บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 71
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 71
เนื่องจากความการตอบสนองช้าของร่างกาย มาเดลีนการหยุดรถกระทันหัน ทำให้เธอไม่ทันได้ตั้งตัวส่งผลให้ร่างกายของเธอพุ่งไปข้างหน้า อาการปวดอย่างรุนแรงกำเริบขึ้นทางท้องเธอทันที มาเดลีนขดร่างกายตัวเองเพื่อพยายามบรรเทาความเจ็บปวด แต่ก่อนที่เธอจะหายเจ็บ เจเรมี่กระชากเธอเข้าไปหาเขา
ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลาแม้จะมีความโกรธที่ท่วมท้น แต่ความเกรี้ยวกราดพวกนั้นไม่สามารถลดความงดงามของใบหน้านั้นได้เลยความโกรธของเขาปะทุขึ้นเมือเธออยู่ตรงหน้าเขา
เจเรมี่มองมาเดลีนด้วยรังสีอำมหิต “นั้นเธอยอมรับแล้วใช่ไหมว่าเธอเป็นคนวางยาผมและพยายามขึ้นเตียงกับผมตอนนั้นใช่หรือไม่?”
มาเดลีนมองไปที่ใบหน้าที่เธอเฝ้ารักมาหลายปีแล้วยิ้ม
“ถ้าคิดว่าฉันทำอย่างนั้น ฉันยอมรับว่าทำก็ได้ คุณชายวิทแมน” เธอไม่ต้องการอธิบายอะไรอีกต่อไปในตอนนี้มันไม่จำเป็นอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจเรมี่หยุดคาดคั้นเธอและมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มที่อยู่ตรงหน้าเขา รอยยิ้มที่คล้ายคลึงกันปรากฏขึ้นในหัวของเขาอย่างสับสน ก่อนมือที่จับคอเสื้อของมาเดลีนจะคลายออก ต่อจากนั้น ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีต่อมา ความรู้สึกรังเกียจอันเเรงกล้าถูกส่งออกมาจาสายตาของเขา
“ไร้ค่า” เขาสบถคำดูถูกออกจากริมฝีปากและผลักมาเดลีนออกไป
ความรู้สึกจุกในท้องทำให้เธอต้องอดทนอย่างหนักและเธอก็ขมวดคิ้วขณะที่ทนกับมัน จากนั้นเธอก็ยิ้มให้เจเรมี่อย่างสุดซึ้ง
“ใช่ ฉันมันไร้ค่า แต่อยา่งนั้น ไม่ว่าฉันจะไร้ค่าแค่ไหน ฉันก็ยังใจสะอาดกว่าคนรักของคุณ 1,000 เท่า ไม่สิ 1,000,000 เท่า”
“หุบปาก!” เจเรมี่ตะคอกขณะนั้นเพื่อขัดคำพูดเธอ “นี่เธอพยายามดูถูกเมอร์อีกแล้วเหรอ?”
“เฮ้” มาเดลีนหัวเราะขณะที่เธอทนกับความเจ็บปวด “ฉันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องดูถูกเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่ดันทำแท้งหลังจากที่เธอท้องงั้นหรือ?”
หลังจากที่เธอพูดแบบนั้น เจเรมี่ใช้มือบีบรัดคอของเธอทันที
ในช่วงเวลานั้น มาเดลีนสูญเสียจังหวะในการหายใจอย่างอิสระ
“มาเดลีน พูดอีกครั้งสิ เธอเชื่อไหมว่าฉันจะบีบคอเธอให้ตายตอนนี้ยังทำได้?” เจเรมี่กัดฟัน ดวงตาที่เคร่งขรึมของเขาจ้องมองไปที่มาเดลีนราวกับว่าเขากำลังจะกินเธอ
ใบหน้าของมาเดลีนเป็นสีแดง แต่เธอไม่วิงวอนขอความเมตตา “ฉันจะพูดให้ชัดๆอีกครั้งและต่อให้ต้องพูดอีกเป็นร้อยครั้งก็ตาม เมเรดิธ ครอว์ฟอร์ดเป็นผู้หญิงตีสองหน้าที่แสร้งทำเป็นไร้เดียงสาและบริสุทธิ์!”
แม้ว่าเธอจะหายใจลำบาก แต่ทุกคำพูดของมาเดลีนมีพลังทุกคำที่และถูกเปร่งออกมาอย่างดังก้อง ดวงตาของเธอมองลึกไปยังดวงตาอันเยือกเย็นของเขาที่กำลังจับจ้องเธอราวกับคบเพลิง “เจเรมี่ ฉันขอสาบานด้วยชีวิตของฉันว่าก่อนหน้านี้ฉันมีผู้ชายเพียงคนเดียวและนั่นก็คือคุณ ยังไงก็ตาม เมเรดิธมีผู้ชายมาแล้วมากมายจนคุณไม่สามารถนับพวกเขาทั้งหมดด้วยนิ้วทั้งสิบได้
“ลูกที่คุณมีเมื่อสามปีก่อนเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของคุณ แต่คุณยืนยันที่จะเชื่อใจเธอ เธอถึงขั้นเสียสละลูกของเราเพราะการแท้งบุตรที่เธอสร้างสถาณการณ์ขึ้นมา”
สิ่งที่เธอพูดถึงนี้ มาเดลีนรู้สึกราวกับมีดที่มองไม่เห็นกำลังหั่นบนหัวใจที่แสนบอบช้ำของเธอ
เธอสะอื้นไห้เมื่อน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
เจเรมี่มองอย่างงุนงง เขาปล่อยมาเดลีนในทันที
“เอาะ เอาะ…” มาเดลีนอ้าปากค้างเพื่อทำการกลืนกินอากาศอย่างหิวโหย เธอเห็นการจ้องมองที่มืดมนและเย็นชาของเจเรมี่จากมุมตาของเธอ เธอหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เจเรมี่ คุณสามารถไปตรวจสอบสิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ได้เลย”
“ฮึ่ม” เจเรมี่ตะคอก “เธอคิดว่าผมจะเชื่อคำพูดของผู้หญิงที่ขี้คุกงั้นหรือ?”
มาเดลีนยิ้มอย่างประชดประชัน “ถ้าฉันโกหก ขอให้ฉันจะต้องตายอย่างสยดสยอง”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ควรจะตายไปซะ” เจเรมี่ด่าอย่างไร้ความปรานี
มาเดลีนรู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอถูกแช่แข็งมันช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน
เจเรมี่เปิดประตูรถ “ไปให้พ้น”
เขาทิ้งเธอไว้ข้างถนน อีกทั้ง ภายนอกรถยังมีฝนที่กำลังตกอย่างหนัก
เขาไม่ได้มองไปที่มาเดลีนสักนิด จากนั้น เขาหมุนพวงมาลัยเพื่อขับออกไป
เธอนึกถึงสิ่งที่เขาพูดกับเธอก่อนที่เธอจะลงจากรถ จากนั้น มาเดลีนพยุงตัวเองขึ้นและนั่งยองๆอยู่ข้างถนนด้วยความเจ็บปวดและอ่อนล้า ใบหน้าของเธอขาวซีดราวกับหิมะ
เม็ดฝนขนาดใหญ่สาดกระหน่ำลงบนร่างกายที่อ่อนแรงของเธออย่างไร้ความปราณี ร่างกายของเธอเย็นและเริ่มชาหัวใจของเธอก็เช่นกัน
เมื่อเธอกำลังหมดสติ มาเดลีนเห็นรถสีเงินคันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าเธอ จากนั้น ชายคนหนึ่งเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเธอพร้อมกับร่มสีดำถูกกางออก