บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 684
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 684
“หืม เธอจำพวกเราสองพี่น้องไม่ได้งั้นเหรอ? เธอต้องเคยเห็นพวกฉันในทีวีมาก่อนสิ? พวกฉันเป็นแก๊งมิจฉาชีพ กลุ่มคนร้ายที่ถูกตามจับตัวอยู่ ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินคำตอบนั้นตาของคาเลนก็เบิกกว้าง เธอกลัวมากจนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก
‘ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสองคนนี้จะเป็นมิจฉาชีพ!’
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ระหว่างนี้พวกเราจะไว้ชีวิตเธอไว้ก่อน เพราะเธอยังพอจะมีค่าอยู่”
จากนั้นชายทั้งสองก็คว้าตัวคาเลนและลากเธอออกไปข้างนอก
“พวกนายคิดจะทำอะไร?! ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ช่วยด้วย…” คาเลนตะโกนด้วยความกลัว
“ปล่อย! ปล่อยเธอซะ!” ผู้อาวุโสได้ยินเสียงความวุ่นวายโกลาหล และเขาได้โทรหาเจเรมี่ลับหลังพวกเขา จากนั้นเขาก็เข็นตัวเองออกมาจากห้อง
“คุณพ่อช่วยฉันด้วย คุณพ่อ! คุณพ่อ!” คาเลนส่งเสียงกรีดร้อง
อย่างไรก็ตาม ชายทั้งสองไม่ได้สนใจท่านปู่เลย พวกเขายกขาขึ้นถีบรถเข็นของท่านปู่ออกไป “นี่แกกำลังพยายามที่จะขุดหลุมศพให้ตัวแกเองหรือไง ไอ้แก่?!”
“คุณพ่อคะ! คุณพ่อ!” เมื่อเห็นผู้อาสุโสล้มลงกับพื้นและไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว คาเลนก็เริ่มรู้สึกกลัวและสติแตก น้ำตาของเธอไหลหลั่งออกมา
ขณะที่เมเดลีนกำลังส่งเจเรมี่กลับบ้าน เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากท่านปู่ เธอเหยียบคันเร่งเพื่อเร่งความเร็ว เมื่อพวกเขาไปถึงทางเข้าคฤหาสน์ เธอสังเกตเห็นได้ว่ามีรถตู้เพิ่งขับออกไป
เมเดลีนพาเจเรมี่กลับเข้าไปในบ้าน และพบว่าผู้อาวุโสล้มลงอยู่กับพื้นพร้อมกับรถเข็นของเขาที่คว่ำอยู่ที่พื้น
“คุณปู่คะ!” เธอวิ่งไปหาเขาด้วยความเป็นห่วง “คุณปู่ โอเคไหมคะ คุณปู่? คุณปู่คะ!”
“ช่วยด้วย ใครก็ได้?! ช่วยด้วย…”
ท่านปู่เปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแออย่างมาก “คา… ช่วยเธอด้วย…”
เมเดลีนเข้าใจว่าท่านกำลังหมายถึงคาเลน
เธอเรียกรถฉุกเฉินให้มารับผู้อาวุโสไปยังโรงพยาบาล ไม่นานหลังจากนั้น วินส์ตันก็ปรากฏตัวขึ้น
หลังจากผ่านกล้องวงจรปิดของทางเข้าหลักมาแล้ว วินส์ตันยังคงเดินไปเดินมาด้วยความรู้สึกกังวลอย่างมาก
“ทำไมคนพวกนั้นถึงกล้ามาปล้นบ้านเราได้? แล้วนี่พวกมันยังลักพาตัวคาเลนไปด้วยเหรอ?” เขาไม่เข้าใจความคิดที่อยู่เบื้องหลังของโจรพวกนั่น แต่เขาเป็นห่วงคาเลน
เจเรมี่นั่งอยู่ที่มุมหนึ่ง คิ้วเขาขมวดมุ่น
ถึงแม้ว่าคาเลนจะมีนิสัยที่แย่มาก ๆ แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็ยังเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของเขา
เมเดลีนนึกถึงถ้อยคำที่เขียนบนการ์ดที่เธอได้รับเมื่อเช้าวันนี้ เธอสงสัยว่ามันเกี่ยวข้องกันกับเหตุการณ์นี้ไหม
ระหว่างนั้นเอง โทรศัพท์ของเจเรมี่ก็ดังขึ้น
มีสายเรียกเข้ามาจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก เขารับสายและกดเปิดลำโพง ชายที่อยู่ปลายสายประกาศความต้องการของเขาออกมา “คืนนี้ตอน 22 นาฬิกา เจอกันที่สถานที่นัดหมายที่ฉันเตรียมไว้ และให้ภรรยาของนาย เมเดลีน เป็นคนเอาเงิน 500,000 เหรียญ มาให้ฉันเพื่อแลกกับแม่ของนาย ไม่อย่างนั้นนายจะจบลงด้วยการเก็บศพแม่นาย! จำไว้ให้ดี ส่งภรรยานายมาแค่คนเดียวเท่านั้น มาตามลำพัง ห้ามใครตามมา และห้ามไปแจ้งความ!”
ชายคนนั้นตัดสายทันที โดยไม่ให้เจเรมี่มีโอกาสได้พูดตอบ
เมเดลีนและวินส์ตันต่างได้ยินความต้องการที่ได้บอกไว้ทางโทรศัพท์
เมเดลีนยังคงสงสัยว่าเหตุใดโจรพวกนั้นจึงยืนกรานที่จะให้เธอเป็นคนเอาค่าไถ่ไปให้ วินส์ตันพูดว่า “เมเดลีน ตอนนี้เธอและคาเลนอยู่ในสถานะที่เลวร้ายต่อกัน และคาเลนก็ต่อต้านเธอมาตลอด เธอสามารถเลือกที่จะปฏิเสธความต้องการของพวกมันได้นะ ฉันจะไม่บังคับให้เธอไปเสี่ยง”
เจเรมี่เองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เขาไม่ต้องการให้เธอทำตามนั้น
เมเดลีนไม่ตอบอะไร แต่เธอตัดสินใจไปแล้ว
…
ณ ตึกร้าง คาเลนถูกทิ้งอยู่ที่มุมหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยแมลงสาบ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเป็นผู้หญิงร่ำรวยมีชื่อเสียง ซึ่งมักจะสวมใส่สิ่งที่ดีที่สุดและรับประทานอาหารที่ดีที่สุด มันเป็นเรื่องที่ทนไม่ได้เลยสำหรับเธอที่โดนกระทำแบบนี้ เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
“พวกแกเป็นใคร? ลักพาตัวฉันมาทำไม?” คาเลนถามด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น
ชายทั้งสองถอดหน้ากากออกและเยาะเย้ย “นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับเธอนะ เธอจำได้ไหม ว่าเธอเคยทำให้ใครขุ่นเคือง?”
คาเลนครุ่นคิดอย่างหนัก “เมเดลีนเหรอ? เธอเป็นคนผิด! นางสารเลวนั่นมันเจ้าเล่ห์จริง ๆ! ถึงแม้ว่าลูกชายของฉันจะปฏิบัติกับเธอดีมากก็เถอะ!”
เธอกัดฟันเมื่อจู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย เธอคนนั้นหัวเราะอย่างเย่อหยิ่งจองหอง
คาเลนเงยหน้าขึ้นมองและตกตะลึง “นี่เธอเองหรอ? ทำไมถึงเป็นเธอ?”