บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ - บทที่ 712
บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 712
ความรู้สึกมากมายประดังประเดเข้ามาภายในใจเธอ ทันใดนั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงบางสิ่งปริแตกออกมา ก่อนที่รถคันนั้นจะระเบิด
เมื่อเห็นว่าเมเดลีนไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ อีวอนแทบจะระเบิดความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดออกมา
“เมเดลีน ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะ…”
ตู้ม!
“อ๊า!”
เจเรมี่ถีบอีวอนออกไปและดึงตัวเมเดลีนเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นเขาก็วิ่งตรงไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ลินนี่ วิ่งเร็ว! รถกำลังจะระเบิดแล้ว!”
‘อะไรนะ?
‘รถกำลังจะระเบิดอย่างนั้นเหรอ?’
ตอนนี้เมเรดิธยังคงถูกมัดไว้อยู่กับต้นไม้ เมื่อได้ยินคำว่าระเบิดแว่วเข้าหู เธอตะลึงงันด้วยความกลัว
จากนั้น เพียงพริบตาเดียว สะเก็ดเพลิงเป็นประกายและเกิดเสียงระเบิดครั้งใหญ่ก็ดังก้องไปทั่ว
ตู้ม!
แรงลมจากการระเบิดครั้งนี้รุนแรงเสียจนต้นไม้ใบหญ้าบริเวณโนรอบล้มระเนระนาดไปกับพื้น
เจเรมี่อุ้มลิเลียนไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งก็โอบกอดเมเดลีนเอาไว้ เขาพยายามที่จะปกป้องสองคนแม่ลูกไว้ในอ้อมแขนของเขา
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
เมเดลีนเงยหน้าขึ้น และสิ่งแรกที่เธอเห็นคือบาดแผลบริเวณหลังของเจเรมี่ มีดเล่มนั้นยังคงปักคาอยู่ตรงไหล่ของเขา และบาดแผลนี้บอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าอีวอนใช้แรงมากมายขนาดไหนในการปักมีดเข้ามา ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าอีวอนต้องการให้เธอตายมากแค่ไหน
“ลินนี่ ลิลลี่หมดสติไปแล้ว ตอนนี้เราไปโรงพยาบาลกันก่อนเถอะ” เมเดลีนเพิ่งตระหนักได้ว่าลิเลียนหมดสติไปแล้วก็ตอนที่เจเรมี่บอกเธอ
เธอรีบร้อนขึ้นรถของเจเรมี่ และไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่สักวินาทีเดียวอีกเพื่อมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
หลังจากเฟลิเป้ได้รับข่าว เขาก็รีบตรงดิ่งมายังสถานที่เกิดเหตุก่อนที่จะเกิดระเบิดเพียงอึดใจเดียว จากนั้นเขาก็เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะลงมาจากรถ
ทั้งสามชีวิตรอดออกมาจากเหตุการณ์วิกฤตในครั้งนี้ได้ด้วยสภาพที่มือข้างหนึ่งของเจเรมี่อุ้มลิเลียนอยู่ และอีกข้างหนึ่งโอบกอดเมเดลีนเอาไว้
อย่างไรก็ตาม เขาคาดไม่ถึงว่าเมเดลีนจะกังวลเกี่ยวกับเจเรมี่เป็นสิ่งแรกทันทีที่รอดตายมาได้
เฟลิเป้กำพวงมาลัยแน่นและความมืดมนก็ปรากฏอยู่ภายในดวงตา
จากนั้น เฟลิเป้รีบหักพวงมาลัยเลี้ยวกลับไปเมื่อได้ยินเสียงรถตำรวจใกล้เข้ามา
ณ โรงพยาบาล
เมเดลีนโล่งอก หลังจากที่เห็นว่าลิเลียนได้สติขึ้นมา
