บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 67
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 67
‘งั้นหรอ?’
‘คุณทำสัญญาแค่กับเมเรดิธในชีวิตนี้แค่นั้นงั้นเหรอ?’
‘แล้วสิ่งที่คุณพูดมันออกมาในตอนนั้นมันเป็นแค่คำพูดที่ไร้ความหมายเหรอ? และฉันคงเป็นเพียงแค่ภาพบนอากาศที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิตที่ไม่ควรค่าแก่การจดจำสินะ’
ฮ่าๆ
มาเดลีนหลับตาที่เหนื่อยล้าลง เธอไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นน้ำตาหรือหยดน้ำฝนที่ไหลล้นไปทั่วดวงตาของเธอ
ก่อนที่เธอจะมีกำลังที่จะลุกขึ้นยืน แทนเนอร์และเธอถูกนำตัวเข้าไปในรถตำรวจ
ตลอด 48 ชั่วโมงที่ถูกคุมขัง มาเดลีนไม่สามารถรอดพ้นจากการถูกทำร้ายร่างกายในสถาณการณ์คล้ายคลึงกับครั้งก่อนได้อีกเลย
เหตุการณ์นี้ ทำให้เธอรู้สึกมึนงงกับเรื่องนี้ทั้งหมด เธอมึนงงจนไม่รู้สึกเจ็บเมื่อริ่มมีอาการอาเจียนเป็นเลือด
มีเพียงน้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้ น้ำตาทำให้หัวใจของเธอพร่ามัวและทำให้หัวใจของเธอจมลงไปในน้ำอย่างไร้ทางรอด
มาเดลีนคลานไปบนพื้นก่อนจะค่อยๆจับลูกกรงเพื่อพยุงตัวเองขึ้น แต่เเล้วใครบางคนเตะและต่อยเข้าที่หลังของเธอทุกรูปแบบ
เมื่อเธอมองไปที่แสงแดดข้างนอก เธอก็ยิ้มอย่างคร่ำครวญ
ในขณะที่เธออาศัยอยู่ในโลกที่เธอสร้างขึ้นด้วยต้วยน้ำมือตัวเองมานานหลายปี ผู้ชายคนนั้นกลับลืมเรื่องของเธอไปหมดสิ้น
เป็นเวลาหลายปีสิ่งนี้มันกลายเป็นเพียงความหลงไหลของเธอเพียงฝ่ายเดียว
แดเนียลใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการรวบรวมกำลังคนและพยานหลักฐานให้เพียงพอต่อการยื่นประกันตัวเธอและในที่สุดมาเดลีนถูกประกันตัวออกไปได้
เขาพามาเดลีนเข้าพบอดัมในทันทีเพื่อตรวจสุขภาพ เมื่ออดัมอ่านผลตรวจในมือ ใบหน้าของเขาก้มลงเล็กน้อยอย่างผิดหวัง
ยากำลังควบคุมการเติบโตของเนื้องอก แต่มีผลที่แย่ลงอย่างกะทันหัน
เขาไม่รู้ว่ามาเดลีนต้องเจอกับอะไรในช่วงเวลานี้ถึงทำให้ดัชนีการรักษาดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด เขาสั่งยาแก้ปวดให้กับมาเดลีน จากนั้น เขาเริ่มพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆเกี่ยวกับการผ่าตัดเร่งด่วนของมาเดลีน
…
เมื่อเจเรมี่มาถึงสถานีตำรวจเขามองหามาเดลีนก่อนจะได้ข้อมูลจากนายตำรวจเฝ้าเวรว่า เธอได้รับการประกันตัวโดยใครบางคนแล้ว
เขารู้สึกฉุนเฉียว เขาเดินทางไปที่บ้านของเธอทันทีก่อนจะพบว่าเธอกำลังนอนอยู่เขาคว้าผู้หญิงที่กำลังจะพักผ่อนหลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลขึ้นมา
“การที่เธอทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมมากมายแต่สามารถมานอนหลับตาสบายได้อย่างสนิทใจยังไงกัน?”
หัวของมาเดลีนถูกความปวดเล่นงานจนสั่น เธอมองไปที่ใบหน้าโกรธของเขาอย่างท้าทาย เธอก็กรีดรอยยิ้ม
“แล้วอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ นายท่าน วิทแมน? ต้องการจ้างคนมาทุบตีฉันเพิ่มมากขึ้นหรือต้องการจะทำให้มันจบเร็วโดยการฆ่าฉันไปเลยในครั้งนี้?”
เจเรมี่ไม่พอใจกับปฏิกริยาทั้งน้ำเสียงและความคิดที่เธอแสดงออกมาจากคำพูดอย่างเห็นได้ชัด เขาดึงเธอขึ้นมา “ฝันไปเถอะถ้าคิดว่าเธอจะสามารถตายได้อย่างง่ายดาย”
คำพูดของเขาปลุกความสับสนที่มีอยู่ในสมองของเธอให้ตื่นขึ้นมา
ความเย็นชาและน่าขนลุกถูกเเผ่ออกมาให้เห็นอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนในดวงตาของเจเรมี่
อากาศเย็นอันน่าสะพรึงแผ่ซ่านเข้ามาเล่นงานร่างกายของมาเดลีนอีกครั้ง
เธอพยายามดิ้นรนด้วยความหวาดกลัว “เจเรมี่ คุณกำลังพยายามทำอะไร? ความสุขของคุณเมื่อเห็นฉันตายใช่ไหม?”
“การตายสำหรับเธอดูเหมือนเธอจะได้รับประโยชน์จากมันมากเกินไป มาเดลีน ฉันต้องการให้เธอมีชีวิตที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย”
มาเดลีนไม่รู้ว่าเจเรมี่มีกลอุบายอะไรในกระทำและคำพูดที่โหดร้ายนี้เขาเพียงต้องการจัดการเธอ เธออยากจะหนีจากการเกาะกุมของเขา แต่มันไม่เป็นผลเขาแข็งแกร่งเกินไป เธอไม่สามารถดิ้นรนใดๆได้แต่ปล่อยให้เขาลากเธอออกจากบ้านอย่างง่ายดาย
เขาไม่ได้ใช้แรงมากเกินไปในการฉุดกระชากมาเดลีนไปที่รถก่อนจะผลักเธอเข้าไปด้านใน จากนั้น เขาก็สั่งให้คนขับมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่ง
มาเดลีนใช้เวลานานมากในการสงบสติอารมณ์ให้คงที่ แต่ตอนนี้เธอใกล้จะพังทลายอีกครั้ง
“เจเรมี่ฉันไม่เคยทำร้ายใคร เมเรดิธเป็นคนที่คอยจัดฉากให้ฉัน ทำไมคุณไม่เคยสืบหาความจริงของหล่อน? คุณเองเป็นคนฉลาดขนาดนี้ แล้วทำไมคุณถึงโดนเมเรดิธหลอกได้ขนาดนี้?”
บางทีน้ำตาของมาเดลีนอาจทำให้เจเรมี่มีรู้สึกเหมือนลังเลเล็กน้อย