บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 692
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 692
เขามองเข้าไปในใบหน้าที่ดูคล้ายกับใบหน้าของเมเดลีนมาก เขาโบกมือของเขาเบา ๆ ขณะที่สีและภาพอันคมชัดฉายในแววตาของเขา
‘ฉันสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ อย่างงั้นเหรอ?
‘ฉันกลับมามองเห็นได้อีกครั้งแล้วจริง ๆ’
เมื่อนึกย้อนกลับไป เขาได้กลับมามองเห็นได้ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ เขาเห็นอีวอนผลักเมเดลีนตกหน้าผา และเขาก็คว้าเมเดลีนเอาไว้
“อืม…”
ในขณะนั้นเมเดลีนก็ส่งเสียงครางออกมา ทำให้เจเรมี่หลุดออกจากห้วงความคิดของเขา เขากอดเมเดลีนที่ยังสะลึมสะลืออยู่ในอ้อมแขนของเขาไว้
เมื่อเขาอุ้เมเดลีนขึ้น เขาค้นพบว่าใต้บริเวณที่เธอนอนอยู่นั้นเป็นหิน หลังศีรษะของเธอกระแทกกับมันตอนที่หล่นลงมา
หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ ขณะที่เขาอุ้มเมเดลีนไว้ในอ้อมแขนและเดินตรงไปข้างหน้า
เขาพยายามค้นหาเส้นทางออกไป แต่หลังจากเดินไปรอบ ๆ มาเป็นเวลานาน เขาก็พบกับความล้มเหลว
เขามองลงไปที่เธอซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงหมดสติ เจเรมี่กังวลใจและเริ่มเร่งฝีเท้า
“เจเรมี่”
ทันใดนั้นเขาก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเมเดลีน “ลินนี่ ฟื้นแล้วเหรอ?”
เมเดลีนลืมตาขึ้นด้วยความงุนงงและพยักหน้าตอบ “วางฉันลง”
“ไม่ คุณยังอ่อนแอมากอยู่นะ”
“ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิดหรอก”
เจเรมี่ไม่กล้าต่อต้านเธอ หลังจากที่เห็นเธอมีความมุ่งมั่นมาก
เขาวางเธอลงอย่างระมัดระวังและเหลือบมองเธอด้วยสายตากังวล “ลินนี่ คุณรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
เมเดลีนส่ายหัว และเมื่อเธอกำลังจะพูด เธอสังเกตเห็นว่าเจเรมี่จ้องมาที่เธอใจจดใจจ่อ
เธอยกมือขึ้นและโบกมือต่อหน้าเขา
ในวินาทีถัดมา เจเรมี่ก็จับมือเธอไว้
หัวใจของเมเดลีนเต้นระรัว “คุณมองเห็นด้วยเหรอ?”
เจเรมี่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ลินนี่ ผมกลับมามองเห็นอีกครั้งแล้ว”
เขาจับมือเธอและในดวงตาของเขายังคงดูเร่าร้อน “นานแล้วนะ ลินนี่ คุณสวยขึ้นเยอะเลย”
เมเดลีนตกตะลึง ไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายอารมณ์ของเธอในตอนนี้ได้ เธอพยายามระงับอาการใจสั่นและดึงมือกลับ แต่เธอก็ยังงงอยู่ดี
“นี่ตาคุณหายตั้งแต่เมื่อไหร่?” เธอจำได้ว่าเขายังมองไม่เห็นตอนที่เขามาช่วยเธอเมื่อคืนนี้
‘เขากลับมามองเห็นหลังจากที่ตกจากหน้าผาเหรอ?’
ขณะที่ยังครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ เธอก็ได้ยินเจเรมี่ตอบกลับมา “เมื่อคืนนี้ ผมเป็นกังวลมากและมองหาคุณทุกหนแห่ง แต่เมื่อทุกอย่างดูสิ้นหวัง จู่ ๆ ผมก็เห็นอีวอนกำลังจะผลักคุณลงจากหน้าผา นั่นคือช่วงเวลาที่ผมสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง”
เมเดลีนรู้สึกประหลาดใจ
‘หมายความว่าฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เจเรมี่สูญเสียการมองเห็นเหรอ?’
‘ฉันไม่คาดคิดว่าเขาจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง เพราะเขาดูสิ้นหวังตอนที่เขาหาฉันไม่เจอ’
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาห่วงใยและคิดถึงเธอมากแค่ไหน จนขนาดที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ได้
แน่นอนว่าเธอไม่ลืมช่วงเวลาที่เขารีบคว้าตัวเธอไว้และพูดว่า “ตั้งใจฟังผมนะ เอวลีน ผมจะไม่มีวันปล่อย แม้แต่ความตายก็ไม่ทำให้ผมปล่อยคุณไปได้!”
เขาไม่ปล่อยเธอไป เหนี่ยวรั้งเธอไว้อย่างสุดซึ้งภายในอ้อมแขนของเขา แล้วตกลงไปสู่ความอันตรายที่ไม่รู้จักพร้อมกันกับเธอ
อย่างไรก็ตาม ลึก ๆ ในใจเจเรมี่รับรู้ว่าเขาสามารถกลับมามองเห็นในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ก็เพราะเขาเอาชนะอุปสรรคภายในจิตใจเขาแล้ว
เมื่อสามปีที่แล้ว เมเดลีนสูญเสียการมองเห็นเพราะว่าเมเรดิธเอากระจกตาของเธอออกไป สิ่งนี้เป็นหนามฝังอยู่ลึก ๆ ในตัวเขา
เขาไม่สามารถยกโทษให้ตัวเองได้ และแม้กระทั่งในตอนนี้ เขายังไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองได้เลย
เกิดความเงียบขึ้นท่ามกลางพวกเขา เมเดลีนหันกลับมา แค่เพียงเธอเริ่มก้าวแรก ความรู้สึกแสบร้อนและเต็มไปด้วยอาการเจ็บแปล๊บ ๆ ก็พุ่งขึ้นจากนิ้วเท้าของเธอ
เธออยากจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ ๆ เจเรมี่ก็คุกเข่าลงต่อหน้าของเธอ
เมเดลีนต้องการจะหลบเลี่ยงเขา แต่เจเรมี่ก็คว้าข้อเท้าซ้ายของเธอเอาไว้แล้ว
“นี่คุณคิดจะทำอะไร เจเรมี่?”