บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 652
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 652
เหลือแค่เจเรมี่ที่นั่งอยู่คนเดียว สายลมฤดูใบไม้ร่วงพัดพากลิ่นหอมที่คุ้นเคยมาแตกจมูกเขา
จากนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดที่กำลังไหลไปกับสายลมนั้น
เขากดรับและได้ยินเสียงอันเย็นชาของเมเดลีนดังออกมาจากปลายสาย “คุณวิทแมน ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้ตอน 9 โมง คุณว่างพอที่จะมาพบฉันที่ที่ว่าการในเมืองได้ไหมคะ?
หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ เจเรมี่ตอบกลับเธอด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง “พรุ่งนี้ ผมจะไปรอคุณที่ที่ว่าการในเมืองตอน 9 โมงตรง”
“โอเค แล้วเจอกันค่ะ” เมเดลีนวางสายหลังพูดจบ
เธอกุมโทรศัพท์ไว้แน่นและเหมือนสติล่องลอยไปชั่วขณะก่อนที่จะยิ้มให้กับเฟลิเป้ที่กำลังขับรถอยู่ “เฟลิเป้คะ พรุ่งนี้เช้าคุณช่วยไปเป็นเพื่อนฉันที่ที่ว่าการในเมืองหน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดฝันอีก”
“ได้สิ ผมจะไปด้วย” เฟลิเป้ตอบกลับอย่างมีความสุข
เขารอวันนี้มานานแสนนาน
เขาไม่ต้องจะให้มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีก
ขณะที่สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาเอื่อย ๆ เจเรมี่กุมโทรศัพท์ไว้ในมือและหลับตาลงอย่างไร้ชีวิตชีวา
ในที่สุด เวลานี้ก็มาถึงจนได้
‘ลินนี่ ในที่สุดพวกเราจะได้เดินไปตามทางของเราสักที’
…
วันต่อมา เจเรมี่เดินทางมาที่ทำการตั้งแต่เช้าตรู่
เขาเดินทางมาถึงก่อนเมเดลีน เพื่อไม่ให้เธอสังเกตเห็นว่าเขาตาบอด
เขาคาดหวังว่าครั้งนี้ขั้นตอนในการดำเนินการเรื่องหย่าร้างคงจะไม่ไหลลื่นเหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้ แต่ท้ายที่สุด เมเดลีนก็มาตรงตามเวลา
เฟลิเป้เองก็มากับเมเดลีนด้วย
เจเรมี่พยายามสุดความสามารถที่จะทำตัวให้เหมือนกับคนปกติ เพื่อไม่ให้เมเดลีนสังเกตเห็น
เจ้าหน้าที่มองไปยังคู่ของชายหนุ่มและหญิงสาวที่ดูดีตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ “คุณทั้งสองคนไม่ต้องการที่จะคิดทบทวนเรื่องนี้กันอีกสักหน่อยเหรอคะ? ระหว่างสามีภรรยาเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นได้เสมอ เพราะฉะนั้น เรื่องการหย่าร้าง พวกคุณทั้งสองไม่ควรที่จะหุนหันพลันแล่นนะคะ”
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ แต่ว่าพวกเราไม่จำเป็นจะต้องคิดอะไรอีกแล้ว” น้ำเสียงของเมเดลีนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตรงไปตรงมา แต่ก็แฝงด้วยความหยาบกระด้างด้วยเช่นกัน “สำหรับการแต่งงานที่คู่บ่าวสาวไม่ได้รักกันจริง ๆ การหย่าร้างคงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแหละค่ะ ได้โปรดช่วยดำเนินการเรื่องการหย่าร้างระหว่างฉันกับคุณเจเรมี่ วิทแมน โดยเร็วด้วยค่ะ เพราะว่าผู้ชายที่รักฉันจากใจจริงกำลังรอฉันอยู่ด้านนอก”
เจ้าหน้าที่ชะงักไปชั่วครู่ เธอหันไปชำเลืองมองเจเรมี่ที่ยังคงนิ่งเงียบและรีบจัดการเอกสารการหย่าร้างในทันที หลังจากนั้น หนังสือสัญญาหย่าร้างสีแดงก็วางอยู่ตรงหน้าทั้งสอง
รูปภาพก่อนหน้าของทั้งสองในพิธีแต่งงาน ตอนนี้กลับคืนสู่การเป็นตัวของพวกเขาเองเป็นที่เรียบร้อย
ราวกับว่าเรื่องราวที่ผ่านมาถูกฉีกกระชากออกจากกัน และไม่สามารถนำกลับมารวมกันได้ใหม่
“ลินนี่”
“คุณวิทแมน ขอความกรุณาหยุดเรียกฉันแบบนั้นสักที”
เมเดลีนพูดแทรกขึ้นอย่างไม่สนใจไยดี “ฉันหวังว่าคุณและคนรักของคุณจะได้แต่งงานกันอย่างมีความสุขนะคะ”
เธอเอ่ยคำอวยพรออกมาโดยที่ไม่แม้แต่มองหน้าเจเรมี่เลย เธอลุกเดินผ่านเขาไป
เจเรมี่หันหน้าไปตามทิศทางที่เมเดลีนเดินจากไป เขาไขว่คว้าได้เพียงความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด
ความมืดมิดนั้นกระชากความรู้สึกทั้งหมดของเขาลงไป เหลือทิ้งไว้เพียงแสงอันริบหรี่ในจิตใจ
‘ลินนี่ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะ
‘แต่ผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักคือคุณนะ คนโง่’
เมื่อเดินออกมาจากที่ว่าการ เมเดลีนรู้สึกอึดอัด เธอรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกแทน
เฟลิเป้เดินไปยังที่จอดรถเพื่อขับมารับเธอ เมเดลีนที่ดูเหมือนสติได้หลุดหายไปกำลังยืนอยู่ตรงสี่แยก
ทันใดนั้นมีรถคันหนึ่งขับผ่านเดินไปอย่างรวดเร็ว และรถคันนั้นน่าจะเฉี่ยวเธอถ้าเธอยืนใกล้มันอีกเพียงนิ้วเดียว
เธอจำได้ว่าเจเรมี่เคยวิ่งเข้ามาคว้าตัวเธอออกจากเหตุการณ์อันตรายแบบนี้มาก่อน แต่ตอนนี้…
เมเดลีนหันหลังกลับไปและเห็นเจเรมี่เดินออกมาจากที่ว่าการอย่างสิ้นหลัง ดวงตาของเขาดูว่างเปล่าราวกับว่าเขามองไม่เห็นขั้นบันไดตรงหน้า เขากำลังเหยียบลงไปที่อากาศอันว่างเปล่า
เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวใจของเธอสั่นระรัวด้วยความกลัว ขณะที่เธอหมุนตัวและรีบวิ่งเข้าไปหาเขา