บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 70
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 70
เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไม่มีใครในห้องคาดคิดว่าผู้นำตระกูลจะถามคำถามแบบนี้นับประสาอะไรกับ มาเดลีนแน่นอนว่าเธอกำลังช็อคมาก
อัตราการเต้นของหัวใจที่คงที่กลับเต้นเเรงขึ้นจากเลือดที่สูบฉีด มาเดลีนเธอไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนั้นอย่างไร
ชายชราผู้ผ่านประสบการณ์ทางโลกมามากมายเห็นใบหน้าแดงเป็นลูกตำลึงของเด็กสาวตรงหน้า มันทำให้เขาเข้าใจในทันที
รอยยิ้มอ่อนโยนจากชายชราอารมณ์ดีปรากฏขึ้นหลังจากที่เขาเงยหน้าขึ้นมองเจเรมี่ ก่อนจะปรายสายตาเคร่งขึมมองไปที่เมเรดิธและแม่ของเจเรมี่ที่มีสีหน้าคล้ายคนโดนขัดใจ
“ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ทำลายใบสมรสการแต่งงานนี้ตราบเท่าที่ผมอยู่ที่นี่!” ผู้นำตระกูลสูงสุดประกาศกร้าวอย่างจริงจัง
มาเดลีนสังเกตเห็นใบหน้าของเมเรดิธมีความมืดมิดราวกับก้อนถ่านหินมันดูน่ากลัวมาก เธอคิดว่าหล่อนต้องกำลังสาปแช่งผู้อาวุโสคนนี้เป็นแน่ด้วยคำสาบส่งทั้งหมดที่มีอยู่ในหัวของหล่อน
“คุณมอนต์โกเมอรี”
ผู้อาวุโสวิทแมนเอ่ยปากกับเมเรดิธด้วยการเรียกฐานะของเธอในขณะที่เธอเป็นทาญาติของตระกูลมอนต์โกเมอรี
เมเรดิธฝืนยิ้มบนใบหน้าของเธอ “ค่ะ นานท่านวิทแมน”
“ผมเชื่อว่าหลานสะใภ้ของผมไม่ได้ลักพาตัวลูกชายของเธอ แต่ถ้าเธอขืนยืนยันว่าหลานสะใภ้ผมเป็นคนทำ เธอก็ควรขอให้ใครคุยกับทนายของผม”
“… ” รอยยิ้มของเมเรดิธเยือกเย็นลงทันที
เธอคิดไม่ถึงว่าชายชรามีอำนาจคนนี้จะปกป้องมาเดลีนถึงเพียงนี้!
นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ!
เขายัวคอยย้ำสรรพนามที่เรียกมาเดลีนว่าหลานสะใภ้ของเขา นั่นทำให้เมเรดิธเกิดความริษยามากจนใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวจนแทบจำไม่ได้
แม่ของเจเรมี่ยังตกใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้เช่นกัน “คุณพ่อ กำลังสับสนอะไรหรือเปล่า? มาเดลีน ทำสิ่งที่เลวร้ายมากมาย ทำไมคุณพ่อถึง-”
“ผมแก่แล้วก็จริง แต่ผมไม่ได้สับสนหรือเลอะเลือน!” ผู้อาวุโสวิทแมนโต้กลับด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง แม่ของเจเรมี่ไม่กล้าพูดอะไรอีก ในขณะเดียวกัน เมเรดิธเองที่กำลังโกรธจนใบหน้าเป็นสีเขียวแต่ไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน
“ดึกแล้ว เจเรมี่ พาภรรยาของคุณไปเดี่ยวนี้”
ผู้อาวุโสเอื่อยเอ่ยเป็นคำสั่ง และแน่นอน เจเรมี่เดินไปข้างๆมาเดลีนอย่างว่าง่ายก่อนจะจับมือเธออย่างแนบชิด “กลับบ้าน”
เมื่อสัมผัสมือของเจเรมี่ถูกถ่ายทอดผ่านมือมาให้เธอ หัวใจของมาเดลีนมีอาการเต้นผิดจังหวะกระโดดไปมาอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือของเขาเย็นเล็กน้อย แต่เมื่อสัมผัสกับฝ่ามือของ มาเดลีน มันให้ความรู้สึกเหมือนแผ่เหล็กร้อนที่ร้อนระอุขึ้น มันยิ่งทำให้เธออึดอัดกว่าเดิม
มาเดลีนมองเห็นดวงตาที่เบิกกว้างของเมเรดิธ เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เจเรมี่อย่างว่าง่าย “ตกลง” เธอแสร้งทำเป็นพยักหน้าให้เขาอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่พวกเขาอำลาคุณปู่ มาเดลีนได้แต่เดินตามหลังเจเรมี่ไปอย่างเงียบ ๆ
ระหว่างทางไปที่รถ มาเดลีนรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงของดวงไฟขนาดใหญ่แผดเผาหลังเธอ เธอหันหน้าไปมองด้านหลังและเห็นว่าเมเรดิธกำลังแผ่รังสีความโกรธและความแค้นที่ถูกบีบอัดแน่น
มาเดลีนพอใจเป็นอย่างมาก ที่เห็นเมเรดิธสภาพนี้ ไม่นานนักมือของเธอถูกสะบัดออกไปอย่างกะทันหัน
เจเรมี่เหยียบคันเร่งสุดขีดจำกัดของรถยนต์ก่อนจะหันมาพูดอย่างเย็นชาว่า “มาเดลีน ฉันประเมินเธอต่ำไป เธอวางยาปู่ของผมด้วยอะไร? เพื่อให้เขาจะได้ปกป้องเธอขนาดนี้?”
มาเดลีนมองไปที่เจเรมี่ ใบหน้าด้านข้างของเขาที่ยังคงดูหล่อเหลาเหมือนเดิม แต่ความอ่อนโยนนั้นกลับไม่มีเหลือให้เห็น
ฝนเริ่มตกอีกแล้ว
มาเดลีนปัดปอยผมที่หลุดออกไปให้พ้นใบหน้าของเธอก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้เขา
“คุณกำลังพูดอะไรที่ไร้สาระ ที่รัก? ถ้าฉันมียาวิเศษที่ว่า นั้นคงจะทำให้ ฉันเลือกใช้กับคุณก่อน”
รถถูกเบรกกะทันหลังจากที่เธอพูดประโยคยั่วยวนนั้นจบ