเพื่อที่จะร่วมมือกันกระชากหน้ากากอีวอนออกมา!
เมื่อเห็นท่าทีที่ตื่นตระหนกของอีวอน คาเลนจึงสามารถปะติดปะต่อเรื่องได้ในที่สุด
คาเลนพุ่งตัวไปเข้าตบหน้าอีวอนเสียงดังฉาดอย่างไม่รีรอ “อีวอน เยลแมน! นี่คือสิ่งที่แกตอบแทนฉันที่เลี้ยงดูแกมาอย่างนั้นเหรอ? ฉันเก็บแกมาเลี้ยงจากต่างประเทศ ให้ที่ซุกหัวนอน ฉันยังดูแลแกไม่ให้อดอยาก และฉันออกเงินให้แกทุกอย่าง! แกคิดที่จะขโมยของของฉันได้ยังไงกัน? ฉันจะฆ่าแกโทษฐานที่มาขโมยเงินฉันไป!”
“ฉันไม่ได้ทำนะคะ คุณป้าคาเลน! อย่าไปเชื่อคำโกหกของมัน!” อีวอนเถียงคอเป็นเอ็น “ฉันถูกใส่ร้าย! พวกมันไม่มีหลักฐานอะไรเลยนะคะ!”
“แน่นอนสิว่า พวกเรามีหลักฐาน” เมเดลีนขัดจังหวะอย่างไม่แยแส คำพูดนั้นจับความหวังสุดท้ายของอีวอนฟาดลงกับพื้นไม่เหลือชิ้นดี “แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันที่จะพิสูจน์ว่าเธอขโมยของและทำร้ายคนอื่นก็ตาม แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่าเธอคือคนที่แต่งตัวเหมือนฉันและลอบเข้าไปที่บ้านพักคนชราเพื่อวางวางพิษในเค้กชาของคุณปู่ จากนั้นเธอจึงโยนความผิดมาให้ฉัน”
“อะไรนะ? แกเป็นคนที่วางยาผู้อาวุโสอย่างนั้นเหรอ?” คาเลนรู้สึกสบสันไปหมด
อีวอนสะอึกสะอื้นพลางส่ายหัวปฏิเสธ “ฉันไม่ได้วางยาใคร! ฉันไม่ได้ทำร้ายใครทั้งนั้น!”
“เธอทำ!”
เสียงอันแข็งกร้าวดังขึ้น อีวอนตัวแข็งทื่อเมื่อหันไปตามเสียงนั้น
ความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ซ่านเข้าไปถึงกระดูกดำเมื่อเห็นคนตรงหน้า เธอแทบจะเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น