เมื่อเดินตรงมายังคลินิก เธอกลับรู้สึกกังวลอย่างน่าประหลาดเมื่อได้ยินคุณหมอบอกว่ามีดปักเข้าไปถึงกระดูกของเจเรมี่ และบาดแผลค่อนข้างรุนแรงเลยทีเดียว
จากนั้น เธอได้ยินเจเรมี่สอบถามคุณหมออย่างเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการของเธอและลิเลียนว่าเป็นอย่างไรบ้าง
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าพวกเธอไม่เป็นอะไร เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
เจเรมี่พาดเสื้อโค้ทที่ท่วมไปด้วยเลือดของเขาไว้ตรงไหล่ และเดินออกมาด้วยท่าทีที่เหนื่อยอ่อน เขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเมเดลีนยืนรอเขาอยู่ตรงประตู ถึงกระนั้น เขากลับยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “ลินนี่ ดีจริง ๆ ที่คุณกับลิลลี่ปลอดภัย”
เมเดลีนมองไปที่เขาพลางพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เดี๋ยวฉันจะขับรถไปส่งคุณที่บ้านเอง”
เจเรมี่รู้สึกปีติอย่างที่สุด “ได้สิ”
เฟลิเป้ตามพวกเขามาถึงโรงพยาบาล เมื่อเห็นว่าเมเดลีนกำลังพูดคุยบางอย่างกับเจเรมี่อยู่เพียงสองคน อีกทั้งเธอยังจะไปส่งเจเรมี่กลับบ้านอีก เขาก็แทบคุมสติตัวเองไม่อยู่
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาก็ปิดประตูขังตัวเองไว้ในห้องทำงานเพื่อดื่ม เปลวเพลิงแห่งความเดือดดาลที่กำลังแผดเผาอยู่ภายในอกก็ไม่สามารถดับลงได้ด้วยน้ำเมาอันเย็นเฉียบที่เขาเพิ่งจะกระดกเข้าไปอย่างรีบร้อน
‘ทำไม?
‘ทำไมคุณถึงยังเป็นห่วงมันอยู่อีก?’
“ทำไมกัน?” เฟลิเป้เอ่ยถาม เขาทำใจยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้
เขาทุบแก้วไวน์ในมืออย่างแรงจนเศษแก้วแตกละเอียดคามือ เพียงพริบตา เลือดสีแดงก็เริ่มไหลทะลักออกมาจากร่องนิ้วมือทั้งห้า แต่ตอนนี้เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เคธี่จึงเดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลในมือ “เฟลิเป้คะ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลย” เธอพูดกับเขาพลางรู้สึกสงสารชายหนุ่มตรงหน้า เมื่อเห็นเลือดไหลรินออกจากฝ่ามือของเขา เธอรู้สึกราวกับว่าหัวใจดวงน้อยของเธออาบไปด้วยเลือดเช่นกัน
เฟลิเป้ปัดมือเธออกไปอย่างแรง “ออกไปให้พ้น”
“ฉันไม่ยอมทิ้งคุณไปไหนหรอกค่ะ โดยเฉพาะตอนที่คุณอารมณ์ไม่ดีแบบนี้” เคธี่จ้องมองเฟลิเป้ด้วยสายตาอันมุ่งมั่น หลังจากนั้น เธอจับมือของเขาขึ้นมาทำแผล
สายตาของเฟลิเป้ดำมืดขึ้นเรื่อย ๆ เขาใช้มือที่เปื้อนเลือดข้างนั้นจับคางของเคธี่ขึ้นมา ขณะที่ประกายแสงแห่งความมุ่งร้ายปรากฏขึ้นในดวงตาอันโกรธเกี้ยวของเขา
“คิดว่าการที่มาดูแลเอาใจฉันแบบนี้ ฉันจะชอบเธอขึ้นมาหรือไง? ขอบอกอะไรไว้สักอย่างนะ อย่าแม้แต่จะคิด”
“แต่ว่าฉันอยากจะคิดนะคะ” เธอจับจ้องดวงตาอันเย็นชาของเขา กลับกัน ดวงตาของเธอส่องประกายแสงแห่งความหลงใหลและไฟรักที่ไม่มีวันมอดดับไปให้เขา
เฟลิเป้ถอยหลังไปทีละนิด แต่วินาทีต่อมา เคธี่ก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้เขาอย่างอาจหาญและบรรจงจูบบนริมฝีปากของเขา